หลังจากต้องปวดหัวเพราะน้องชายโผล่มาจากไหนไม่รู้
ยังจะต้องมาปวดกะโหลกเพราะเจ้าลูกชายตัวดีที่จู่ๆ ก็จะให้ไปขอเมียให้
จับเขาทำเมียเร็วซะขนาดนั้น เชื้อพ่อมันแรงซะจริงคิดแล้วก็ยิ่งกลุ้มหนักกว่าเดิม
กว่ามันจะได้ฤกษ์ออกโรงพยาบาลเล่นเอาปวดกะโหลก ทั้งที่ต้องนอนแค่คืนสองคืนแต่มันดันใช้งานร่างกายหนักจนเอวพังเลยกลายเป็นต้องนอนเกือบอาทิตย์
ยิ่งคิดก็ยิ่งกลุ้มเหมือนพ่อมันไม่มีผิด
“นี่แดฮยอน! บอกแม่มานะว่าแกจับน้องเขาทำเมียมานานขนาดไหนแล้วเนี่ย?
เกิดท้องขึ้นมาจะว่ายังไงฮ่ะไอ้ลูกบ้า!!!” แม่ก้อ
นี่จองอบผู้ชายนะคร๊าบไม่มีมดลูดจะท้องได้ไง??
“ถ้าท้องก็ดีสิแม่จะได้มีหลานให้อุ้ม ไม่ดีใจไง?” เป็นไงล่ะ?
ผมหน้าด้านซะอย่าง!
“ท้อง! มันก็ดีย่ะ
แต่น้องเขาเรียนม.ปลายอยู่ไม่ใช่รึไงอีลูกคนนี้?” ที่ตัวเองนะ
“ถ้าผมนับอายุแม่ให้ดี แม่ก็คลอดผมออกมาพอๆ กับจองอบตอนนี้ไม่ใช่รึไง ผม 22 แม่ 39 เห็นม่ะ? แม่ก็คลอดผมตอน 17 เองนะ!” เป็นไงล่ะ ผมบวกลบเลขเป็นนะ
“แก! ไอ้ลูกบ้า! นิสัยเหมือนพ่อไม่มีผิดเลย?”
งั้นแม่ก็หื่นเหมือนจองอบเมียผมอ่ะดิเนี่ย
“จะไปขอให้รึเปล่า? ไม่งั้นผมจะฉุดน้องเขามาซะเลยนะ!”
เป็นไงล่ะ ลองกล้าไม่ไปขอให้ดูสิคนหล่อจะฉุดเมียตัวเองให้ดู
“พ่อแม่หนูจองอบรู้จักแดฮยอนรึเปล่าลูก?” ที่พูดกะว่าที่ลูกสะใภ้ล่ะไพเราะเพราะพริ้งเชียวนะแม่ตูเนี่ย
“รู้จักครับ พี่แดฮยอนไปส่งผมที่บ้านบ่อยๆ” เห็นไหมแม่
ผมเปิดทางไว้แล้ว!
“งั้นหนูจองอบโอเคใช่ไหมลูก? ตกลงยังอยากเป็นเมียไอ้ลูกบ้าของป้าอยู่รึเปล่าจ๊ะ??”
โฮ้ยแม่ไงพูดงี้เนี่ย??
“อีตาบ้ามินซู เตรียมตัวไปขอสะใภ้ได้แล้ว!!!” อย่างน้อยวันนี้ผมก็แข็งแรงพอจะออกจากโรงพยาบาลได้แล้วอ่านะ
จากวันที่โดนอัดที่ก็ครบหนึ่งสัปดาห์พอดิบพอดี
น้องชายที่มาจากไหนก็ไม่รู้ของแม่ก็ยังอยู่ที่บ้านของพ่อแม่เจโล่เหมือนเดิม
คนอื่นๆ ก็ออกโรงพยาบาลไปตั้งกะสามวันก่อน
เหลือแค่กระผมที่เอวระบมต้องนอนโรงพยาบาลต่อ เอาตรงๆ
ตอนนี้ก็ยังต้องใส่เฝือกอ่อนดามเอวเอาไว้
เหตุเพราะกระดูกสันหลังมีปัญหาเล็กน้อยแอบเคลื่อนนิดๆ ต้องใส่แบบนี้ไปอีกเดือน
แต่โชคยังดีที่จองอบของผมเป็นงานอยู่แล้วผมเลยสบายเลย
ว่าแต่ทำไมคนอื่นก็โดนกระทืบเหมือนผมแต่ไม่เอวระบมเหมือนผมกันนะ??
