uncopy

วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

1st 09 รักเราไม่เท่ากัน

                “พี่ฮิมชาน! ที่พี่ยงกุกพูดนะหมายความว่ายังไง” ว่าแล้วไม่กู ไอ้เพื่อนระยำมันเอาระเบิดมาลงบ้านผม ใจจริงก็คิดว่ายองแจอาจจะเป็นห่วงเพื่อนก็เลยปล่อยให้เงียบต่อไป แต่ตอนนี้ผมคงไม่ต้องเดาแล้วล่ะ ก็แก้มป่องๆ ตอนนี้กำลังจะระเบิดนะสิ
            “เรื่องอะไรหรอคร๊าบ” เนียนเข้าไว้ แถไปก่อน สีข้างจะลอกช่างแม่ง
            “ที่ว่าฟันแล้วทิ้งนะหมายความว่ายังไง เล่ามาให้หมดเลยนะ” ตอนนี้ไม่ใช่แค่แก้มจะแตก แต่ตากำลังจะถล่นแล้วครับพี่น้อง ไม่เป็นไรสีข้างยังต่อได้อีกนิด
            “แหมๆ มันก็แค่เขินที่ยองแจไปแซวมัน มันก็เลยแกล้งให้น้องโกรธพี่ไงจ๊ะ” ตาของยองแจที่กำลังจะถล่นหดกลับเข้าที่ไปแล้ว แต่บรรยากาศนี่สิเล่นเอาเสียวสันหลังฮิมชานเลยอ่ะ
            “ไม่เคยไปฟันใครที่ไหนจริงรึ?” แววตานั่นชั่ง มองทะลุอดีตของีฮิมเลยครับพี่น้อง ช่วยเหยินศรีด้วยเน้อ
            “ถึงพี่จะเคยผ่านใครมามากมาย แต่พี่ก็หยุดที่น้องแล้วไง แค่นี้ไม่พอให้ยองแจเชื่อใจพี่หรอจ๊ะ สุดที่รักของพี่” ไม่ต้องมาแถให้เมื่อยเลยนะ แสดงว่าที่พี่ยงกุกพูดนี่เรื่องจริงใช่ไหม?
            “ว่าแต่ยองแจไม่ไปบ้านพี่สักหน่อยหรอ ทีเจโล่ยังอยู่กะยงกุกเลยอ่ะ แล้วจองอบเองก็คงจะไปบ้านไอ้แด้แน่ๆ อ่ะ แล้วคืนนี้พี่ต้องเหงาอยู่ที่ห้องคนเดียวหรอเนี่ย??” ไม่ต้องทำแอ๊บแบ๋วใส่ฉันเลยนะอีพี่เหยิน ฟันแกมันล้ำหน้ามากเกินไปแล้วนะ ทำหน้าอย่างกะหนูหิวชีสก็ไม่ปาน
            “ผมจะกลับบ้าน! ของตัวเอง” เล่นย้ำคำหลังแบบนี้ก็ฝันสลายดอกฝ้ายบานสิครับ
            “ถ้ายองแจเห็นว่าพี่เป็นคนแบบนั้นพี่ก็คงทำอะไรไม่ได้อ่านะ งั้นพี่ไม่ส่งที่บ้านแล้วกัน แค่ไปส่งได้ใช่ไหม?” เล่นบทโศกตีหน้าเศร้าใส่ซะเลย ยังจะใจแข็งกับฮิมชานคนนี้อีกไหม
            “ก็ได้ แค่ไปส่งผมที่บ้านจากนั้นพี่ก็กลับบ้านพี่!” ผมเฝ้ามีมากี่ปีแล้วทำไมจะไม่รู้ว่าพี่ลูกเล่นเยอะขนาดไหน อย่าคิดว่าคนอย่างยองแจจะยอมเสียเอกราชให้พี่ง่ายๆ ถ้าอยากได้ก็ต้องพยายามให้มากหน่อยนะ เพราะกว่าพี่จะสนใจผมได้ก็เล่นเอาผมอ้วนตุ้ยเพราะต้องไปหาอะไรกินแทบทุบวัน เพราะฉะนั้นถึงผมจะอยากกินพี่ลงไปทั้งตัว ผมก็ไม่ยอมโดนพี่กินง่ายๆ หรอกนะจะบอกให้
            ดีที่บ้านของพวกเราไม่ไกลกันมาก อันที่จริงบ้านผมออกจะอยู่ใกล้บ้านพี่ยงกุกมากกว่าใครเพื่อน ไม่อย่างนั้นผมคงไม่เชื่อเรื่องที่พี่เขาพูดออกมาหรอก คนแถวนี้รู้กันดีว่าพี่ยงกุกไม่ใช่คนที่จะมาพูดหยอกล้อใครเป็น ถึงแม้จะมีเจโล่อยู่ใกล้ๆ แต่หลายอย่างในตัวพี่ชายคนนั้นไม่เคยเปลี่ยน ทำไมผมถึงรู้ดีงั้นหรอ เพราะครั้งหนึ่งที่ผมไม่เชื่อในสิ่งที่พี่ยงกุกพูดเกือบทำให้ผมเอาตัวไม่รอด
           
