ณ บ้านสกุลชเว
“นี่พ่อลูกเราไปตั้งแต่เมื่อคืนยังไม่กลับมาเลยนะ”
คุณนายที่เป็นห่วงลูกชายสุดที่รักกำลังบ่นอย่างช่วยไม่ได้
“ฮิมชานก็โทรมาบอกแล้วไงว่าดีกันแล้ว
แล้วก็กำลังปรับความเข้าใจกันอยู่ แม่ก็ห่วงมากจนเกินเหตุไปแล้วนะ” คุณชเวที่โล่งอกเพราะอย่างน้อยลูกชายเขาคงหยุดร้องไห้ไปแล้ว
“แต่ไปค้างด้วยกันแบบนั้น
แล้วยิ่งเพิ่งจะทะเลาะกันด้วย ยงกุกจะไม่ทำอะไรเจโล่ใช่ไหมพ่อ?”
ดูเมียผมทำหน้าสิครับ กลัวลูกจะเสียสาวว่างั้นเถอะ
“ก็ถ้ายงกุกจะทำคงทำไปนานแล้วล่ะแม่
คงไม่ปล่อยมานานขนาดนี้หรอกนะ” ก็จริงไหมล่ะครับ
ถ้าจะทำก็คงทำไปนานแล้วไม่มารอนานขนาดนี้หรอก
“แต่ว่า..”
เมียผมยังจะไม่หยุดอีกนิ
“พ่อเองก็ยังไม่ใช่คนเริ่มก่อนเลยนะพ่อจำได้
พ่อว่ายงกุกก้คงเหมือนพ่อนั่นแหล่ะน่า” จริงๆ แล้วครั้งแรกของผมกับแม่เจโล่นั้น
เมียรักของผมเป็นคนเริ่มอ่านะ
“พ่อนี่ก็ แม่ไม่พูดด้วยแล้ว!!” งอลใส่แบบนี้พ่อจัดอาหารเช้าให้ดีไหมแม่?
ว่าแล้วคุณชเวก็อุ้มคุณนายขึ้นบ้านไป
ทั้งที่เพิ่งจะตื่นกันได้ไม่นานแท้ๆ
ส่วนอีกคู่ที่ตอนนี้กำลังมองตากันอย่างหวานชื่นทั้งที่เพิ่งจะตื่น
ถามสภาพแต่ละคนก็แทบจะดูไม่ค่อยได้ คนหนึ่งมีรอยช้ำบนบนหน้าอันเป็นผลมาจากการโดนต่อยอย่างแรงหลายครั้ง
ส่วนอีกคนก็ตาบวมปูดเพราะร้องไห้มากเกินเหตุ
พอมองหน้าอีกคนก็ทำให้มีความสุขแบบแปลกๆ
“ทำไมถึงปล่อยให้ถูกชกได้ล่ะครับพี่ยงกุก?”
ผมควรจะสงสารพี่ไหมเนี่ย
“แล้วทำไมเจโล่ถึงตาบวมเป็นลูกมะนาวแบบนี้ล่ะฮือ?”
ไม่ต้องมาแซวผมเลย ก็แล้วใครทำกันล่ะที่ตาผมมันปูดแบบเนี่ย
“ผมไปอาบน้ำดีกว่า
ไม่อยากอยู่ใกล้พี่ยงกุกแล้ว เบื่อขี้หน้าคนใจร้าย!”
เจโล่ที่สะบัดบ๊อบใส่ยงกุกก่อนจะลุกไปอาบน้ำต้องล้มตัวลงที่นอนอีกรอบเพราะโดนยงกุกดึงเอาไว้
ก่อนจะโดนกอดเอาไว้แน่น
“ถ้าเจโล่ไปอาบน้ำ
ตัวเจโล่คงหอมมากแน่ๆ เลยล่ะ” แต่คำพูดของยงกุกเล่นเอาเจโล่เสียววูบ
“งั้นผมไม่อาบแล้ว!” เจโล่ที่เขินอย่างบอกไม่ถูกกำลังมุดหน้าลงใต้ผ้าห่ม
ก่อนจะโดนยงกุกดึงผ้าห่มออก แถมตอนนี้ยังโดนยงกุกคร่อมเอาไว้ด้วย
“ไม่อาบก็หอมอยู่ดี!” หน้าหล่อที่มีรอยช้ำตอนนี้กำลังส่งสายตาเจ้าเล่ห์ใส่อีกคนที่ถูกคร่อมเอาไว้
“ไหนบอกว่าจะไม่ทำอะไรผมไง?”
