uncopy

วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

1st 24 123 วัน

หลังจากที่ผมสู้อุตส่าเลือกแหวนและหาถ้อยคำไพเราะสลักไว้เพื่อย้ำความรู้สึกของผมที่มีต่อเจโล่ คำพูดที่สามารถแทนความในใจของผมได้

I will always be with You.

หลังจากนั้นผมก็รีบกลับไปที่ร้านของไอ้ฮิมเพื่อช่วยทุกคนเตรียมงานฉลองครบรอบ แต่ผมห่วงอยู่แค่เรื่องเดียวเท่านั้นในตอนนี้
            “นี่พวกแกแน่ใจใช่มั้ยว่าเจโล่งอนฉันเรื่องนี้นะ” ผมถามพวกมันเพื่อความแน่ใจ เพราะว่าผมกลัวจะหน้าแตกหมอไม่รับเย็บอ่ะ ผมแน่ใจว่าเจโล่ต้องยกโทษให้ผมแน่นอนหลังจากผมให้แหวนกับเจโล่ แต่ผมไม่มั่นใจว่าใช่เรื่องนี้จริงๆ รึเปล่า
“ถ้าพี่ไม่เชื่อก็ไม่ต้องร่วมงานก็ได้นะฮ่ะ” ยองแจที่นับวันจะเคารพและกลัวยงกุกน้อยลงก็แขวะเขาอย่างไม่แคร์
“ฉันแค่ถามให้แน่ใจนี่หว่า? แกจะมาทำหน้าบูดเป็นตูดลิงเพื่อ!” ยงกุกที่เริ่มอ่อนโยนกับคนอื่นๆ มากขึ้นก็เริ่มจะรับมุกแรงๆ ของชาวบ้านเขาได้โดยไม่ค่อยอารมณ์เสียใส่อย่างที่เคย

ทุกคนที่ร่วมตัวอยู่ร้านต่างกำลังสนุกสนานกับการวางแผนจัดงานของพวกเขา ต่างจากเจโล่ที่ตอนนี้กำลังอารมณ์ไม่ดี ขนาดที่ทำเอาคุณและคุณนายชเวต้องโทรมาถามเอาความจากยงกุก ซึ่งพอรู้สาเหตุที่มาที่ไปก็เริ่มเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร
“เจโล่จ๊ะ พรุ่งนี้ไปช๊อปปิ้งกับแม่หน่อยสินะจ๊ะ!” คุณนายพยายามจะทำให้ลูกชายอารมณ์ดี
“พรุ่งนี้ผมมีธุระนิดหน่อยนะฮ่ะ มีนัดสำคัญที่ไม่มีใครสน ชิ!!” พูดจบเจโล่ก็ขอตัวขึ้นห้องไป

“พี่ยงกุกนะพี่ยงกุก ทำไมวันนี้ไม่ง้อผมล่ะ แล้วแบบนี้พรุ่งนี้ผมจะทำยังไง?”
แต่ยังไม่ได้คิดวางแผนการของวันพรุ่งนี้ ก็มีเสียงมือถือดังขัดขึ้นมาก่อน
“ว่าไงจองอบ?” เจโล่ที่รับสายเหมือนจะไม่ร่าเริงเท่าไหร่ต่างจากคนปลายสายนัก
“พรุ่งนี้พี่ฮิมชานชวนมาที่ร้านนะ เดี๋ยวฉันกับพี่แดฮยอนจะไปรับตอนเก้าโมงเช้านะ”
“แต่ว่าฉัน...” เจโล่ยังไม่ได้ปฏิเสธอะไรก็โดนจองอบวางสายใส่ซะก่อน
“แล้วพรุ่งนี้ฉันจะทำยังไงเนี่ย??” เจโล่จนปัญญาจะปฏิเสธ
“ไหนๆ พี่ยงกุกก็ลืมไปแล้วนี่นะ ช่างมันแล้วกันไม่สนแล้ว ผมโกรธพี่ยงกุกแล้วนะถ้ายังไม่โทรมาหาผมนะ” ทั้งที่พูดออกมาแบบนั้นแต่ก็รอโทรศัพท์ของยงกุกจนหลับไปในที่สุด

