หลังจากการเตรียมงานอยู่นานสองนาน
ก็ใกล้ถึงวันงานเข้ามาแล้วเรียกได้ว่านับถอยหลังสองวันสุดท้ายกันเลยทีเดียว
บรรดาว่าที่เจ้าสาวต่างพากันตื่นเต้นอยู่ไม่สุข
โดยเฉพาะคืนนี้ที่เรียกได้ว่าคืนสละโสดที่บรรดาคุณแม่ทั้งหลายจัดให้ลูกชายที่กำลังจะเป็นเจ้าสาว
คุณนายเซริวรับหน้าที่เป็นแม่งานเพื่อจัดปาร์ตี้ให้เด็กๆ
โดยคุณนายโฮวอนและคุณนายซองจงก็ไม่ขัดแต่อย่างใด ก็แค่งานเล็กๆ
สังสรรค์กับตามประสามคุณเมียกะคุณว่าที่เมีย เด็กๆ
ไม่ค่อยสนุกกับงานสักเท่าไหร่มแต่บรรดาคุณแม่ที่สนุกจนเริ่มจะเมาปลิ้นกันนิดๆ
โดยเฉพาะคุณนายโฮวอนที่ดูท่าจะเมากว่าใครเพื่อนตอนนี้กำลังเต้นจนฟลอร์รุกเป็นไฟ
ส่วนคุณนายซองจงก็ลุกขึ้นส่ายสะโพกทันทีที่ได้ยินเพลงเกิร์ลกรุ๊ปวงโปรดอย่าง 4Minite&2NE1 ส่วนคุณนายเซริวนะรึนั่งครึ้มอกครึมใจอยุ่คนเดียวจนคนเป็นลูกต้องถาม
“แม่ไม่ไปเต้นกับพวกคุณน้าเขาหรอครับ?” คุณนายหันมาตอบลูกชายอย่างใจเย็นว่า
“ถ้าแม่เต้นสองคนนั้นก็ไม่ได้เกิดสิลูก!” ช่างเป็นคำตอบที่น่าหมั่นไส้เล็กน้อย
แต่พอเป็นเพลงของ BigBang แค่นั้นแหล่ะคุณนายเต้นกระจายเลยคร้า
สองคนที่เหลือก็ดับสิค่ะคุณนายเธอเล่นออกเสต็ปถูกเป่ะเว่อร์อะ
แล้วคำคืนแห่งงานปาร์ตี้สละโสดจึงกลายเป็นงานปาร์ตี้ของคุณแม่บ้านรำลุกความหลังไปแบบเนียนๆ
ส่วนคุณลูกก็ได้แต่มองแบบอมยิ้มให้กับค่ำคืนที่สนุกสนานของบรรดาคุณแม่
เช้าวันงานออกจะวุ่นวายอยู่สักหน่อย
เพราะบรรดาเจ้าบ่าวทั้งหลายกำลังจะลงแดงตายเพราะไม่ได้เจอหน้าเจ้าสาวมาตั้งกะวันก่อนแล้ว
ก็แหมพวกพ่อแม่เขากลัวว่าเด็กๆ
จะทำให้ตัวเองหมดแรงก่อนเข้าหอก็เลยต้องจับแยกกันเอาไว้ก่อน
“ลุงมินซูมาช่วยผมหน่อยจะได้ไหมเนี่ย? ผมเป็นหลานลุงก่อนไอ้แด้มันจะเป็นลูกชายลุงนะ!”