ตอนนี้เจโล่ที่เขินจนทำตัวไม่ถูกก็ต้องส่งเสียงประท้วงดังลั่น
ก่อนจะเอาแต่หันซ้ายหันขวาแล้วก็เบะปากใส่ยงกุกเป็นไม้ตายอันสุดท้าย
“พี่แค่อยากเห็นหน้าเจโล่ชัดๆ
ไม่ได้จะทำอะไรสักหน่อย” พูดจบยงกุกก็ลุกขึ้นจากเตียง ก่อนจะถอดเสื้อตัวบนออกเผยให้เห็นกล้ามเนื้อสวยได้รูป
จากนั้นก็หยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไป
แต่ก็ไม่วายจะทิ้งคำยั่วกวนโมโหให้คนที่นอนตาไม่กระพริบอยู่บนเตียง
“ถ้ายังทำหน้าแบบนั้น
พี่จะถือว่าเจโล่สมยอมนะ!!”
คำที่ยงกุกพูดเล่นเอาเจโล่ต้องทะลึ่งตัวลุกพรวดขึ้นจากเตียงแล้ววิ่งออกจากห้องนอนไป
“พี่ยงกุกบ้า! บ้าที่สุดเลย!!!”
เจโล่ที่ตื่นเต็มตาก็ต้องรีบไปหาอะไรมมาประคบเปลือกตาของตัวเอง
เพราะแค่จับก็รู้แล้วว่ามันบวมขนาดไหน
“เจ็บชะมัดเลย
ไอ้แด้แกนะแกต่อยมาได้ซะเต็มแรงแถมยังจะยองแจอีกคน
นี่พวกมันกะชกให้เสียโฉมรึไงว่ะ” ปากที่เคยเตือยมากพออยู่แล้ว
ดูเหมือนตอนนี้จะยิ่งบวอเตือยไปกันใหญ่เพราะโดนชกเข้าให้
ยงกุกที่มองดูสภาพตัวเองก็ทำได้แค่หัวเราะ
“อย่างน้อยเจโล่กับฉันก็ยังไม่เลิกกัน
เหลือแค่ต้องจัดการไอ้ฮยองซิก!”
ยงกุกที่เริ่มจะโมโหฮยองซิกขึ้นมาก็เผลอชกกระจกห้องน้ำเข้าเต็มแรงจนแตก
เพล้ง!!
“พี่ยงกุกฮ่ะ
เกิดอะไรขึ้น? ออกมาจากห้องน้ำเดี๋ยวนี่นะ”
เจโล่ที่ได้ยินเสียงกระจกแตกก็รีบวิ่งมาดู
แต่ยงกุกก็ยังไม่ยอมเปิดประตูให้เพราะดันทำกระจกปาดมือจนเลือดออก
“สงสัยต้องควบคุมตัวเองให้ได้มากกว่านี้ซะแล้วสิฉัน”
ยงกุกได้แต่บ่นกับตัวเองเบาๆ เพราะกลัวอีกคนจะได้ยิน
“เปิดประตูนะฮ่ะ
ผมบอกให้..”
ก่อนจะโดนเจโล่โกรธจนร้องไห้ยงกุกก็ต้องรีบลากตัวเองออกมาพร้อมกับมือที่มีเลือดออก
“ทำอะไรของพี่ฮ่ะเนี่ย?