และจนถึงเช้ายงกุกก็ไม่ได้โทรมาหาเจโล่แต่อย่างใด ก็เพราะว่าเขากำลังง่วนอยู่กับการหัดทำขนมเค้กที่ฮิมชานกับยองแจพยายามจะช่วยสุดชีวิตแต่ก็ไม่ได้เรื่องสักที สุดท้ายในตอนใกล้เช้าเค้กที่อบก็ออกมาไม่เลวร้ายอย่างที่เคยเป็นก่อนหน้านี้ จนฮิมชานกับยองแจแทบจะกอดยงกุกที่ทำได้สักที หลังจากที่พวกเขาต้องทนทรมานอยู่กับการชิมขนมเค้กสุดห่วยมาหลายอัน
“อย่างน้อยก็ได้เค้กที่ฉันทำเองแล้วสิ” ยงกุกพูดก่อนจะสลบเหมือดตามสองคนก่อนหน้าที่สลบอยู่บนโซฟาในร้านไปก่อนเขาไม่นาน

“เฮ้ย! นี่พวกแกยังไม่ตื่นกับอีกหรอว่ะเนี่ย??” แดฮยอนที่เข้ามาในร้านก็ต้องพบกับสภาพของคนที่เหมือนผีดิบเล็กน้อยนอนเกลื่อนกลาดเต็มร้าน
“อืมม กี่โมงแล้วว่ะ?” ยงกุกที่ดูเหมือนจะตื่นง่ายกว่าอีกสองคนถามออกมาก่อนจะต้องตกใจ
“แปดโมงเช้าใกล้จะเก้านาฬิกาโว๊ย ไปอาบน้ำเลยมึงยงกุก ให้ไวเลยด้วย!!” แล้วยงกุกก็ต้องลากสังขารตัวเองเพื่อไปอาบน้ำเปลี่ยนใส่ชุดใหม่ที่เขาก็อุตส่าซื้อมาอีกนั่นแหล่ะ
ต่างจากอีกคนที่ตื่นมาด้วยความเซ็งสุดยอดเพราะในมือถือไม่มีสายที่ไม่ได้รับ ไม่มีข้อความใดถูกส่งมาจากคนที่เขาตั้งตารอ บทสุดท้ายก็ต้องเดินไปอาบน้ำด้วยใบหน้าไม่แจ่มใสอย่างที่สุด

