ที่บ้านของคุณและคุณนายชเววันนี้มีงานเลี้ยงเล็กๆ
ถูกจัดขึ้นอีกครั้งแล้ว
“เข้ามากันสิจ๊ะเด็กๆ”
คุณนายชเวที่เดินมาเปิดประตูกำลังยิ้มตอนรับผู้มาเยือนอย่างสบายอารมณ์
ก่อนจะเดินนำทุกคนเข้าบ้าน โดยมีคุณชเว เจโล่และยงกุกรออยู่ที่โต๊ะเรียบร้อยแล้ว
“ดีนะเนี่ยที่บ้านเรากว้างไม่งั้นคงได้ขี่คอกันกินข้าวนะแม่เนี่ย”
คุณชเวบ่นใส่คุณเมียสุดที่รักของตัวเองที่อยากจัดงานเลี้ยงโดยไม่ได้สนใจสักนิดว่าโต๊ะกินข้าวจะจุแขกได้กี่คน
“แหมพ่อก็.. ยังไงพวกเด็กๆ
เขาก็เบียดกันได้ไม่มีปัญหาหรอกน่า” ก็จริงอย่างที่คุณนายชเวกล่าวออกมา เพราะทุกคนต่างก็หาที่นั่งของตัวเองได้ไม่อยาก
อันที่จริงก็แค่เพิ่มฮยองซิกเข้ามาอีกคนแต่ก็ดูจะเบียดกันกว่าครั้งก่อนเป็นไหนๆ
“ผมปาร์คฮยองซิก
เป็นรุ่นน้องของพี่ยงกุกครับ”
ฮยองซิกที่เพิ่งจะเคยมาที่นี่ก็ต้องรีบแนะนำตัวเพื่อไม่ให้เสียมารยาท
แต่ที่คาดไม่ถึงก็คงเป็น...
“พ่อกับแม่รู้แล้วล่ะจ๊ะ
ยงกุกเขาบอกนะว่าเราเป็นลูกน้องคนสนิทเลย ว่าแต่ยังเด็กทำไปถึงไปทำงานน่ากลัวแบบนั้นกันได้ล่ะเนี่ย?”
ฮยองซิกที่ดูประหม่าเล็กน้อยกับคำทักทายตอบ
“เอ่อ.. พี่ยงกุกบอกหมดแล้วหรอครับ?”
ทำไมถึงบอกให้ครอบครัวนี้รู้ล่ะครับพี่
“ยังไงก็ต้องบอกอยู่แล้ว
แต่มีโอกาสเล่าทุกอย่างก็ตอนที่โดนยิงจนต้องเข้าโรงพยาบาลนั่นแหล่ะ”
พี่ไม่คิดจะปิดบังสักนิดเลยรึไงกัน
“ก็แล้วทำไมต้องปิดด้วยฮึ
ยังไงตอนนี้ยงกุกก็ไม่ต่างจากลูกชายของเราคนนึง เขาก็ควรจะเล่าให้เราฟังจริงไหม?”
คุณชเวที่มองผมด้วยสายตาอบอุ่น ผมไม่ข้องใจแล้วว่าทำไมพี่ถึงใช้เวลาอยู่กับคนเหล่านี้มากนัก
“ผมว่าเลิกคุยแล้วเริ่มกินดีกว่านะฮ่ะ
เดี๋ยวอาหารที่คุณน้าทำจะเย็นซะหมด” ยองแจพูดขึ้นมาจนทุกคนต้องหันไปมอง
ไม่รู้ว่าหิวมาจากไหน เพราะตอนนี้กำลังจ้องมองอาหารตาแป๋ว
ส่วนอีกคนที่มีอาการไม่ต่างกันก็เห็นจะเป็นคู่กัดตลอดกาลของเจ้าตัว
พ่อหนุ่มแดฮยอนผู้หิวโหยที่ตอนนี้ท้องดันร้องซะลั่นโต๊ะอาหาร
ทำเอาทุกคนต่างพากันหัวเราะชอบใจสองคนนี้
มื้ออาหารผ่านไปอย่างสนุกสนาน
ตามมาด้วยการแจกของฝากที่คุณนายชเวตั้งใจเลือกมาให้ทุกคน
อันที่จริงคุณนายแก่เล่นซื้อของซะพ่อของเจโล่กระเป๋าแบนเลยทีเดียว
