uncopy

วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

1st 23 พรุ่งนี้วันอะไร

ณ บ้านสกุลชเว

“นี่พ่อลูกเราไปตั้งแต่เมื่อคืนยังไม่กลับมาเลยนะ” คุณนายที่เป็นห่วงลูกชายสุดที่รักกำลังบ่นอย่างช่วยไม่ได้
“ฮิมชานก็โทรมาบอกแล้วไงว่าดีกันแล้ว แล้วก็กำลังปรับความเข้าใจกันอยู่ แม่ก็ห่วงมากจนเกินเหตุไปแล้วนะ” คุณชเวที่โล่งอกเพราะอย่างน้อยลูกชายเขาคงหยุดร้องไห้ไปแล้ว

“แต่ไปค้างด้วยกันแบบนั้น แล้วยิ่งเพิ่งจะทะเลาะกันด้วย ยงกุกจะไม่ทำอะไรเจโล่ใช่ไหมพ่อ?” ดูเมียผมทำหน้าสิครับ กลัวลูกจะเสียสาวว่างั้นเถอะ
“ก็ถ้ายงกุกจะทำคงทำไปนานแล้วล่ะแม่ คงไม่ปล่อยมานานขนาดนี้หรอกนะ” ก็จริงไหมล่ะครับ ถ้าจะทำก็คงทำไปนานแล้วไม่มารอนานขนาดนี้หรอก
“แต่ว่า..” เมียผมยังจะไม่หยุดอีกนิ
“พ่อเองก็ยังไม่ใช่คนเริ่มก่อนเลยนะพ่อจำได้ พ่อว่ายงกุกก้คงเหมือนพ่อนั่นแหล่ะน่า” จริงๆ แล้วครั้งแรกของผมกับแม่เจโล่นั้น เมียรักของผมเป็นคนเริ่มอ่านะ
“พ่อนี่ก็ แม่ไม่พูดด้วยแล้ว!!” งอลใส่แบบนี้พ่อจัดอาหารเช้าให้ดีไหมแม่?
ว่าแล้วคุณชเวก็อุ้มคุณนายขึ้นบ้านไป ทั้งที่เพิ่งจะตื่นกันได้ไม่นานแท้ๆ