ทำไมถึงมีเลือดออกแบบนี้ล่ะ”
ตาที่เพิ่งจะถูกประคบให้หายบวมตอนนี้กลับมาร้องไห้อีกครั้งแล้ว
“พี่มึนหัวนะ เมื่อคืนดื่มมากเกินไปหน่อยก็เลยเซเกือบจะล้มนะ
ดีที่เอามือค้ำไว้ก่อนแต่ก็ดันไปโดนกระจกก็เลยโดนบาดเอานะ แฮ่ๆ”
ยงกุกยิ้มแบบหน้าเสีย เพราะคำแก้ตัวที่ฟังไม่ค่อยจะขึ้นของเขา
“ล้มแบบไหนถึงมีแผลตรงนี้ล่ะฮ่ะ
ถ้าพี่ยงกุกทำแบบนี้อีกผมจะโกรธพี่แล้วจริงๆ นะ!!”
ดูก็รู้ว่าอีกคนชกกระจก เจโล่จึงเอาแต่บ่นและขู่ยงกุกไม่ยอมหยุด
ส่วนยงกุกที่สำนึกผิดก็ต้องคอยเช็ดน้ำตาให้ตลอดเวลาที่เจโล่ทำแผลให้เขา
“งั้นลงโทษพี่ก็ได้นะ”
จู่ๆ เจโล่ก็มองคนปากดีที่ดูไม่คอยจะสำนึกเท่าไหร่
“ถ้าผมลงโทษพี่จะยอมแต่โดยดีว่างั้น?”
สภาพของยงกุกในตอนนี้ก็ไม่ได้เรียบร้อยนักหรอก
เพราะหลังจากอาบน้ำเสร็จก็ดันชกกระจกจนตัวเองเจ็บ
เสื้อผ้าก็ยังไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำนุ่งแค่ผ้าเช็ดตัว
นั่นยิ่งทำให้เจโล่นึกสนุกอยากลงโทษยงกุกให้หนำใจ
“เจโล่ทำแพ้เก่งเหมือนกันนะเนี่ย!” ไม่ต้องมาปากหวานใส่ผมเลยนะ
“งั้นผมจะลงโทษพี่ยงกุกแล้วนะฮ่ะ”
ว่าแล้วเจโล่ผู้น่ารักของยงกุกก็แปลงร่างเข้าสู่โหมดนางมารร้าย
ก่อนจะลุกไปหยิบอะไรมาจากในห้องของยงกุก
“หลับตาสิฮ่ะ!”
เจโล่บอกยงกุกพร้อมกับเอาผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่สีเข้ามาปิดตายงกุกไว้จนมิดชิด
“เจโล่จะทำอะไรพี่เนี่ย?”
ด้วยสภาพของตัวเองในตอนนี้ ยงกุกไม่รู้ว่าเจโล่จะแกล้งอะไรเขาจริงๆ
แถมจะสู้ก็ไม่ได้ซะด้วย
“ก็ปิดตาพี่ยงกุกไงฮ่ะ
พี่ยงกุกจะได้มองผมไม่เห็นไง” แล้วพี่ไม่เห็นเจโล่มันดีตรงไหนเนี่ย
ว่าแล้วเจโล่ก็จูงมือยงกุกไปที่เตียงก่อนจะผลักให้ยงกุกนอนราบลงไป
“เจโล่อ่า
ทำแบบนี้ไม่ดีนะ!”
ถ้าเขาเคลิ้มล่ะก็เป็นเรื่องแน่ๆ
“แล้วก็ห้ามพี่พูดด้วย
ถ้าผมไม่ถามพี่ก็ห้ามตอบหรือพูดอะไรทั้งนั้น”
เจโล่ที่อย่างจะแกล้งยงกุกก็เล่นเอายงกุกคิดไปไกล
ตอนนี้เจโล่กำลังใช้นิ้วมือของตัวเองสัมผัสลูบไล้อย่างเบามือที่ผิวของยงกุก
เริ่มตั้งแต่หน้าผาก สันจมูกแล้วริมฝีปากก่อนจะก้มหน้าลงไปจูบอีกคนที่กำลังโดนปิดตาอยู่ซึ่งก็ไม่ได้ขัดขืนเลยสักนิด
จากนั้นก็ไล่ริมฝีปากของตัวเองที่คอสวยของยงกุก
ก่อนจะกัดเข้าให้จนยงกุกต้องร้องครางออกมา
“อ้า.. เจโล่อ่า!!” เจโล่ที่เห็นยงกุกไปเป็นตามแผนของตัวเองก็รีบกระซิบบอกที่ข้างหูยงกุก
“ห้ามลืมตาเด็ดขาดเลยนะ
ผมขอถอดเสื้อผ้าก่อนแป๊ปนึง” ยงกุกที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งพูดอะไรไม่ออก
เพราะตื่นเต้นไปหมดไม่คิดว่าเจโล่จะลงโทษเขาแบบนี้
“ถ้าลืมตาขึ้นมาผมโกรธจริงๆ
นะ!”