เสียงยงกุกโวกเวกโวยวายดังงลั่นไปทั่วบ้าน
ก็แหมตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูก กลัวว่าจะหล่อน้อยกว่าคนอื่นก็เลยต้องโวยวายดั่งลั่น
“มาแล้วครับ มีอะไรให้ผมช่วยไหมพี่?” น้ำเสียงที่คุ้นเคยลอยมาแต่ไกล
ใจหนึ่งอยากจะวิ่งไปกอดเพราะมีคนมาช่วยเขาแล้ว
ส่วนอีกใจก็อยากกระทืบว่าทำไมมึงไม่มาตอนงานเลิกเลยว่ะ
“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิครับพี่ ผมพาผู้เชี่ยวชาญมาช่วยเลยนะ!” ฮยองซิกพูดทักทายก่อนที่คนตัวเล็กกว่าจะเดินมาทางยงกุกที่กำลังง่วนสาละวนกับชุดทักซิโด้สีขาว
“เดี๋ยวพี่ช่วยจัดเองนะยงกุก ใจเย็นหน่อยได้ไหม
ทำนิ่วคิ้วขมวดระวังจะหมดหล่อนะ!” ชีวานแก่กว่ายงกุกจึงง่ายที่จะจัดการ
เพราะอย่างน้อยยงกุกก็มีมารยาทอยู่บ้างเล็กน้อย
หลังจากชีวานมาถึงยงกุกก็หล่อใสขึ้นเป็นกอง ชุดเจ้าบ่าวถูกจัดให้เข้าที่เข้าทางส่วนใบหน้าหล่อก็ถูกเติมแต่งเล็กน้อยให้ดูหล่อที่สุดในวันสำคัญ
ต่างจากแดฮยอนที่ตอนนี้เริ่มจะโวยวายคล้ายยงกุกเมื่อก่อนหน้านี้
เพราะคนมาช่วยดันทำให้ขาวได้แต่หน้าส่วนคอยังคงดำอยู่ไม่ต่างจากเดิม
เล่นเอาหัวเสียไปเลย
“ถ้าจะมาแต่งหน้าให้แบบนี้ไม่แต่งดีกว่ามั้ยว่ะ?” ตัวตนที่แท้จริงเริ่มถูกเปิดเผยออกมาทำเอายงกุกหัวเราะน้ำตาเล็ดก็ดันขาวแต่หน้าจริงอ่ะ
ลำบากถึงชีวานที่ต้องเข้าไปช่วยถึงได้ความหล่อกลับมา
ส่วนอีกคนดูจะสบายอารมณ์เกินเหตุ
“ไอ้ฮิม! แกไม่กลุ้มใจอะไรบ้างเลยรึไงว่ะเฮ้ย?”
แดฮยอนที่เห็นอีกคนสบายใจเกินเหตุก็ออกปากถาม
“ชุดกูก็ใส่เรียบร้อย หน้ากูก็ไม่ต้องแต่งเพราะกูขาวและหล่ออยู่แล้ว
กูมีอะไรต้องเครียดว่ะ??” ว่าแล้วฮยองซิกก็พูดเรื่องที่ฮิมชานต้องเครียกขึ้นมาแทนทุกคน
“พ่อกับแม่ของพี่อยู่ข้างนอกนะครับ เห็นว่าอยากจะเข้ามาแต่กลัวว่าพี่จะโกรธก็เลยรออยู่ข้างนอกนะครับ
เห็นบอกว่าทันรู้ว่ากำลังจะได้หลานก็เลยจะมาคุยกับพี่
ท่านให้มาบอกว่าอยากทำร้านอะไรก็ได้จะไม่บังคับแล้วขอแค่ให้ได้เจอว่าที่ลูกสะใภ้นะครับ!!!”
คำพูดของฮยองซิกเล่นเอาฮิมชานหัวเสีย
“จะมาอะไรตอนนี้ว่ะ บรรยากาศดีๆ เสียหมด!!” เพื่อนอีกสองคนก็ได้แต่ช่วยกันทำให้เจ้าตัวเย็นลง
“ไม่ดีรึไงว่ะ? ไหนๆ
ก็จะไม่บังคับอะไรแล้วก็เอาหลานมาเป็นข้ออ้างขอเงินไปดำน้ำผึ้งพระจันทร์เลยสิว่ะ”
แต่ฮิมชานดูจะไม่ตื่นเต้นกับถ้อยคำที่ว่า
“เมียกูท้อง ไปนอนเขี่ยกันรึไง??” คำตอบเล่นเอาฮาแตกกันถ้วนหน้า
ก็แหมคืนเข้าหอดันทำอะไรไม่ได้ซะงั้นเพราะเมียท้อง
“มึงไม่คิดจะพายองแจไปเที่ยวรึไงว่ะ? เจ้าตัวเองก็คงรู้สึกแย่เหมือนกันแหล่ะน่า!!”