ของฝากของทุกคนจะเป็นเสื้อยกเว้นยองแจที่เป็นช็อคโกแล็ตกล่องใหญ่จนทุกคนต้องอึ้งกันหมด
“เจโล่เคยบอกแม่ว่ายองแจชอบขนม
แม่ก็เลยกวาดมาเยอะเลยล่ะ ช็อคโกแล็ตของร้านนี้นะขึ้นชื่อเลยนะ อร่อยมากๆ เลยล่ะ”
คงไม่มีใครจะดีใจมากไปกว่ายองแจอีกแล้ว เพราะแก้มที่ป่องอยู่แล้วตอนนี้กำลังจะปริออกเพราะดีใจกับขนมเกินเหตุ
“แล้วนี่ก็เป็นผ้าแพร
เอาไว้ไปฝากคุณแม่ของจองอบกับยองแจนะจ๊ะ”
อันที่จริงพ่อกับแม่ของผมรู้อยู่แล้วว่าพี่ยงกุกเป็นยังไง
ส่วนพี่แดฮยอนพ่อกับแม่ก็ไม่ค่อยมาสนใจอะไรมากมาย
พี่ฮิมชานยิ่งแล้วใหญ่เพราะคนนี้ตัดขาดกับทางบ้านไปแล้ว
เห็นว่าไม่ยอมสานต่อธุรกิจของที่บ้านแต่ดื้อมาทำร้านไอศกรีมก็เลยโดนโกรธ
แล้วพี่ยงกุกก็บอกผมว่าพี่ฮยองซิกหนีออกจากบ้านเพราะทะเลาะกับลุงกับป้าที่เข้ามายึดบ้านของตัวเองไปหลังจากที่พ่อกับแม่ตายลง
สรุปก็มีแค่ผมกับเพื่อนที่ครอบครัวยังอยู่กันพร้อมหน้า
ผมจึงบอกให้แม่ซื้อมาฝากแค่แม่ของจองอบกับแม่ของยองแจก็พอ
“ขอบคุณฮ่ะคุณน้า”
ทั้งยองแจและจองอบตอบพร้อมกัน
“เรียกคุณน้าอยู่ได้
แม่เริ่มจะน้อยใจแล้วนะ เรียกแม่ให้เหมือนกับที่เจโล่กับยงกุกเรียกก็ได้นี่หน่า
รึเราจะยึดของฝากคืนดีนะพ่อ?” พอบ่นเสร็จแม่ผมก็หันหน้ามาให้พ่อช่วย
“พ่อว่าแบบนั้นก็ดีนะ!!” นั่นไงฮ่ะ พ่อกับแม่อย่าแกล้งเพื่อนผมสิฮ่ะ
“ขอบคุณครับแม่!!” ไม่ใช่แค่จองอบกับยองแจ
แต่พี่แดฮยอนพี่ฮิมชานแล้วก็พี่ฮยองซิกต่างก็ตอบออกมาพร้อมๆ กัน
สงสัยจะชอบของฝากกันน่าดูนะเนี่ย
“ถ้าไงขึ้นไปเล่นที่ห้องเจโล่แล้วกันนะ เดี๋ยวแม่กับพ่อจะเก็บของเองจ๊ะ”
พ่อกับแม่ของผมมักจะไล่เพื่อนของผมไปห้องของผมเสมอเพราะอยากจะอวดฝีมือการตกแต่งห้องนอนของลูกชายให้ใครต่อใครได้ชื่นชม
“เจโล่ จองอบ ยองแจ
กับฮยองซิกขึ้นไปได้เพราะยังไม่หายดีเท่าไหร่ ฮิมชานแดฮยอนพวกแกมาช่วยฉันเก็บโต๊ะ
ส่วนพ่อกับแม่ขึ้นไปพักเถอะครับ เดี๋ยวทางนี้ผมจัดการเอง”
พี่ยงกุกของผมออกคำสั่งได้เท่ห์มากๆ ทุกคนก็เลยเชื่อฟังเป็นอย่างดี
ซึ่งรวมพ่อกับแม่ของผมที่ยอมทำตามแต่โดยดีไม่มีขัดขืน
“ถ้าแกอยากจะเอาใจพ่อตาแม่ยายก็อย่าเอาพวกเรามารวมสิว่ะ”