“ว่าไงฮ่ะ รอผมนานรึเปล่าฮ่ะพี่แดฮยอน แล้วจองอบล่ะฮ่ะ” แดฮยอนชี้ไปที่คำตอบของเขา จองอบกำลังถือขนมของแม่ที่ห่อให้อย่างดีออกมาจากห้องครัว
“อะไรอ่ะจองอบ นายมาปล้นเสบียงบ้านฉันรึไง?” จองอบที่เห็นเพื่อนของเขาแต่งตัวน่ารักก็ยิ้มหวานให้เจโล่แทน เขากำลังดีใจที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้
“แม่เป็นคนทำให้เองจ๊ะ เห็นว่านี้จะปาร์ตี้กันไม่ใช่หรอ ถ้างั้นพ่อกับแม่ขอตัวไปเดทกันนะจ๊ะเจโล่ เห็นพอชวนแม่ไปเกาะนามิมาหลายวันแล้ว วันนี้แม่ขอหนีเที่ยวนะจ๊ะลูกรัก
“แล้วจะทิ้งให้ผมอยู่บ้านคนเดียวนี่นะฮ่ะ” พี่ยงกุกยิ่งไม่มาง้อผมอยู่ด้วยสิ
“แหมๆ วันนี้จองอบอยู่เป็นเพื่อนเจโล่ก็ได้นะ ไม่ต้องห่วง!!” เพราะจองอบตั้งใจจะให้เจโล่อยุ่กับยงกุกอยู่แล้ว เพราะงั้นแผนการครั้งนี้สมบูรณ์แบบสุดๆ เลยฮ่ะ
หลังจากได้เสบียงมาเพียบจากแม่ของเจโล่ ทั้งสามคนก็เดินไปที่ร้านของฮิมชาน โดยมีใครบางคนเดินตามไปอยู่ห่างๆ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นยงกุกที่แอบมาดูเจโล่ และเขาก็เห็นว่าเจ้าตัวยุ่งของเขาหน้าตาไม่ค่อยสดใสสักเท่าไหร่เลย เพราะงั้นก็เลยลองโทรหาสักหน่อยเพื่อจะยิ้มออกมาบ้าง
“โทรมาทำไมครับ?” ยังไม่หายโกรธจริงๆ ด้วยสิ
“พี่แค่อยากโทรหาไม่ได้รึไงครับ?” ผมต้องอ้อนสักหน่อยใช่ไหม
“ผมไม่ว่าง แค่นี้นะฮ่ะ” เฮ้อ! หวังว่าแหวนกันเค้กจะได้ผลนะ ไม่งั้นผมคงได้แดดิ้นตายแหง่มๆ
หลังจากเจโล่มาถึงร้านก็ต้องตกใจใหญ่ เพราะในร้านถูกตกแต่งต่างออกไปจากเดิม สงสัยว่าทุกคนคงอยากจะจัดปาร์ตี้จริงๆ นั่นแหล่ะ แต่ยิ่งอยู่นานเข้าพอมองเพื่อนก็ต้องหงุดหงิดหนักขึ้นไปอีก เพราะแต่ละคนเล่นสวีทหวานไม่เกรงใจคนที่นั่งคนเดียวสักนิด จนกระทั่ง..
“คิดถึงพี่อยู่ใช่ไหมครับ?” ยงกุกเดินเข้ามาในร้านพร้อมกับยิ้มหวานแบบกรุ้มกริ่ม
“ชิ!” เจโล่ที่เห็นยงกุกทำหน้าระรื่นก็เมินหน้าหนีอย่างไม่สบอารมณ์

ส่วนยงกุกก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมายเพราะยังไงเขาก็จะมาง้ออยู่แล้ว ก็เลยวิ่งไปอยู่ต่อหน้าเจโล่ที่กำลังนั่งทำหน้างงว่ายงกุกจะมาคุกเข่าอะไรตรงนี้ ก่อนจะต้องดีใจจนพูดไม่ออก
“ให้พี่สวมข้างไหนดีครับ ซ้ายรึขวาดี??” ยงกุกถามกวนประสาทเจโล่อีกรอบ
“พี่ยงกุกอ่ะ!!” ตอนนี้เจโล่เริ่มจะร้องไห้ซะแล้วแต่ดูเหมือนจะร้องไห้เพราะดีใจมากกว่า
“ข้างขวาก่อนนะ ข้างซ้ายค่อยใส่ตอนวันแต่งงาน” พูดจบยงกุกก็จับมือของเจโล่ขึ้นมาก่อนจะสวมแหวนให้ที่นิ้วนางข้างขวาได้พอดี
“ขอบคุณฮ่ะ!” ยงกุกที่ได้ยินแบบนั้นก็โล่งอก เพราะเจโล่หายโกรธเขาแล้ว
“เจโล่สวมแหวนให้พี่ด้วยสิ” ยงกุกพูดพร้อมกับยื่นแหวนอีกวงให้เจโล่
ตอนนี้สี่คนที่เหลือได้แต่อิจฉาตาร้อนเพราะยงกุกกับเจโล่มองตากันจนน้ำตาลยังจืด ถ้าจะหาคำมาบรรยายสรรพคุณความเลี่ยนของสองคนนี้เพื่อนๆ คงทำได้ยาก เพราะมันหวานซะจนหาอะไรมาเปรียบไม่ได้