ยงกุกดูจะมีเหตุมีผลในสายตาเพื่อนก็ตอนนี้
ในตอนนี้ฝ่ายเจ้าบ่าวพร้อมกันแล้ว
แล้วด้านเจ้าสาวทั้งสามล่ะเป็นยังไงกันนะ
“แม่ครับ ผมน่ารักรึยังครับ??” จองอบยังคงถามคุณนายซองจงไม่ขาดสาย
ถามทุกห้านาทีเลยก็ว่าได้
ก็แหมขนตาปลอมที่ติดเข้าไปช่วยให้ตาโตขึ้นมาได้เจ้าตัวเลยตื่นเต้นใช่เล่น
ส่วนยองแจก็สาละวนอยู่กับการหาของกินเพราะดูเหมือนการท้องเข้าเดือนที่สองจะทำให้เจ้าตัวหิวมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว
“แม่ครับมีน้ำผลไม้หรือนมหรืออะไรก็ได้ให้ผมกินหน่อยได้ไหมครับ?” หิวจนไส้กิ่ว
แต่จะกินมากก็ไม่ได้เพราะต้องใส่ชุดเจ้าสาวที่ต้องแก้มาแล้วสองรอบเพราะพุงที่โตขึ้น
เห็นจะมีก็แค่คนงามของยงกุกที่ดูจะใจเย็นผิดปกติ
เอาแต่จ้องมองตัวเองในกระจกแล้วก็นั่งคิดอยู่ในใจว่ายงกุกจะชอบไหม?
“นั่งยิ้มหวานอะไรกันจ๊ะลูกฉัน?” เซริวเหมือนจะรู้ใจเจโล่ไม่น้อย
“ยงกุกต้องตะลึงจนหงายท้องเลยล่ะ!” รอยยิ้มของแม่ทำให้เจโล่ยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่ายงกุกต้องชอบที่เห็นเขาแต่งตัวเต็มยศแบบนี้แน่
ก่อนพิธีจะเริ่มไม่นานบรรดาเจ้าสาวก็ถูกบอกให้เตรียมตัวเดินเข้างาน
โดยจัดลำดับการเดินเป็นยองแจที่ท้องอยู่เป็นคนแรก จองอบเป็นคนที่สอง
และเจโล่เป็นคนสุดท้ายเพราะถือว่าเป็นน้องเล็กในบรรดาเจ้าสาว
ผ้าคลุมเนื้อเบาบางถูกยกมาคลุมใบหน้าไว้อย่างสวยงามก่อนที่เจ้าสาวแต่ละคนจะเดินไปยังแท่นพิธีโดยมีผู้เป็นพ่อจูงมือไปส่ง
บรรยากาศในงานถูกตกแต่งด้วยดอกไม้หลากสีหลายพันธุ์
แต่ที่โดดเด่นที่สุดก็คงเป็นดอกกุหลาบสีแดงสดกับสีขาวนวลที่ดึงดูดใจในมองนัก
ซุ่มทางเดินถูกตกแต่งด้วยกล้วยไม้และผ้าลูกไม้สีขาว
แท่นพิธีถูกร่ายล้อมไปด้วยผ้าม่านขาวและดอกไม้ที่ถูกจัดอย่างสวยงามและที่สำคัญคือทุกทีจะมีสิ่งหนึ่งตกแต่งอยู่ร่ายรอบนั่นคืออมยิ้มมากหน้าหลากตาหลายสีสัน
ทางเดินถูกโรยด้วยกลีบกุหลาบสีชมพูหวานสวย
ทำให้ความตื่นเต้นมีมากขึ้นไปอีกเมื่อเจ้าบ่าวผู้เฝ้ารอได้พบกับเจ้าสาวของตน
ฮิมชานดูเหมือนกำลังต้องมนตร์
เพราะกำลังมองยองแจในชุดเจ้าสาวอย่างไม่กระพริบตา
สงสัยจะกลัวว่าถ้ากระพริบตาขึ้นมาแล้วสิ่งที่มองเห็นจะหายไป
ยองแจที่เดินควงแขนคุณพ่อดงอูก็เอาแต่อมยิ้มจนแก้มที่ป่องน่ารักดูน่ารักน่าฟัดเข้าไปใหญ่
“ฝากดูแลยองแจด้วยนะ ห้ามทำยองแจเสียใจเด็ดขาดนะรู้ไหม?” ดงอูเอ่ยกับฮิมชานก่อนจะส่งยองแจให้ฮิมชาน
“ครับ! ผมจะรักยองแจให้มากที่สุดเลยครับ!”