“เฮ้ย! แกนะ รีบกลับบ้านได้แล้วไป แถวนี้มีแต่พวกคนน่ากลัวทั้งนั้น มัวมาแตร่อะไรของแกแถวนี้ฮ่ะ” บังยงกุก ผู้ชายที่น่ากลัวคนนั้นกำลังพูดกับผมอยู่ แต่ทำไมผมต้องไปเชื่อที่เขาพูดด้วยล่ะ ถ้าเชื่อก็แสดงว่าผมกลัวเขาสิ ผมไม่ได้กลัวเขาสักหน่อย
หลังจากที่ได้ฟังคำเตือนแต่ผมกลับเพิกเฉยต่อมัน ผมยังคงวิ่งวุ่นกับการเดินตามพี่ชายหน้าหล่ออีกคนอยู่ แต่แล้วก็ต้องพลัดหลงจนได้ กว่าจะรู้ตัวอีกที ผมก็อยู่ไม่ไกลจากพวกนักเลงที่ดูจะเมาอยู่ไม่น้อยเลย และผมที่ยังเป็นเด็กอายุแค่สิบสาม ใบหน้าหวานกับตาโตที่ทำให้คนเมาพวกนั้นเห็นผมเป็นเด็กผู้หญิง พวกมันที่เมากันเต็มที่ต่างพากันจ้องมองผมเหมือนพวกตัณหากลับ แต่ในตอนที่ผมพยายามจะฝ่าวงล้อมคนหน้ากลัวพวกนั้นออกมา ผมที่ยังเด็กจะสู้แรงของพวกนักเลงขี้เมาสามสี่คนได้ยังไง เสื้อของผมถูกฉีกทึ้งไม่เหลือชิ้นดี แถมยังเจ็บจากแผลที่โดนตบเข้าที่หน้าอีก และในตอนนั้นที่ผมคิดว่าผมคงถูกรังแกแน่ๆ ก็ปรากฏว่ามีคนๆ หนึ่งที่กำลังฉุดกระชากคนพวกนั้นออกจากผม บังยงกุก!
พี่ยงกุกไม่ได้เล่นงานอะไรพวกมันมากนักแต่เน้นหนักที่ของสงวนของพวกมัน เรียกได้ว่าชาตินี้อย่าหวังจะได้ใช้งานอีก และที่มือของพวกมันก็ถูกกระทูบจนอาบไปด้วยเลือด มือที่ทำร้ายผมถูกผู้ชายน่ากลัวคนนั้นจัดการไม่เหลือซาก ถึงแม้ผมจะสำนึกในบุญคุณของพี่ยงกุกก็จริง แต่ภาพของใบหน้าที่เปื้อนยิ้มราวกับปีศาจที่กำลังสนุกในการทรมานคนพวกนั้น ทำให้ผมกลัวคนๆ นั้นจริงๆ ถึงแม้เขาจะอุ้มผมที่ตัวสั่นเทิ้มไปหาหมอแต่มันก็ไม่ช่วยให้ผมหวาดหลัวเขาน้อยลง
เรื่องที่ผู้ชายคนนั้นบอกผมมันคือความจริง เขาเตือนผมด้วยความหวังดีที่คนอื่นมองไม่เห็น และถึงแม้ผมจะไม่เชื่อแต่เขายังคงมาช่วยผมคนที่ไม่ฟังคำเตือนที่มีค่านั้น ผมขอสารภาพว่าผมกลัวผู้ชายที่ชื่อบังยงกุก แต่ผมก็เคารพและเชื่อฟังเขาเช่นกัน