เจโล่ที่เห็นว่ายงกุกตายใจก็รีบเปิดประตูห้องอย่างเบามือก่อนจะรีบวิ่งออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว
จนพ้นประตูรั้วถึงตะโกนเสียงดังออกมาเพื่อให้คนที่กำลังเคลิ้มได้ยิน
“ฝันไปเถอะฮ่ะว่าผมจะยอมพี่นะ
พี่ยงกุกบ้า!!!”
ยงกุกที่ได้ยินเสียงของเจโล่ตะโกนก็รีบดึงผ้าปิดตาออกก่อนจะล้มตัวลงนอนอีกรอบ
“มาทำให้อยากแล้วจากไปแบบนี้เนี่ยนะ
ลงโทษพี่แรงไปหน่อยไหมเจโล่??”
ทั้งที่ควรจะหงุดหงิดที่อีกคนแกล้งยั่วเขาแบบนั้น
แต่ก็คงโทษใครไม่ได้ก็ดันไปบอกเจโล่เองว่าให้ลงโทษเขานิ ว่าแต่วิธีแบบนี้เจโล่คิดได้ยังไงล่ะเนี่ย
แล้วหลังจากครั้งนั้นเจ้าตัวยุ่งก็ไม่เคยยอมอยู่สองต่อสองกับยงกุกอีกเลย
จนกระทั่งใกล้ถึงวันสำคัญของเขา วันครบรอบของเขากับยงกุก
ตั้งแต่วันนั้นที่เจอกับเจโล่อีกครั้งก็ผ่านมาได้สี่เดือนแล้ว
แต่ละวันของแต่ละคู่ก็ไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลงสักเท่าไหร่
เพราะถ้ไม่นับตอนที่มีเรื่องให้ทะเลาะผิดใจกันก็มีแต่หวานกับหวานเลี่ยนและหวานเกินเหตุเท่านั้น
และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ทุกคนรวมตัวกันที่ร้านของฮิมชาน
ซึ่งในตอนนี้ได้ชื่อร้านเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยฝีมือการเลือกชื่อร้านของยองแจนั่นเอง
ณ ร้าน Love is?
“พี่ยงกุกรู้ไหมฮ่ะว่าพรุ่งนี้วันอะไร?”
เจโล่ที่อุตส่านับวันรอมานานก็ต้องผิดหวังในคำตอบของอีกคน
“วันเสาร์ไงเจโล่”
พอได้ยินคำตอบแค่นั้นแหล่ะ เจโล่ก็ลุกพรวดออกจากร้านไปเลย
ก่อนที่ยงกุกจะวิ่งตามออกไปที่หลังด้วยสีหน้างงๆ
“เจโล่อ่า!” ฉันไม่ได้ลืมวันเกิดของเจโล่สักหน่อย ยังไม่ถึงนี่หน่า
“ฮึ!!” เจโล่ที่เห็นยงกุกทำหน้างงก็ยิ่งหงุดหงิดขึ้นเป็นเท่าตัว
“ผมไม่อยากจะคุยกับพี่แล้ว
ผมจะกลับบ้าน!!!” ยงกุกที่ยังไม่เข้าใจอะไรสักนิดวิ่งตามเจโล่ไปแบบช่วยไม่ได้
“เดี๋ยวก่อนสิเจโล่! นี่พี่ทำอะไรให้เจโล่โกรธหรอ?”