ฮิมชานตบปากรับคำอย่างที่ใจคิด
ทั้งคู่เดินไปยังตำแหน่งของตัวเองทางด้านซ้ายที่ถูกเตรียมไว้
ตามด้วยคู่ที่สอง
จองอบดูจะตื่นเต้นมากกว่าแดฮยอนเพราะทันทีที่เดินเข้าพิธีก็มองหาแดฮยอนในทันที
จนแจบอมต้องกระซิบเตือนน้อยๆ
“เป็นเจ้าสาวน่ะเรานะ อย่าตื่นเต้นขนาดนั้นสิจองอบ!” จองอบที่ได้ยินพ่อพูดแบบนั้นก็รีบควงแขนพ่อทันที
เพราะกำลังเขินที่แดฮยอนมองตัวเองด้วยสายตาตะลึงงัน
“จองอบตาโตขึ้นอ่ะ?” แดฮยอนพูดเบาๆ
กับตัวเองอย่างตื่นเต้น
ทันทีที่แจบอมเดินมาถึงแดฮยอนก็รีบเอ่ยปากเตือนว่าลูกเขย
“ห้ามทำลูกจองอบของฉันเสียน้ำตา ไม่งั้นฉันจะตามไปฆ่านายนะรู้ไหม?” มันเหมือนคำขู่แต่แดฮยอนรู้ดีนั้นคือคำพูดที่จริงใจของคนเป็นพ่อ
เขาจึงยิ้มรับคำสั่งนั้นแต่โดยดี
“ผมจะดูแลจองอบให้ดีที่สุดครับ!” จองอบเขินจนต้องก้มหน้าหนีเพราะเขินที่โดนจ้อง
“เดินตามพี่มานะครับจองอบ” เพราะจองอบเอาแต่เขินก้มหน้าก้มตา
แดฮยอนจึงต้องพยุงให้ไปยืนในตำแหน่งที่เหมาะสมทางด้านขวา
ว่าแล้วก็ถึงคู่สุดท้ายของงาน
เรียกได้ว่าน่าจะเด่นสุดในงานเพราะว่าเป็นวันเกิดของเจ้าสาวเสียด้วยสิ
“พร้อมแล้วนะเจโล่?” ซึงฮยอนกำลังให้กำลังใจลูกชายของเขาพร้อมรอยยิ้ม
“พร้อมแล้วฮ่ะ!” เจโล่พูดในขณะที่ยืนแขนออกไปหาคนเป็นพ่อ
ทุกคนในงานต่างจดจ้องมาที่เจโล่
นั่นก็เพราะชุดที่เจ้าตัวเลือกช่างเหมาะกันเสียนี่กระไร
ระบายยาวทางด้านหลังทำให้ดูสวยงามเวลาย่างเท้า โบว์ที่อยู่ทางด้านหลังก็ดูจะเหมาะกับความน่ารักของเจ้าตัวไม่ใช่น้อย
เล่นเอาคนเป็นเจ้าบ่าวอย่างยงกุกยิ้มจนปากจะฉีก
ทุกคนในงานสามารถนับได้ว่าเจ้าบ่าวมีฟันบนอยู่กี่ซี่
ดวงตาที่จ้องมองเจ้าสาวทำเอาคนในงานจะละลายตายกันไปข้างเพราะมันหวานหยดย้อยน้ำตาลที่ว่าหวานยังจืดได้เมื่อต้องมาแข่งความหวานกับยงกุกในตอนนี้
แววตาที่มองเจโล่นั่นเหมือนกับว่าบนโลกนี้มีแค่เขากับเจโล่สองคนเท่านั้น
“ขอให้นายรักเจโล่และมองเขาด้วยสายตาอย่างนี้ตลอดไปนะยงกุก ไอ้ลูกชาย!”