นี่กูไม่ได้จะเอาใจใคร พวกมึงจะกินแล้วชิงตลอดเลยรึไงว่ะเนี่ย
“แม่ทำให้กินแล้วมึงยังจะให้แม่เก็บอีกหรอว่ะ”
ไม่สำนึกบุญคุณในอาหารเดี๋ยวก็ชกให้อ้วกออกมาเลยนิไอ้เหยิน
“ไม่ได้หมายความว่างั้นสักหน่อย”
คือถ้าผมไม่ทำตามที่ไอ้ยงกุกมันว่า มันจะฆ่าผมไหมอ่ะ ทำหน้าตาซะหน้ากลัวเลย
ดูมันทำหน้าเข้า
“เอาน่าอย่าทะเลาะกันแล้วมาช่วยฉันเก็บโต๊ะได้แล้วนะพวกแกนะ!!” ไอ้ผมรึก็นึกว่ามันจะเป็นคนดี
ที่ไหนได้ดันมายืนเถียงกับไอ้เหยินแล้วก็ทิ้งให้แดฮยอนสุดหล่อคนนี้เก็บโต๊ะเพียงลำพัง
“ยกที่เหลือตามมาด้วยเลยนะเว้ย
ไม่งั้นฉันจะฟ้องเจโล่กับยองแจว่าพวกแกกินแรงไม่ยอมช่วยงาน ปล่อยให้ฉันทำอยู่เดียว!!” ทันทีที่ได้ยินแดฮยอนพูด เพื่อนอีกสองคนก็ต้องรีบทำตามอย่างเลี่ยงไม่ได้
ผมควรจะยอมรับดีไหมครับว่าพวกเราที่เป็นเพื่อนสนิทกัน
ดันหันมาชอบผู้ชายพร้อมๆ กัน แล้วยังจะมากลัวเมียเหมือนกันยกแก๊งค์
ชีวิตของผมกระผมทำไมช่างน่าเศร้าอย่างนี้นะ ทั้งที่แต่ก่อนก็แค่นั่งหล่อไปวันๆ
ไม่จำเป็นต้องตามใจผู้หญิงคนไหนก็มีให้ควงหน้าไม่ซ้ำ แล้วตอนนี้ดูซิคร๊าบ!!!
“ล้างจานเสร็จแล้วรอฮ่ะพี่แดฮยอน?”
จองอบถามผมทันที่ที่ผมเดินขึ้นมาเลยล่ะครับ
“แล้วพี่ฮิมชานกับพี่ยงกุกล่ะไอ้ดำ?”
ปากญาติผมยังคงเหมือนเดิมกับผมไม่เปลี่ยนแปลง
“เห็นคุยกันอยู่
เดี๋ยวก็คงขึ้นมาเองแหล่ะ” ว่าแล้วผมก็ต้องรีบพุ่งไปหาจองอบ
“ส่วนพี่รีบขึ้นมาเพราะว่าคิดถึงจองอบอ่ะคร๊าบ!!” เล่นเอาคนที่เหลือในห้องอึ้งกันไปเลย อะไรจะออดอ้อนกันขนาดนั้น
เพราะแดฮยอนตอนนี้ดูเหมือนจะขี้เล่นเอามากๆ ทั้งที่เห็นกันตอนแรกทุกคนต่างก็นึกว่าเป็นคนเงียบขรึมซะอีก
“พูดแบบนี้จะบอกว่าพี่ฮิมชานไม่คิดถึงฉันรึไงไอ้ดำ”
ยองแจที่เริ่มหมั่นไส้ก็ต้องประชดใส่จนได้
“ใครจะไปคิดถึงแก้มบวมน้ำของแกกันล่ะ
ไอ้ลูกโป่ง” แดฮยอนที่ไม่เคยยอมลดราวาศอกให้เลยกำลังตอบโต้เต็มกำลัง
“พวกนายเถียงกันน่าสนุกจังนะ!” ผมที่ไม่ค่อยมีเพื่อนอดอิจฉาคนเหล่านี้ไม่ได้เลย
“เถียงกันมันน่าสนุกตรงไหนไม่ทราบเนี่ย?”
ยองแจดูเหมือนจะระเบิดอารมณ์มาใส่ฮยองซิกด้วยอีกคน
“แล้วทำไมแกไม่เลิกหาเรื่องฉันสักทีฮ่ะไอ้ลูกโป่ง”
แดฮยอนยังคงจะไม่ยอมท่าเดียว
“ฮึ!!