“เจโล่มาชิมกับข้าวให้แม่หน่อยสิลูก อร่อยรึยัง??” คุณนายชเวกำลังทำกับข้าวเพื่อคนในครอบครัวรวมไปถึงเพื่อนรักที่ไม่ยอมกลับบ้านกลับช่องสักที
“ว่าแต่พวกแกจะกลับกันได้ตอนไหนว่ะเฮ้ย! อยู่แบบนี้มันเปลืองค่ากับข้าวนะเฟ้ย!!”
คำพูดของซึงฮยอนเนเอายงกุกถึงกับหลุดขำ
ก็ใครจะไปคิดว่าพ่อตาจะฮาได้โล่ขนาดนี้
“หัวเราะอะไรยงกุก??” ยองเบถามออกมาอย่างข้องใจว่าจะหัวเราะทำไม
“ก็.. พ่อกับพวกน้าๆ ดูจะสนิทกันมากเลยครับ พอเห็นแล้วก็นึกถึงเวลาที่ผมอยู่กับฮิมชานแล้วก็แดฮยอนนะครับ
ก็เลยเผลอหัวเราะออกมา ขอโทษด้วยครับ!” ยงกุกรีบขอโทษเพราะกลัวว่ายองเบจะโกรธเอา
ยังไงซะเขาก็รู้สึกกลัวคนๆ นี้เล็กน้อยอยู่ดี
“พอดีเลยไหนๆ ก็อยู่กันครบองค์ประชุม
ฉันมีเรื่องสำคัญที่ต้องบอกทุกคนเอาไว้ให้รู้ด้วย” ซึงรีที่คอยแต่จะกวนประสาทกำลังจะป่าวประกาศอะไรสักอย่าง
ดูจริงจังเสียจนทุกคนตกตะลึง
“ฉันอยากให้ยงกุกหมั้นกับเจโล่ไว้ก่อน!” ฮือ? หมั้น??
“ฉันด้วย!!” ยองเบออกเสียงอีกหนึ่ง
เล่นเอาซึงฮยอนกับเซริวมองเพื่อนแบบสงสัย
“เจโล่จะได้ไม่ต้องเข้ารับการฝึกเพื่อเป็นรุ่นที่ห้า
เพราะคู่หมั้นสามารถเข้ารับการฝึกแทนได้!! ยังไงซะคงดีกว่าถ้าไม่ให้เจโล่ไปฝึก”
ยองเบยืนยันหนักแน่น
การส่งเจโล่ไปฝึกเป็นนักฆ่าไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเลย เด็กคนนี้น่ากลัวเกินไป
“นี่เป็นข้อเสนอของทางสามตระกูลใหญ่
พวกเขากลัวว่าเจโล่จะเก่งจนพวกเขาควบคุมไม่ได้ เพราะงั้นเลยเสนอให้คนรักของเจโล่ฝึกแทนได้
ซึ่งคนรักในที่นี้จะต้องเป็นคนที่จะแต่งงานเข้าตระกูลโทะกุงาวะ
นายจะยอมแต่งเข้าตระกูลของเซริวได้รึเปล่า รู้สึกเสียศักดิ์ศรีรึเปล่า??” ยองเบถามยงกุกอย่างจริงจัง
“ถ้าผมจะได้แต่งงานกับเจโล่ จะเป็นคนของตระกูลไหนก็ไม่สำคัญ เพราะงั้นพ่อกับแม่ยกเจโล่ให้ผมนะครับ!!!”