ซึงฮยอนรู้ดีว่ายงกุกรักเจโล่มากแค่ไหน
มันเหมือนในวันที่เขามองเซริวในวันแต่งงานไม่ต่างกัน
“ผมจะรักเจโล่ให้มากขึ้นไปอีกในทุกๆ วันของผมครับ” ยงกุกรับเจโล่มาจากคนเป็นพ่อก่อนจะเดินเข้าสู่ตำแหน่งอย่างถูกต้อง
หลังจากการส่งตัวก็ถึงขั้นตอนการสาบานรักและสวมแหวนกันแล้ว
“ผมคิมฮิมชาน/บังยงกุก/จองแดอยอน
ขอสาบานว่าจะรักและซื่อสัตย์ต่อยูยองแจ/ชเวจุนฮง/มุนจองอบ ทั้งในยามสุขยามทุกข์
จะดูแลเธอ ห่วงใยเธอ ปลอบโยนเธอจวบจนชีวิตจะหาไม่”
“ผมยูยองแจ/ชเวจุนฮง/มุนจองอบ
ขอสาบานว่าจะรักและซื่อสัตย์ต่อคิมฮิมชาน/บังยงกุก/จองแดอยอน ทั้งในยามสุขยามทุกข์
จะดูแลเขา ห่วงใยเขา ปลอบโยนเขาจวบจนชีวิตจะหาไม่”
“พ่อขอประกาศว่าทั้งสามคู่ คิมฮิมชานยูยองแจ บังยงกุกชเวจุนฮง
จองแดฮยอนมุนจองอบ เป็นสามีภรรยากันนับจากนี้
ขอให้ลูกได้สวมแหวนแทนใจให้กับคู่ของตนเพื่อเป็นดั่งสัญลักษณ์แห่งความรักของคนทั้งคู่”
แล้วทั้งหกคนต่างก็สวมแหวนให้คู่ของตน
และมอบจุมพิตหอมหวานให้แก่กันเพื่อยืนยันความรักที่มีให้ แต่ดูจะน่าเป็นห่วงก็แดฮยอนที่โดนจองอบล็อกคอเอาไว้ไม่ยอมปล่อยสักที
เล่นลำบากถึงหลวงพ่อต้องกระแอมไอใส่เพื่อแยกทั้งคู่
“สุขสันต์วันเกิดนะครับ ที่รักของผม” ยงกุกเอ่ยขึ้นมาก่อนจะมอบจุมพิตลงบนหน้าผากของเจโล่ที่หลับตาพริ่มเพราะคำพูดของอีกคน
“พี่คือของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุดของผมเลยครับ ขอบคุณที่รักผมนะครับ!!”
หลังการเอ่ยถ้อยคำหวานหูก็เล่นเอาคนในงานถึงกับเคลิ้มเพราะคำหวานของคนทั้งคู่
ต่างจากยองแจที่กำลังมุ้ยหน้าน้อยๆ ใส่ฮิมชานที่ไม่หวานแบบคนอื่นบ้าง
“อย่างอนสิครับ เดี๋ยวลูกจะหงุดหงิดนะครับ” ว่าแล้วฮิมชานก็หอมแก้มป่องฟอดใหญ่แบบจงใจให้อีกคนเรียกร้องแล้วค่อยจะสนองตามสไตล์ของเขาเองนั่นแหล่ะ
“สงสัยลูกจะหิวแล้วนะผมว่า” ยองแจพูดพลางลูบท้องตัวเองเบาๆ
จนฮิมชานทนไม่ไหวต้องอุ้มเมียรักไปหาอะไรกิน ทั้งๆ
ที่เดินก็ได้แต่ดันอยากโชว์หวานว่าง่ายๆ
แต่แล้วเรื่องหน้าประหลาดใจก็เกิดขึ้นจนได้
เมื่อช่วงของการโยนช่อดอกไม้มาถึง เพราะทั้งสามคนเลือกที่จะโยนช่อดอกไม้พร้อมกัน
และคนที่ได้นี่สิที่น่าตกใจ
ฮยองซิกได้ช่อดอกไม้ของจองอบ
ชีวานได้ช่อของยองแจอย่างยากลำบากนิดๆ เพราะต้องสู้รบกับเจ้ยูริ
แต่อีกคนที่ไม่มีใครคิดว่าจะรับช่อดอกไม้ได้นี่สิ