เล่นเกมส์แทนฉันทีนะเจโล่ ฉันจะไปฟ้องพี่ฮิมชานก่อน”
ยองแจเดินสะบัดก้นใส่แดฮยอนก่อนจะมีจองอบเดินตามไปติดๆ
ซึ่งแดฮยอนที่เห็นแบบนั้นก็ตามลงไปด้วย
เลยกลายเป็นว่าเหลือแค่ฮยองซิกกับเจโล่อยู่ด้วยกันแค่สองคนในห้อง
“ยองแจแค่เป็นคนขี้หงุดหงิดนะครับ
แล้วก็จะเป็นหนักเวลาอยู่ใกล้พี่แดฮยอน อย่าถือสาเลยนะฮ่ะ
เล่นเกมส์ต่อดีกว่าเดี๋ยวก็ขึ้นมาเองแหล่ะครับ”
เจโล่หันมาตอบผมพร้อมกับยิ้มให้
ใจของผมกำลังเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ ผมอยู่กับเจโล่เพียงลำพังแถมอยู่ใกล้กันมากด้วย
เพราะเจโล่นั่งถัดจากผมไปแค่ไม่กี่คืบเท่านั้น ความรู้สึกของผมจะส่งไปถึงเจโล่รึเปล่านะ
ถ้าผมดึงเขาเข้ามาใกล้ผมมากกว่านี้เขาจะยอมรึเปล่า
เจโล่ที่นั่งห่างออกไปไม่เท่าไหร่เหมือนจะรู้ตัวว่าโดนจ้องอยู่จึงหันมามอง
“พี่ฮยองซิกมองผมทำไมฮ่ะ?”
เจโล่ที่หันหน้ามาหาผมแบบนี้ มองผมตรงๆ
ด้วยตาคู่สวยนั้น แถมยังทำหน้าสงสัยใส่ผมอีกต่างหาก
ภาพแบบนี้ใช่ไหมพี่ยงกุกที่พี่ได้เห็นอยู่ทุกวันนะ เพราะแบบนี้ใช่ไหมพี่ถึงได้หลงรักเจโล่เหมือนที่ผมกำลังเป็นอยู่ในตอนนี้
“อยากได้ขนมไหมฮ่ะเดี๋ยวผมจะลงไปเอามาให้
รอแป๊ปนึงนะครับ”
เจโล่ที่รู้สึกแปลกที่โดนจ้องพยายามจะพาตัวเองออกจากห้อง
แต่ดูเหมือนจะตัดสินใจช้าไปนิด เพราะตอนนี้ฮยองซิกลุกขึ้นมาแล้วดึงเจโล่เข้ามาหา
“พี่ชอบนายนะเจโล่”
“ปล่อยแขนผมนะ ผมจะไปหาพี่ยงกุกปล่อยผมนะ!!!”
แต่การต่อสู้ของเจโล่เหมือนจะไม่ได้ผล
เพราะฮยองซิกดึงเจโล่เข้าไปกอดเอาไว้
“ผมบอกว่าให้ปล่อยไง!!!”
แล้วแขนของฮยองซิกก็ถูกกระชากออกจากตัวเจโล่อย่างแรง
ก่อนจะโดนชกจนลงไปนอนกองกับพื้น
เมื่อเงยหน้ามามองก็ต้องพบว่าเขาเพิ่งจะทำให้อีกคนโกรธจนแทบคลั่ง
ยงกุกเป็นห่วงว่าเจโล่จะเหงาเลยขึ้นมาหาแต่กลับพบว่าเจโล่ถูกฮยองซิกกอดอยู่
แถมเจโล่ก็ร้องโวยวายให้ปล่อยมันทำให้เขามั่นใจว่าไม่ใช่สิ่งที่เจโล่ต้องการ
แต่ก็ต้องงงอีกรอบเพราะเจโล่เข้ามาขวางไม่ให้เขาเล่นงานฮยองซิกต่อ
“เจโล่จะห้ามพี่ทำไม?” ผมไม่เข้าใจ
“พี่ฮยองซิกยังไม่หายดีไม่ใช่หรอฮ่ะ”
นี่ยังจะห่วงมันอีก
“ทำไมต้องเป็นห่วงมันด้วย เจโล่??” ทำไมต้องปกป้องมัน
ยงกุกที่กำลังโกรธยิ่งไม่พอใจยิ่งขึ้นเพราะเจโล่ไม่ยอมปล่อยเขาให้เล่นงานอีกคน
“พี่ฮยองซิกออกจากบ้านผมไปเดียวนี่เลยนะฮ่ะ!” ผมไม่อยากให้พี่ทำร้ายใครนะฮ่ะ
“ทำไมต้องปกป้องมันด้วย?