“แล้วนี่ก็พี่ยงกุกเป็นคนทำด้วยนะเจโล่” ยองแจกับจองอบที่ช่วยกันถือเค้กออกมาจากห้องครัว คนนึงถือคนนึงคอยเอามือบังลมเพราะกลัวว่าเทียนจะดับซะก่อน
เค้กหน้าตาประหลาดถูกยกออกมาวางไว้ต่อหน้าเจโล่ ของตกแต่งชิ้นสำคัญคงเป็นลูกเชอร์รี่ เพราะมันถูกวางไว้เต็มไปหมด เค้กนี้ถูกทำขึ้นเพื่อเจโล่โดยยงกุกและผู้ช่วยทั้งสองอย่างยองแจกับฮิมชานออกมาได้สวยงามเกินความเป็นจริง
“งั้นเราก็ต้องเป่าด้วยกันทุกคนเลยสิฮ่ะ” เจโล่อ่า! พี่ทำมันทั้งคืนเลยนะ
“ก็มันเป็นวันที่ได้พบกันนี่ฮ่ะ แล้วจองอบกับพี่แดฮยอนก็ด้วย ส่วนยองแจกับพี่ฮิมชาน ก็ถือเอาวันนี้ไปด้วยเลยแล้วกันนะฮ่ะ วันครบรอบของพวกเราไงฮ่ะ 123 วันพอดีเลยที่ผมได้รู้จักกับทุกคน เพราะงั้นเป่าด้วยกันหมดนี่แหล่ะ”
รอยยิ้มของเจโล่สามารถจัดการให้ทุกคนว่าง่ายทำตามแต่โดยดี จนสุดท้ายทุกคนก็ได้เป่าเค้กพร้อมกันเพื่อฉลอง
“พี่ยงกุกฮ่ะ เชอร์รี่ของโปรดพี่ยงกุกไงฮ่ะ” เจโล่พูดขึ้นก่อนจะหยิบลูกเชอร์รี่ป้อนยงกุก แต่ยงกุกกลับไม่ยอมกิน
“ทำไมไม่กินล่ะฮ่ะ?” เจโล่ที่เห็นยงกุกไม่ยอมกินก็ประท้วงใส่ทันที
“จะกิน! ถ้าเจโล่ป้อน..ด้วยปากนะ!!” สายตาเมินเฉยในทีแรกตอนนี้แปรเปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์ขึ้นทันตาเห็น ส่วนเจโล่เองก็ทำให้ทุกคนตกใจเพราะดันยอมตามใจยงกุกแต่โดยดี แต่ยงกุกยังไม่ทันได้กินลูกเชอร์รี่ก็เข้าปากเจโล่ไปก่อนพร้อมยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ถูกส่งคืนให้อีกคน มีรึที่ยงกุกจะยอมเพราะเขาจับแก้มเจโล่ไว้แน่นก่อนจะงัดเอาลูกเชอร์รี่ของเขาคืน เล่นเอาเจโล่เขินหน้าแดงเพราะถูกลิ้นซนควานหาเชอร์รี่ซะทั่วปาก
ฮิมชานที่เห็นยงกุกทำแบบนั้นก็หันมาหายองแจบ้างแต่ก็โดนยองแจหันหน้าหนีไปทางอื่น ส่วนจองอบก็ลากแดฮยอนไปหลังร้านทันทีที่เห็นสิ่งที่ยงกุกทำพร้อมกับพูดออกมาว่า
“ผมอยากกินวิปครีมฮ่ะพี่แดฮยอน” แดฮยอนที่ได้ยินแบบนั้นก็แทบจะเป็นลม
“คงไม่ใช่จะเอาวิปครีมมาทาพี่หรอกนะ” แดฮยอนถามออกไปอย่างหวาดๆ แต่สิ่งที่จองอบตอบกลับมาน่ากลัวกว่าที่เคิดไว้
“ตอนแรกก็ว่าจะกินจากปากแบบพี่ยงกุกแต่ตอนนี้ผมว่าผมกินทั้งตัวเลยดีกว่าฮ่ะ” แดฮยอนกำลังถูกเมียรักลากไปขึ้นสวรรค์รู้ชะตาของตัวเองเป็นอย่างดี จึงหันไปบอกเพื่อนๆ ว่า