“ยองเบ!!” เพื่อนรักอีกสี่คนได้แต่มองตาแทบหลุดเพราะเจ้าเพื่อนจอมเนียบของพวกเขาเพิ่งจะได้รับช่อดอกไม้ของเจโล่มาไว้ในมือ
เรียกได้ว่ามันตกลงมาในมือเลยจะดีกว่า ก็ดันนั่งอยู่นิ่งๆ
ที่โต๊ะไม่ได้ลุกมารอรับแบบคนอื่นแต่ช่อดอกไม้ก็ดันลอยหวือข้ามมาตกลงใส่มือ
แถมยังรับเอาไว้โดยอัตโนมัติอีกต่างหาก
ยองเบที่พอเห็นว่าคนอื่นๆ
กำลังมองตัวเองแบบตะลึงงันก็รีบเอ่ยออกมาแบบใจเย็นตามสไตล์ชวนขนหัวลุก
“ถ้าได้ไอ้นี่แล้วจะได้แต่งรึไง?” น้ำเสียงเย็นเยียบไร้ที่ติ
เล่นเอางานหวานรื่นรมย์พลันจืดลงในฉับพลัน
ต่างจากเจโล่ที่เป็นเจ้าของช่อดอกไม้ที่รีบวิ่งมาหาคุณน้าคนสนิท
“ถ้าไม่มีคนให้แต่งด้วย ผมจะหาให้เองครับ!!” คำพูดของเจโล่เล่นเอายองเบครึมต่อไม่ไหว
เลยต้องปล่อยหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ
“โอเค เจโล่ว่าไงน้าก็ว่าตามนั้น!!!” ทำไงได้
ยองเบเอ็นดูเจโล่ไม่ต่างจากลูกขอตัวเอง เขาจึงจนปัญญาจะขัดใจคนที่กำลังยิ้มสดใสมาให้
ส่วนอีกสองคนที่เพิ่งได้ช่อดอกไม้ก็มองหน้ากันไปมาแบบเขินๆ
“รู้งี้แต่งพร้อมพี่ยงกุกก็ดีอ่ะเน๊อะ!!!” คำพูดของฮยองซิกเล่นเอาชีวานหน้าแดง
ต่างจากเจ้ยูริที่ชวดช่อดอกไม้เอาแต่ก้มหน้าก้มตากินต่อไป
หลังจากงานแต่งงานดำเนินเสร็จสิ้น
ทั้งสามคนก็ตกลงใจว่าจะไปเที่ยวๆ พร้อมกัน
เรียกได้ว่าไปสามคู่ชู้ชื่นด้วยรถตู้โฟล์คคันเดิมที่ทุกคนคุ้ยเคยกันดี
ทั้งที่คนเป็นพ่อเป็นแม่เตรียมลิมูซีนเอาไว้ให้แท้ๆ
แต่กลับชอบใจที่จะนั่งไปด้วยรถคันโปรดของทุกคน
แถมรถสีดำในตอนนี้ก็โดนจับเปลี่ยนสีเป็นสีฟ้าสดใสตามใจเจโล่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย
ก็เลยยิ่งทำให้บรรยากาศของแต่ละคนยิ่งหวานไปกันใหญ่
“เป็นของขวัญที่วิเศษสุดเลยฮ่ะพี่ยงกุก!!!” เจโล่ดีใจที่ได้อยู่กับยงกุก
และที่มีความสุขมากขึ้นไปอีกก็เพราะตอนนี้ทุกคนจะได้ไปเที่ยวด้วยกันอีกครั้ง
แต่ในฐานะคู่แต่งงานใหม่ที่บ้านพักริมชายหาดที่คุณและคุณนายชเวจัดเตรียมไว้ให้
ที่นั้นเป็นบ้านหลังใหญ่และเป็นส่วนตัวสุดๆ
บรรยากาศก็ไม่ต้องพูดถึงเพราะคงหาสถานทีที่โรแมนติกแบบนั้นได้ไม่ง่ายนักหรอกนะ
“พวกแกห้ามจู๋จี๋กันในรถชั้นนะโว๊ย ไม่งั้นพ่อจะจอดแล้วจู๋จี๋บ้าง!!”
ยงกุกพูดเตือนสองคู่ที่เหลือให้ได้รู้ว่าเขาเองก็อยากจะหวานเหมือนกัน
“ช่างเถอะฮ่ะพี่ยงกุก ถ้าถึงบ้านพักเมื่อไหร่ผมจะให้รางวัลนะครับ!!!”