เจโล่ชอบที่มันกอดเจโล่รึไง??” ทำไมถึงต้องมาลงที่ผมล่ะฮ่ะ
“ไม่ใช่นะฮ่ะ!” ทำไมพี่ถึงมองผมแบบนั้นฮ่ะพี่ยงกุก
ปั้ง!!!
ประตูห้องถูกปิดอย่างแรงก่อนเจโล่จะถูกทิ้งไว้ในห้องคนเดียว
“เจโล่!
เกิดอะไรขึ้น??” จองอบกับยองแจที่รีบขึ้นมาดูเพื่อนของตัวเองก็ต้องตกใจเพราะเจโล่ที่นั่งกอดเขาตัวเองอยู่กำลังร้องไห้สะอื้นไม่หยุด
นัยน์ตาทั้งสองข้างเต็มไปน้ำตาที่ไหลลงอาบทั้งสองแก้มไม่ยอมหยุด
“ทำไมต้องถึงโกรธฉันขนาดนั้น?
ฉันไม่ได้ชอบสักหน่อย.. ฉันแค่ไม่อยากให้พี่ยงกุกทำร้ายใครเท่านั้นเอง!!” เจโล่อธิบายให้เพื่อนฟังอย่างยากลำบาก เพราะเขาเอาแต่ร้องไห้ไม่ยอมหยุด
ยิ่งพูดก็ยิ่งร้องไห้หนักมากกว่าเดิม
“ไม่เป็นไรนะเจโล่!! พี่ยงกุกแค่กำลังโมโห เดี่ยวก็มาขอโทษเจโล่เองนั่นแหล่ะนะ
เชื่อจองอบนะเจโล่”
จองอบที่ตอนนี้กำลังปลอบเจโล่อยู่เริ่มร้องไห้ตามเพื่อนของเขาอย่างช่วยไม่ได้
เขาไม่เคยเห็นเจโล่เศร้าเลย ไม่เคยมีตอนไหนที่เจโล่จะไม่ยิ้ม
มันทำให้จองอบรู้สึกเศร้าตามไปด้วย
แดฮยอนกับฮิมชานที่ยืนรออยู่หน้าประตูห้อง
เมื่อได้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นก็ต้องรีบตามเพื่อนตัวดีของเขาไป
เพราะถ้ามันโกรธขนาดที่โมโหใส่เจโล่ได้ขนาดนี้ต้องไม่ปลอดภัยกับคนอื่นแน่
โดยเฉพาะกับฮยองซิกที่เป็นคนก่อเรื่องเอาไว้
“แค่อย่าเพิ่งไปฆ่าใครตายก็พอนะยงกุก”
ฮิมชานพูดออกมาด้วยความเป็นห่วง
“หาตัวมันให้เจอก่อนแล้วกัน”
แดฮยอนที่เป็นห่วงไม่น้อยไปกว่ากันเอ่ยออกมา ก่อนจะพบว่าคนที่พวกเขาตามหาอยู่
กำลังนั่งซดโซจูอยู่ในร้านเล็กๆ ริมข้างทาง
“นี่มึงบ้าไปแล้วรึไงว่ะยงกุก??”
ฮิมชานตะโกนใส่ยงกุกด้วยความโมโห
“ถ้ากูบ้าแล้วมึงจะทำไม?” ตอบเสร็จยงกุกก็ยกขวดโซจูขึ้นซดอีกรอบ
ก่อนจะโดนแดฮยอนดึงขวดออกแล้วทุ่มลงพื้น
“ถ้ามึงแดกเหล้าจนเมาแล้วมันช่วยให้เจโล่หยุดร้องไห้ได้
กูจะไม่ห้ามมึงเลย!!!”
ผลั่ก!!!