“ยองแจอ่า ใจร้ายกับพี่จังเลยนะเราเนี่ย ถ้าพี่ช้ำใจตายไปจะว่าไงฮือ?” ผมเองก็อยากจะอยู่กับพี่นะพี่ฮิมชาน แต่ผมก็ต้องฟังคำเตือนขอพี่ยงกุกเหมือนกัน
“จนกว่าผมจะมั่นใจในความรู้สึกของพี่” ฉันรู้ว่านายเองก็คงยังไม่เชื่อใจฉันเท่าไหร่หรอกจริงไหม? ก็ฉันเป็นคนแบบนั้นมาตลอดเลยนี่จริงไหม
“ถ้าอย่างนั้น ยองแจมาสารภาพรักกับพี่ทำไมกัน?” ผมอยากรู้ใจของเด็กคนนี้จริงๆ ทั้งที่เขาคอยตามติดผมมาตลอด แต่เขาไม่เคยยอมให้ผมแตะต้องเนื้อตัวของเขามากกว่าหอมแก้มป่องๆ นั้น ทั้งที่มันก็ผ่านมาตั้งสองอาทิตย์แล้วด้วยซ้ำนับแต่เขามาสารภาพกับผมว่าเขารู้สึกยังไง ผมเองที่สนใจในตัวเจโล่อยู่กำลังถอดใจเพราะน้องเขาเอาแต่ยิ้มสดใสให้อย่างเดียว แถมทุกครั้งที่ออกจากร้านของผมไป เจโล่ก็มักจะพูดแต่ว่าพี่ชายมารับ ผมเองอิจฉาผู้ชายคนนั้นมากที่เจโล่พุ่งความสนใจไปที่เขาซะหมด มารู้ก็วันนี้นี่แหล่ะว่าพี่ชายคนที่ว่าคือเจโล่ของผม
ผมรู้ ผมมันคนเห็นแก่ตัว ผมมียองแจที่อยู่ข้างผมแล้ว แต่ผมยังคงมีเสี้ยวหนึ่งของความรู้สึกดีๆ ที่มอบให้กับเด็กคนนั้นหลงเหลืออยู่ นี่อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมไม่พยายามจะลุกใส่ยองแจเหมือนที่ผมควรจะทำ ผมควรจะจัดการกับความรู้สึกของตัวเองให้ดีก่อน ผมไม่อยากทำให้ยองแจต้องเจ็บกับเรื่องนี้ แต่เหมือนอีกคนจะรู้อยู่แล้วก่อนหน้านี้ว่าผมชอบใคร
“ผมจะรอ! จนกว่าคนที่พี่ชอบเพียงคนเดียวจะเป็นผม” หน้าที่ดูเอาเรื่องอยู่ตลอดเวลาของยองแจตอนนี้ ฉายแววเศร้าออกมาให้อีกคนได้รับรู้
“พี่เอง ก็จะชอบยองแจแค่คนเดียวเหมือนกัน” ผมรู้นะ ผมเห็นแววตาที่พี่มองเพื่อนของผม ทั้งที่ผมอยู่ตรงหน้าพี่มาตั้งนาน แต่พี่กลับเบนความสนใจไปที่เจโล่ซะหมด และนั่นเองที่ทำให้ผมตัดสินใจบอกความรู้สึกออกไป ผมรู้ว่าไม่มีช่องว่างให้พี่ฮิมชานแทรกเข้าไปได้ ระหว่างพี่ยงกุกกับเจโล่ และถึงแม้ผมจะเจ็บก็ไม่เป็นไร ผมแค่ไม่ต้องการให้คนที่ผมรักเจ็บปวดเพราะรักที่ไม่มีทางสมหวังนั่น