“เจอกันตอนเย็นๆ นะหรือไม่ก็คงพรุ่งนี้” โชคดีที่ร้านมีห้องพักฉุกเฉินอยู่ที่ชั้นสอง ไม่งั้นแดฮยอนคงโดนจองอบกินในห้องครัวเป็นแน่
“จองอบ!!” เจโล่ที่คาดไม่ถึงว่าที่ผ่านมาเพื่อนผู้ขี้อายของเขาจะเป็นฝ่ายหื่นใส่แดฮยอนก็ร้องเรียกออกมา ก่อนจะโดนยงกุกห้ามเอาไว้
“ช่างเถอะน่า แดฮยอนโดนจองอบเล่นงานแบบนี้จนเริ่มอึดเป็นควายแล้วล่ะ”
“อึดเป็นควายหรอฮ่ะ?” เจโล่ที่ทำหน้างงใส่จนยงกุกต้องกระซิบใส่ที่ข้างหูแทน
“ก็จู๋จี๋จ้ำจี้กันข้ามวันข้ามคืนอะไรแบบนั้นไง” เจโล่ได้ยินแบบนั้นก็ต้องถอยตัวออกห่างจากยงกุกเล็กน้อย เพราะรู้สึกเขินที่โดนกระซิบใกล้ๆ แบบนั้น
“ทำหน้าแบบนี้บ่อยๆ ไม่ดีนะเจโล่ มันทำให้พี่อยากทำแบบคู่อื่นเขาบ้างนะ” ยิ่งได้ยินที่ยงกุกพูดออกมาก็ยิ่งเขินจนทำอะไรไม่ถูก
“ผมไม่คุยกับพี่แล้ว” เจโล่กำลังจะลุกไปนั่งไกลๆ แต่ก็โดนยงกุกดึงมานั่งตักแทน
“พี่แค่แกล้งเจโล่เล่นๆ นะ พี่ไม่ทำอะไรหรอกครับ” ยงกุกยังคงยิ้มอ่อนโยนให้เจโล่ รอยยิ้มที่เขาไม่มีให้กับใครคนอื่น เขาจะยิ้มแบบนี้ให้เจโล่แค่คนเดียวเท่านั้น
“นี่ไอ้คุณเพื่อนเหงือกบานครับ ช่วยแหกตามองกูด้วย ฮิมชานยังนั่งหล่ออยู่ตรงนี้นะครับโว๊ย!!” ดูมันทำเข้าสิครับ เล่นหวานจนผมยังเขินแทนเจโล่เลย ส่วนผมก็ต้องเซ็งเพราะยองแจเอาแต่กินอย่างเดียวเลย ส่วนอีกสองคนไม่ต้องพูดถึงครับเพราะเล่นทำอะไรไม่เกรงใจคนในร้าน
“มึงจะบ่นอะไรว่ะ ยองแจก็นั่งอยู่ข้างๆ ไม่ใช่รึไง” เอ่อ.. มึงช่วยแหกตาดูสักนิดว่าเมียกูเอาแต่กินเนี่ย
“เจโล่อยากไปเที่ยวไหนวันนี้? พี่จะพาไปทุกที่เลยครับ” เจโล่ที่เคยเขินอายเพราะโดนจับมานั่งตักตอนนี้คงเลิกเขินไปแล้ว หรือไม่ก็ดีใจจนลืมตัวเพราะดันโอบรอบคอของยงกุกทันทีที่ได้ยินคำว่าเที่ยว
“จริงหรอฮ่ะพี่ยงกุก ไปเที่ยวกันนะฮ่ะ” ส่วนยองแจที่เห็นเจโล่ทำแบบนั้นก็ต้องสำลักอาหาร เพราะกำลังนึกว่าถ้าเขานั่งตักฮิมชานนานแบบนั้นคงโดนกินไปแล้วแน่ๆ
แค่กๆๆ
“ยองแจเป็นอะไรรึเปล่า อย่ากินเร็วแบบนี้สิครับ ค่อยๆ กินก็ได้ฮิมชานไม่รีบ” ฮิมชานพูดแซวยองแจพร้อมกับหยิกแก้มนุ่มๆ เล่น
“งั้นพี่พาผมไปเที่ยวด้วยนะฮ่ะ” ฮิมชานได้ยินแบบนั้นก็กระโดดตัวลอยเพราะดีใจสุดขีด