แดฮยอนที่ดูจะใจเย็นมาตลอด ขว้าคอเสื้อของยงกุกก่อนจะชกเข้าอย่างแรง
แต่แปลกที่ยงกุกไม่คิดจะโต้ตอบสักนิด
“พวกมึงก็ชอบเจโล่ด้วยรึไง?”
คำพูดของยงกุกที่พูดออกมาทำเอาเพื่อนอีกคนเอือมระอา เพราะพูดกับมันดีๆ
คงไม่รู้เรื่องแล้วล่ะตอนนี้
“กูไม่รู้ว่ามึงคิดอะไรของมึง
เจโล่แค่ไม่อยากให้มึงทำร้ายใคร
อีกอย่างแผลที่ถูกแทงของมันก็ใช่ว่าจะหายสนิทสักหน่อย ที่เจโล่ห้ามมึงก็เพราะปกป้องมึงต่างหาก”
แดฮยอนที่ได้ชกไปทีนึงดูจะใจเย็นขึ้นเยอะ
“ปกป้องกูยังไง
ปกป้องไอ้ฮยองซิกมันซะมากกว่าไม่ว่า”
ยงกุกที่เริ่มจะเมาไม่ได้สติไม่ยอมรับฟังอะไรจากเพื่อนอีกสองคนเลยแม้แต่นิดเดียว
“กูแค่จะอัดคนที่มากอดแฟนกู
กูผิดตรงไหน??” ความบ้าของยงกุกหายไปแล้ว ตอนนี้มันกลายเป็นน้ำตาแทน
ซึ่งแดฮยอนและฮิมชานเองก็เข้าใจในสิ่งที่ยงกุกพูดออกมา
เพราะถ้าเป็นพวกเขาก็คงทำในสิ่งเดียวกันกับยงกุก
ส่วนอีกคนนั้น...
“เจโล่หยุดร้องไห้แล้วหรอลูก?”
คุณและคุณนายชเวที่ได้ยินเสียงปึงปังก็ออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ที่เห็นกลับเป็นลูกชายสุดที่รักกำลังร้องไห้จะเป็นจะตาย
พูดปลอบยังไงก็ไม่ยอมหยุดสักที จนสุดท้ายต้องปล่อยให้เด็กๆ คุยกันเอง
พอออกมาดูอีกรอบก็พบว่าไม่ได้ยินเสียงร้องไห้แล้วก็นึกว่าจะหยุดแต่กลับกลายเป็น..
“ร้องไห้จนหลับไปเลยต่างหากล่ะครับแม่!” ยองแจตอบออกมาอย่างเบื่อหน่าย ส่วนจองอบที่ร้องไห้ตามเจโล่
ตอนนี้ก็เอาแต่รูปหัวของเจโล่ไม่ลุกไปไหน
“ถ้างั้นแม่ฝากเจโล่ด้วยนะ เรื่องของเด็กๆ
บางครั้งผู้ใหญ่ก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่หรอก
พวกลูกจะค้างที่นี่กันรึเปล่าแม่จะได้โทรไปขออนุญาตให้
ยังไงพรุ่งนี้ก็วันหยุดนี่นะ” คนเป็นแม่เองก็อยากจะปลอบลูกชายแสนน่ารักเหมือนกัน
แต่พอฟังที่ยองแจเล่าเธอก็คิดว่าเจโล่ทำไม่ค่อยถูกที่ไปปกป้องฮยองซิก
แต่พอมาคิดว่าฮยองซิกถูกแทงก็เข้าใจว่าทำไมเจโล่ถึงทำแบบนั้น
“สรุปว่าทั้งผิดทั้งถูก
ส่วนยงกุกเองก็คงจะโกรธมากเลยสินะ พ่อละเป็นห่วงเด็กสองคนนี้จริงๆ เลยแม่
อีกคนก็เคยชินกับการมอบความรักและรอยยิ้มให้คนอื่นเสมอ
ส่วนอีกคนก็โหยหาความรักจากคนเพียงคนเดียวมาตลอดหลายปี
พ่อว่าพวกเราคงรับมือกับเรื่องนี้ได้ยากสักหน่อยแล้วล่ะแม่!!”
ยองแจที่ได้ยินพ่อกับแม่คุยกัน ก็คิดแบบนั้นเช่นกัน
“แล้วนี่จะทำยังไงให้สองคนนี้เข้าใจกันได้หล่ะเนี่ย??”
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น