แดดอุ่นของเช้าวันใหม่ส่องเข้ามาภายในห้องที่ตอนนี้มีเรือนร่างสวยงามของเจ้าของผิวขาวสวยที่ตอนนี้มีเพียงผ้าห่มผืนบางวางพาดสะโพกสวยได้รูป ภาพที่เห็นทำให้คนมองถึงกับหลงใหลคลั่งไคล้คนตรงหน้า ริมฝีปากบางสีชมพูบนเรือนหน้าสวยได้รูป ทำเอาตาโตๆ ละไปทางอื่นไม่ได้ ทั้งที่อยากจะปลุกคนตรงหน้าให้ตื่นจากความฝันแต่เขาเองก็อยากจะมองแบบนี้ต่ออีกสักหน่อย
“ตื่นได้แล้วนะจองอบ” ผมพูดพร้อมกับจูบลงบนผิวสวยนั่น ทำเอาคนหลับสนิทถึงกับสะดุ้งตื่น เพราะไม่คิดว่าจะถูกจู่โจมตั้งแต่เช้าแบบนี้
“พี่ตื่นแล้วหรอครับ” ตาเล็กๆ หลบหนีเพราะอายอีกคนที่อยู่ในสภาพไม่ต่างจากตัวเองนัก ดวงตาคมสวยที่กำลังจ้องเขาอยู่ทำให้รู้สึกเหมือนโดนโลมเล้าด้วยสายตา อีกทั้งผิวสีแทนสวยที่เสริมให้แผงอกและกล้ามท้องชวนมองมากขึ้นไปอีก ทั้งเนื้อทั้งตัวก็สวมใส่เพียงกางเกงบ็อกเซอร์ซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรมากนักในเวลาแบบนี้
“ถ้ายังทำหน้าแบบนั้นอยู่อีก พี่จะไม่ปราณีแล้วนะ” ตาเล็กของจองอบมองค้อนกลับไปทันที เพราะเขายังคงรู้สึกอายกลับเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อคืน จริงอยู่ที่เขาเคยอยู่กับแดฮยอนมาแล้วในวันที่คิดว่าแดฮยอนป่วย และถึงแม้จะถูกแดฮยอนระดมจูบให้แบบคอมโบ้ แต่มันก็เป็นเพียงแค่จูบ ไม่เหมือนกับที่เกิดขึ้นเมื่อคืน และส่วนหนึ่งคนที่ผิดคือตัวเขาเอง นั่นยิ่งทำให้จองอบอายมากขึ้นไปอีก คนขี้อายที่ตอนนี้เป็นฝ่ายเริ่มเรื่องหน้าอายกำลังระบายความขวยเขินของตัวเองด้วยการขว้างปาหมอนทุกใบที่มีอยู่ใส่แดฮยอน ส่วนแดฮยอนก็ชอบใจอยู่ไม่น้อย
“พี่ไม่แกล้งแล้ว! แต่ถ้าจองอบไม่หยุดพี่จะลงโทษจริงๆ แล้วนะ” แววตาเจ้าเล่ห์ที่ถูกส่งมาบอกให้รู้ว่าเขาเอาจริง จองอบที่กำลังโวยวายจึงรีบหยุดทันที
“แบบนี้สิครับ เด็กดีของผม” ใบหน้าหล่อเหลากำลังโน้มตัวลงมาหาจองอบ แล้วก็เป็นอีกครั้งที่จองอบห้ามใจตัวเองไม่อยู่
“ผมรักพี่แดฮยอนนะครับ!” ว่าจบแทนที่แดฮยอนจะเป็นฝ่ายจูบก่อน จองอบที่เพิ่งจะเขินอายได้ไม่นานก็พุ่งเข้าใส่แดฮยอนทั้งตัวแทน เล่นเอาแดฮยอนที่ตอนนี้นอนหงายอย่างเสียเชิงชาย ก็นะ เมื่อคืนก็แบบนี้!!! นี่ตกลงฉันตกเป็นของนายหรือว่านายเป็นของฉันกันแน่ฮ่ะจองอบ
ริมฝีปากที่หิวกระหายขอจองอบทำเอาแดฮยอนทนไม่ไหว เพราะเขาจะปล่อยให้จองอบคุมเกมส์ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว คิดได้อย่างนั้นก็พลิกตัวเองขึ้นมาแล้วจับอีกคนลงไปนอนนิ่งแทน ก่อนจะเริ่มปฏิบัติการควบคุมความหิวกระหายของอีกคนซะอยู่หมัด
“พี่บอกแล้วไง ว่าพี่จะไม่ปราณีแล้วนะจองอบ” แดฮยอนไม่เว้นช่องว่างให้จองอบได้ต่อสู้ เขาระดมความรู้สึกของตัวเองส่งไปที่จองอบแบบไม่ยั้ง ซึ่งจองอบก็ยอมรับมันแต่โดยดี
และเพราะไม่มีใครยอมใคร กว่าแดฮยอนและจองอบจะลาจากกันได้ก็เลยเที่ยงไปแล้ว
นี่แหล่ะนะความรักของวัยรุ่น...

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น