และแล้ววันนี้ก็ลงเอยด้วยการไปเที่ยวเป็นคู่ ยกเว้นแค่คู่เดียวที่ไม่ได้ไปเที่ยวอ่านะ

“พี่ยงกุกอยากดูหนังเรื่องไหนหรอฮ่ะ” เจโล่ถามยงกุกเพราะเขาไม่รู้ว่าจะดูเรื่องไหนดี
“งั้นเอาคนอึดตายยาก ภาคล่าสุดแล้วกันนะเจโล่”
หลังจากดูหนังจบก็ต่อด้วยการเดินซื้อของกินนั้นกินนี้ ซึ่งหลังจากการเลือกหนังยงกุกก็ไม่ได้ตัดสินใจอะไรอีกเลย จนกระทั่งพระอาทิตย์ตกดินทั้งสองคนก็อยู่ที่ริมแม่น้ำฮัน ปั่นจักรยานคู่รัก แล้วก็นั่งชมพระอาทิตย์ตกดิน

“พี่ยงกุกฮ่ะ” เจโล่เอ่ยออกมาตอนที่กำลังเดินกลับบ้าน
“วันนี้ผมค้างกับพี่ยงกุกนะฮ่ะ” เขารู้อยู่แล้วว่าเจโล่ต้องขอค้างกับเขาแน่ๆ เพราะพ่อกับแม่ไม่อยู่บ้าน ซึ่งทั้งคู่ก็เป็นคนวางแผนไว้ให้อีกนั่นแหล่ะ
“ได้สิครับ ทำไมจะไม่ได้ล่ะฮือ” ยงกุกตอบก่อนจะยีหัวเจโล่เล่นอย่างเอ็นดู

“พี่ยงกุกฮ่ะ ทำไมในตู้เย็นไม่มีอะไรให้กินเลยล่ะฮ่ะเนี่ย?” เจโล่เป็นเด็กกำลังโตจึงกินได้ทั้งวัน และยงกุกเองก็ลืมเรื่องนั้นไปซะสนิทเลย
“งั้นพี่ออกไปซื้อมาให้แล้วกันนะ” ยงกุกลูบหัวของเจโล่ก่อนจะออกจากบ้าน
“ไปด้วยสิฮ่ะ” เจโล่กำลังอ้อนขอแต่ยงกุกไม่ใจอ่อน
“อยู่บ้านนี่แหล่ะ พี่จะรีบวิ่งไปแล้วก็วิ่งกลับมาเลยนะ” เจโล่ได้แต่เบ้ปากใส่อย่างเซ็งจิต
“ก็ผมอยากไปกับพี่นี่หน่า” หลังจากบ่นก็ทำอะไรไม่ได้ ก็เลยต้องนั่งจุ้มปุ๊กอยู่ที่โซฟา