คำพูดของยงกุกเล่นเอาคุณและคุณนายชเวอึ้งรับประทานต่างจากเจโล่ที่ตอนนี้ดูเหมือนจะมีอาการแปลกๆ
เล็กน้อย
“เจโล่เป็นอะไรไปลูก?” ท่าทางของเจโล่ตอนนี้ดูจะเหมือนจะไม่สบายเลย
ทั้งหน้าซีดแถมยังทำหน้าพะอืดพะอมแปลกๆ
“แม่ฮ่ะ! ผมปวดหัวยังไงก็ไม่รู้ฮ่ะ?” เจโล่อ้อนคนเป็นแม่แทนที่จะหันไปอ้อนกับยงกุก
“เจโล่ไม่สบายตรงไหน ไปหาหมอไหมครับ?” ยงกุกพยายามจะดูแลเจโล่กลับถูกอีกคนบอกปฏิเสธ
เอาแต่บอกว่าจะอยู่กับแม่แค่สองคน
สรุปแล้วในตอนนี้ภายในห้องนอนของเจโล่ก็มีเพียงแม่กับเขาสองคนส่วนคนอื่นๆ
กำลังแนบหูแอบฟังสองแม่ลูกคุยกัน
“ถ้ายังจะแอบฟังให้ได้ แม่จะตัดหูทิ้งซะเลยนี่!” คำพูดของคุณนายชเวใช้ได้ผลเพราะทุกคนต่างพากันเดินกลับไปห้องรับแขกที่ชั้นล่างเป็นที่เรียบร้อย
มีเพียงยงกุกที่ดูจะกลุ้มใจกว่าใครเพื่อน
เพราะนี่คงเป็นครั้งแรกที่เจโล่ไม่ยอมให้เขาดูแล
“บอกแม่ได้รึยังว่ามีอะไรฮึ? ยงกุกน้อยใจจะแย่อยู่แล้วน่ะที่ลูกไม่ยอมให้เขามาดูแลนะ”
ถึงยังไงคุณนายก็ชอบเวลาที่เจโล่อยุ่กับยงกุกว่าที่ลูกเขยของเธอ
“คือว่าผม...” เจโล่กระซิบเบาๆ
เพื่อไม่ให้มีเสียงเล็ดลอดออกไป แต่ประโยคที่คนเป็นแม่ได้ยินเล่นเอาแทบหงายท้อง
“เป็นมานานรึยัง? กี่วันแล้ว??” คนเป็นแม่กำลังงงตาแตกกับคำพูดของลูกชายตัวเอง
ตกลงนี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย??
“วันนี้วันที่สองฮ่ะ โชคดีที่พี่ยงกุกกลับไปนอนที่บ้านก็เลยไม่รู้เรื่อง!!”
เจโล่พูดแบบอายๆ เขินๆ
“แล้วลูกไปเอาไอ้นั้นมาจากไหนล่ะเนี่ย?” ยิ่งงงไปกันใหญ่ว่าลูกชายตัวดีไปหาของแบบนั้นมาใช้ได้ยังไง
เพราะของเธอก็ไม่มีสักหน่อย
“ผมแอบไปซื้อที่ร้านมานะฮ่ะ!” เจโล่ทำหน้าแบบเซ็งจิตดพอนึกถึงตอนที่ไปซื้อของ
“แม่ว่า.. ลูกไปหาหมอกับแม่ดีกว่านะ
มันอาจจะไม่ได้เป็นแบบที่ลูกคิดก็ได้จริงไหม??”
ว่าแล้วคุณนายชเวก็ขอตัวพาลูกชายสุดที่รักไปหาหมอกันเพียงลำพัง
โดยยื่นคำขาดว่าใครตามมาจะส่งไปนอนที่ก้นแม่น้ำฮันแทน
กว่าการตรวจร่างกายที่ถี่ยิบแสนละเอียดละออ
สองแม่ลูกก็ออกมาแบบเหนื่อยหน่าย การรอผลตรวจเนี่ยมันบีบหัวใจให้ลุ้นดีแท้
ว่าแล้วก็รออยู่นานกว่าผลจะออก
“คุณหมอค่ะ ตกลงลูกชายฉันเป็นอะไรไปค่ะ??” คนเป็นแม่กำลังกลุ้มใจเพราะลุ้นผล
ส่วนคนลูกก็ได้แต่ภาวนาให้สิ่งที่คิดเอาไว้มันไม่จริง…
ตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลมายองแจก็เอาแต่โมโหใส่ผมตลอดเลย
ทั้งที่ตอนที่อยู่โรงพยาบาลก็ยังหวานกันอยู่เลยแท้ๆ
แล้ววันนี้ผมก็ไปง้อถึงบ้านยองแจเลยหล่ะ อยากจะรู้นักว่าจะใจแข็งขนาดไหน??