เจโล่ที่เห็นยงกุกแอบอิจฉาคนอื่นๆ
ก็ต้องรีบเอารางวัลมาล่อให้ยงกุกมีกำลังใจขับรถ
“งั้นพี่ขอรางวัลชิ้นใหญ่นะครับ!!” ยงกุกยิ้มหวานให้เจโล่ก่อนจะได้ยินอะไรที่ทำให้ยิ้มจนแก้มปริเหงือกล่นกันเลย
“ผมจะผูกโบว์ให้เลยครับ.. ผูกแต่โบว์เลยนะ!!” เจโล่กระซิบที่ข้างหูยงกุกเบาๆ
เพื่อให้ได้ยินกันแค่สองคน เล่นเอายงกุกอยากจะเหาะให้ถึงบ้านพักซะเดียวนั้น
“จะเหาะไปเดี๋ยวนี้แล้วครับผม!!!” ว่าแล้วก็รีบไปบ้านพักอย่างไว
ในตอนนี้
ผมมีสิ่งที่ผมโหยหามาตลอดแล้วครับ พ่อกับแม่ไม่ต้องเป็นห่วงผมอีกแล้วนะครับ
เพราะเจโล่ผมถึงอยู่มาจนวันนี้ได้
และในทุกวันต่อจากนี้ผมจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขครับ
เจโล่มอบครอบครัวให้กับผมคนนี้แล้ว ผมไม่จำเป็นต้องโหยหาอีกต่อไป...
และแล้วความสุขหวานชื่นของชีวิตแต่งงานก็เริ่มต้น
ณ บัดนี้ ต่อจากนี้คงมีแต่ความหวานที่แต่ละคู่จะปรนเปรอให้แก่กัน
ต่อจากนี้จะมีเจ้าตัวป่วนเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่ง แล้วทั้งหกคนจะทำยังไงกันนะ
แล้วชีวิตแต่งงานของเด็กม.ปลายจะเป็นยังไงกันนะ
(ขอจบด้วยภาพของคู่รักทั้งสามที่นั่งรถตู้โฟล์คสีฟ้าสดใสที่มีโบว์สีชมพูติดไว้รอบ
กำลังแล่นไปยังบ้านพักสำหรับการฉลองค่ำคืนของการแต่งงาน)
By ZeloStone
เอิ่ม.. ผิดคาดแฮ่ะ
ดันแต่งพร้อมกันสามคู่ ไรท์เลยจนปัญญาจะแต่งให้หวานเลี่ยนเอียนเว่อร์
สรุปว่าจิ้นกันไปนะค่ะ
แบบเขียนเองงงเอง ไม่เคยแต่งงานไม่รู้ว่ามันประมาณไหน
ภาคหนึ่งขอจบด้วยฉากแบบนี้นะค่ะ
ส่วนตอนท้ายจะมีตอนพิเศษของแต่ละคู่มาให้
ค่ำคืนแรกของการแต่งงานของแต่ละคู่จะเป็นแบบไหนกันนะ
จะหวานแค่ไหนเอ่ย?
ไรท์ขอชดเชยความหวานในคืนวันแต่งงานแล้วกันนะจ๊ะ
เช่นเดิมเรทนิดๆ สไตล์ของไรท์
ไม่เม้นท์ไม่จัด เม้นท์น้อยไม่จัด
เม้นท์มากๆ จะเรทเยอะๆ สรุปงานนี้ขอใจร้ายบ้างเน้อ!!!!!
แล้วเจอกันใหม่กับภาคสองชีวิตหลังแต่งงานและการเป้นรุ่นที่ห้าของเจโล่
รวมถึงการสืบทอดตำแหน่งของแดฮยอนแทนลุงมินซู
แล้วไหนจะเรื่องลูกของฮิมชานที่ปู่กะย่าดูท่าจะรักหลานคนนี้น่าดู
ว่าแต่พ่อแม่ของฮิมชานคือใครกันนะ?? ขอบอกในภาคสองนะจ๊ะ!!
ขอบคุณทุกกำลังใจที่มอบให้กับไรท์
ขอบใจที่ติดตามกันมาถึงขนาดนี้
ไรท์เขียนเรื่องได้อย่างต่อเนื่องเพราะคอมเม้นท์หลายๆ
คอมเม้นท์เลยนะ
ในเวลาไม่ถึงเดือนแต่เขียนเรื่องได้ยาวถึงขนาดนี้ก็บุญหัวไรท์มากเลย
หวังว่าทุกคนจะชอบและรักฟิคเรื่องนี้เหมือนไรท์นะเออ
ภาคต่อไปจะพยายามให้มากกว่านี้นะจ๊ะ
จะหวานให้นักกว่าเดิม สัญญา!!!
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น