ก๊อกๆๆๆ
“ทำไมกับมาเร็วจังนะ สงสัยจะวิ่งมาแน่ๆ เลย” แต่ทันทีที่เจโล่เปิดประตูออกไป คนที่เขาเห็นไมใช่ยงกุกแต่เป็นคนหน้าตาหน้ากลัวกลุ่มหนึ่งที่เดินเข้ามาในบ้านอย่างไม่เกรงกลัวใคร
“พวกคุณเป็นใครฮ่ะ?” คนพวกนั้นมองเจโล่ด้วยสายตาน่ากลัวตอบกลับมา
“ฉันเป็นลูกพี่ของคนที่ไอ้ยงกุกอัดจนปางตาย และตอนนี้ยังไม่ฟื้นนะสิ”
“พี่ยงกุกไม่อยู่บ้านหรอกฮ่ะ” แต่คนพวกนั้นไม่ได้สนใจสิ่งที่เจโล่พูดเลยสักนิด
“น่ารักนี่หว่า ผู้หญิงผู้ชายว่ะเนี่ย ผิวขาวซะขนาดนี้เชียว” คนที่ดูเหมือนหัวหน้าเอื้อมมือมาจับแก้มของเจโล่ก่อนจะโดนเจโล่ปัดออก
“แหมๆ เล่นตัวซะด้วยสิว่ะเฮ้ย ลากมันเข้าไปในห้อง” ตอนนี้มีลูกน้องของมันสองคนฉุดลากเจโล่เข้าไปในห้อง ก่อนที่มันจะเดินตามเข้าไป พร้อมกับถอดเข็มขัดออกอย่างใจเย็น
“ออกไปนะ!!” เจโล่ที่กลัวสุดขีดกำลังร้องไห้ออกมา
“ปล่อยนะ!!! บอกให้ปล่อยไงเล่า!!!” มันใช้เข็ดขัดรัดข้อมือของเจโล่ไว้ด้านหลัง ก่อนจะใช้ริมฝีปากหยาบกร้านชิมรสหวานจากผิวนุ่มๆ ที่แก้มของเจโล่
“พี่ยงกุกช่วยผมด้วย ฮือๆๆๆ” เจโล่รู้สึกทรมานเหมือนกำลังจะตาย ถึงแม้จะโดนแค่หอมแก้มแต่เขาก็ขยะแขยงเป็นที่สุด แล้วไหนจะมือที่ลูบขาของเขาอยู่ก็ยิ่งทำให้เจโล่อยากจะบ้า
“พี่ยงกุก!!!
โชคดีของเจโล่ยังคงไม่หายไปไหน เพราะยงกุกที่ออกไปซื้อของกลับมาถึงบ้านทันพอดี และเสียงเรียกของเจโล่ยิ่งทำให้เขาแทบคลั่ง ลูกสมุนของพวกมันยังมากันไม่ครบดี ยงกุกจึงมีคนให้เขาเล่นงานไม่มากเท่าไหร่ ก่อนจะพังประตูห้องของตัวเองเข้าไปและพบว่าไอ้บ้าคนนึงกำลังลวนลามเจโล่อยู่
“ไอ้เหี้ยเอ้ย!!! มึงตาย!!!!” ยงกุกกระชากคอมันออกมานอกห้องก่อนจะระดมฝ่าเท้ามอบให้ไม่ยั้ง แต่ก็ต้องหยุดซะก่อนเพราะได้ยินเสียงคนจำนวนมากร้องตะโกนใส่
“หนีก่อนเจโล่” ยงกุกคลายเข็มขัดที่รักข้อมือของเจโล่ออกก่อนจะเริ่มวิ่งออกจากบ้าน
ยงกุกสู้คนพวกนั้นได้สบายแต่ไม่ใช่ในเวลานี้ และต้องไม่ใช่ต่อหน้าเจโล่ เขาจึงตัดสินใจพาเจโล่วิ่งออกมาจากบ้านของตัวเอง โดยไม่ลืมที่จะโทรบอกเพื่อนของเขา
“ไอ้ฮิม! แม่งนักเลงที่ไหนไม่รู้มันมาบุกบ้านกู แล้วยัง..”
“กูจะพาเจโล่วิ่งไปให้ใกล้กับสวนมากที่สุด มึงไปรอกูแถวนั้นด้วย”
“เอ่อ! กูจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหล่ะ” ฮิมชานได้ยินแบบนั้นก็ต้องรีบลากแดฮยอนออกจากจองอบและวิ่งไปหาเพื่อนของเขา
(และเหตุการณ์ต่อจากนี้ก็คือตอนที่ 1 ในคราบปีศาจ นะเออตัวเธอ ถ้าจำไม่ได้ก็ย้อนกลับไปอ่านได้นะจ๊ะ)

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น