“สวัสดีครับ! ยองแจอยู่ไหมครับคุณน้า?” วันนี้ผมมาหายองแจที่บ้าน แล้วพ่อกับแม่ของยองแจก็อยู่ครบเลยล่ะ
ผมเองก็อยากจะรอไปอีกหน่อยอ่านะแต่ตอนนี้ผมมั่นใจว่านี่คือสิ่งที่ผมควรทำ
หากแต่ผมต้องมาเจอเรื่องระทึกขวัญแทนนะสิ
“ฮิมชานมาก็ดีเลย น้ากำลังจะตามเราอยู่พอดีเชียว” คำพูดบวกน้ำเสียงของพ่อแม่ยองแจเล่นเอาฮิมชานเสียวสันหลังไม่น้อยเลย
“นายกับยองแจคบกันไปถึงขั้นไหนแล้วฮ่ะ??” ทันทีที่นั่งลงข้างๆ
ยองแจ ผมก็โดนยิงคำถามชวนอึ้ง
“เอ่อ.. คือ..” ผมหันหน้าไปมองยองแจก่อนจะหันกลับมามองพ่อแม่ของยองแจอีกรอบ
“ยองแจท้องได้เดือนกว่าๆ แล้ว นี่มันหมายความว่ายังไง??” ท้อง? ท้องได้ไง??
“ยองแจอ่า!!” ฮิมชานมองหน้ายองแจแบบงงๆ
ผู้ชายท้องได้ไง
“ผมไม่รู้!” ยองแจเองก็งงไม่ต่างจากฮิมชาน จู่ๆ
ก็ไม่สบายขึ้นมา พอไปหาหมอก็ดันได้ข่าวเหลือเชื่อมาอีกหนึ่งเล่นเอาทำตัไม่ถูกเลย
“พี่จะเป็นพ่อแล้วหรอ??” ว่าแล้วฮิมชานก็ดีใจจนเผลออุ้มยองแจจนตัวลอยก่อนจะคิดได้ว่าอีกคนเพิ่งจะท้องอ่อนๆ
“เอ่อ.. พี่ขอโทษนะ ยองแจเจ็บไหมครับ??” หลังจากวางยองแจลง
ฮิมชานก็ทำท่าแปลกใส่เล่นเอาพ่อแม่ของยองแจยอมแพ้
“น้องยังเรียนม.ปลายอยู่เลยนะ แล้วที่นี้จะทำยังไง??” ฮิมชานเลยนั่งตัวตรงก่อนจะพูดเสียงดังฟังชัดออกมา
“ผมจะแต่งงานกับยองแจครับ เรื่องเรียนก็ขอให้หยุดแค่เทอมนี้
เทอมหน้าให้ดร๊อปไว้ก่อนแล้วก็ไปอยู่ต่างประเทศกันสักระยะจนคลอดลูกเสร็จเรียบร้อย
ถ้ายองแจอยากจะกลับมาเรียนที่นี้ก็ค่อยกลับมาครับ” ฮิมชานพูดจบก็รีบลุกขึ้นยืนและคำนับว่าที่พ่อตาแม่ยายอย่างถูกต้อง
“ผมจะดูแลยองแจอย่างดีเลยครับ คุณพ่อดงอู คุณแม่โฮวอน” ว่าแล้วก็อึ้งกันไปกับว่าที่ลูกเขย
เล่นไม่รอให้ตอบอะไรคิดเองเออเองแล้วก็สรุปเอาเองเสร็จสรรพ
“พี่ฮิมชานเนี่ย?” ยองแจบุ้ยปากใส่ฮิมชานที่เป็นต้นเหตุอย่างช่วยไม่ได้
“ครับผม!!” ฮิมชานที่พอได้รู้ว่ายองแจท้องก็ประจบเอาใจใหญ่
แต่ก็ไม่ลืมที่จะโทรไปแจ้งแถลงไขให้เพื่อนๆ
ได้ทราบกันทั่วหน้า
“ยองแจท้องแล้ว กูจะเป็นพ่อคนแล้วโว๊ย!!!!!” พูดจบก็วางสายใส่ทันที
ทิ้งให้เพื่อนอีกสองคนที่รับสายยืนงงกับชีวิตต่อไป
“ต่อไปกูต้องพกถุงยางใช่ไหมว่ะเนี่ย??” ช่างสมกับที่เป็นเพื่อนกัน
เพราะคำพูดของยงกุกกับแดฮยอนอย่างกับอัดเทปมาเปิดก็ไม่ปาน
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น