ยงกุกทำได้แค่ตะโกนถามเพราะตอนนี้เจโล่ไม่ยอมให้เขาเดินข้างๆ เหมือนทุกครั้ง
ส่วนคนสี่คนที่อยู่ในร้านได้แต่มองหน้ากันไปมาเพราะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
ยกเว้นก็แค่ยองแจที่หยิบเอาปฏิทินในร้านขึ้นมานับ
“ฉันว่ามันน่าจะใช่นะ
ขอนับดูก่อน!”
สามคนที่เหลือที่ยังตามไม่ทันได้แต่มองยองแจด้วยความสงสัย
“97
98 99 100 ก็ไม่ใช่ครบรอบร้อยวันสักหน่อย? นับต่ออีกนิดแล้วกันนะ”
ทุกคนที่พากันลุ้นตามก็พะงกหัวหงึกๆ
ตามอย่างเห็นด้วย
”
119 120 121 122 วันนี้ 122 งั้นพรุ่งนี้ก็ 123 วันที่สองคนนั้นเจอกันอีกครั้งสิ”
“ว้าว 123 มันเหมือนเวลาที่เราจะเริ่มทำอะไรสักอย่างแล้วก็นับ หนึ่ง สอง ซั่ม!!”
“งั้นก็เพราะเรื่องนี้แน่ๆ
เลย!!” ทุกคนต่างตัดสินใจว่าจะช่วยยงกุก
เพราะยงกุกคงไม่บ้าพอจะมานั่งนับวันให้ได้ 123 วัน
แบบที่พวกเขาทำแน่ๆ
“งั้นพรุ่งนี้เราก็จัดงานฉลองที่ร้านนี้เลยแล้วกันนะ
ยังไงซะพวกเราก็ได้รู้จักกันที่นี่ งั้นก็ครบรอบของพวกเราเหมือนกันนิ”
แต่มีสายตาหนึ่งกำลังมองฮิมชานอย่างเอาเรื่อง
“ยกเว้นพี่กับยองแจที่รู้จักกันมานานแล้ว
จริงไหมจ๊ะที่รัก?” ยองแจที่เขินเล็กน้อยกับการกระทำบ้าบอของฮิมชานก็ต้องยกโทษให้เป็นธรรมดา
“งั้นพี่รีบโทรบอกยงกุกดีกว่านะ
มันจะได้รู้ว่าควรจะทำตัวยังไง?”
ไม่นานหลังจากฮิมชานโทรมาบอก
ยงกุกก็เนียนไม่รู้เรื่องต่อไป แถมพอเจโล่กลับถึงบ้านก็ไล่ยงกุกกลับทันที
ซึ่งยงกุกก็ยอมทำตามแต่โดยดี เพราะวันนี้เขามีเรื่องที่ต้องรีบไปทำ
ทิ้งให้เจโล่งอนหนักกว่าเดิมเพราะยงกุกไม่ง้อเขาต่อ
“ขอดูแหวนหน่อยครับ
แหวนคู่รักนะครับ” ยงกุกรีบมาที่ร้านจิวเวอร์รี่ที่มีแหวนสวยๆ อยู่เต็มไปหมด
“ต้องการแหวนแบบไหนค่ะ?”
พนักงานในร้านถามยงกุกเพื่อช่วยเขาตัดสินใจ
“เอาแบบเรียบๆ
นะครับ หรือมีสัญลักษณ์อะไรแบบนั้น” ยงกุกตอบสิ่งที่ในใจเขาคิดอยู่
ยงกุกจำขนาดนิ้วมือของเจโล่ได้
เพราะเจโล่เคยหยิบแหวนของเขามาเล่นอยู่บ่อยๆ นิ้วนางของเจโล่เท่ากับนิ้วก้อยของเขา
“ช่วยแกะสลักชื่อให้ได้รึเปล่าครับ?”
เขาอยากให้มันเป็นแหวนของเขากับเจโล่
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น