ส่วนอีกคู่ที่ตอนนี้กำลังมองตากันอย่างหวานชื่นทั้งที่เพิ่งจะตื่น ถามสภาพแต่ละคนก็แทบจะดูไม่ค่อยได้ คนหนึ่งมีรอยช้ำบนบนหน้าอันเป็นผลมาจากการโดนต่อยอย่างแรงหลายครั้ง ส่วนอีกคนก็ตาบวมปูดเพราะร้องไห้มากเกินเหตุ พอมองหน้าอีกคนก็ทำให้มีความสุขแบบแปลกๆ
“ทำไมถึงปล่อยให้ถูกชกได้ล่ะครับพี่ยงกุก?” ผมควรจะสงสารพี่ไหมเนี่ย
“แล้วทำไมเจโล่ถึงตาบวมเป็นลูกมะนาวแบบนี้ล่ะฮือ?” ไม่ต้องมาแซวผมเลย ก็แล้วใครทำกันล่ะที่ตาผมมันปูดแบบเนี่ย
“ผมไปอาบน้ำดีกว่า ไม่อยากอยู่ใกล้พี่ยงกุกแล้ว เบื่อขี้หน้าคนใจร้าย!” เจโล่ที่สะบัดบ๊อบใส่ยงกุกก่อนจะลุกไปอาบน้ำต้องล้มตัวลงที่นอนอีกรอบเพราะโดนยงกุกดึงเอาไว้ ก่อนจะโดนกอดเอาไว้แน่น
“ถ้าเจโล่ไปอาบน้ำ ตัวเจโล่คงหอมมากแน่ๆ เลยล่ะ” แต่คำพูดของยงกุกเล่นเอาเจโล่เสียววูบ
“งั้นผมไม่อาบแล้ว!” เจโล่ที่เขินอย่างบอกไม่ถูกกำลังมุดหน้าลงใต้ผ้าห่ม ก่อนจะโดนยงกุกดึงผ้าห่มออก แถมตอนนี้ยังโดนยงกุกคร่อมเอาไว้ด้วย
“ไม่อาบก็หอมอยู่ดี!” หน้าหล่อที่มีรอยช้ำตอนนี้กำลังส่งสายตาเจ้าเล่ห์ใส่อีกคนที่ถูกคร่อมเอาไว้
“ไหนบอกว่าจะไม่ทำอะไรผมไง?” ตอนนี้เจโล่ที่เขินจนทำตัวไม่ถูกก็ต้องส่งเสียงประท้วงดังลั่น ก่อนจะเอาแต่หันซ้ายหันขวาแล้วก็เบะปากใส่ยงกุกเป็นไม้ตายอันสุดท้าย
“พี่แค่อยากเห็นหน้าเจโล่ชัดๆ ไม่ได้จะทำอะไรสักหน่อย” พูดจบยงกุกก็ลุกขึ้นจากเตียง ก่อนจะถอดเสื้อตัวบนออกเผยให้เห็นกล้ามเนื้อสวยได้รูป จากนั้นก็หยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไป แต่ก็ไม่วายจะทิ้งคำยั่วกวนโมโหให้คนที่นอนตาไม่กระพริบอยู่บนเตียง
“ถ้ายังทำหน้าแบบนั้น พี่จะถือว่าเจโล่สมยอมนะ!!” คำที่ยงกุกพูดเล่นเอาเจโล่ต้องทะลึ่งตัวลุกพรวดขึ้นจากเตียงแล้ววิ่งออกจากห้องนอนไป
“พี่ยงกุกบ้า! บ้าที่สุดเลย!!!” เจโล่ที่ตื่นเต็มตาก็ต้องรีบไปหาอะไรมมาประคบเปลือกตาของตัวเอง เพราะแค่จับก็รู้แล้วว่ามันบวมขนาดไหน

“เจ็บชะมัดเลย ไอ้แด้แกนะแกต่อยมาได้ซะเต็มแรงแถมยังจะยองแจอีกคน นี่พวกมันกะชกให้เสียโฉมรึไงว่ะ” ปากที่เคยเตือยมากพออยู่แล้ว ดูเหมือนตอนนี้จะยิ่งบวอเตือยไปกันใหญ่เพราะโดนชกเข้าให้ ยงกุกที่มองดูสภาพตัวเองก็ทำได้แค่หัวเราะ
“อย่างน้อยเจโล่กับฉันก็ยังไม่เลิกกัน เหลือแค่ต้องจัดการไอ้ฮยองซิก!” ยงกุกที่เริ่มจะโมโหฮยองซิกขึ้นมาก็เผลอชกกระจกห้องน้ำเข้าเต็มแรงจนแตก
เพล้ง!!
“พี่ยงกุกฮ่ะ เกิดอะไรขึ้น? ออกมาจากห้องน้ำเดี๋ยวนี่นะ” เจโล่ที่ได้ยินเสียงกระจกแตกก็รีบวิ่งมาดู แต่ยงกุกก็ยังไม่ยอมเปิดประตูให้เพราะดันทำกระจกปาดมือจนเลือดออก
“สงสัยต้องควบคุมตัวเองให้ได้มากกว่านี้ซะแล้วสิฉัน” ยงกุกได้แต่บ่นกับตัวเองเบาๆ เพราะกลัวอีกคนจะได้ยิน
“เปิดประตูนะฮ่ะ ผมบอกให้..” ก่อนจะโดนเจโล่โกรธจนร้องไห้ยงกุกก็ต้องรีบลากตัวเองออกมาพร้อมกับมือที่มีเลือดออก
“ทำอะไรของพี่ฮ่ะเนี่ย? ทำไมถึงมีเลือดออกแบบนี้ล่ะ” ตาที่เพิ่งจะถูกประคบให้หายบวมตอนนี้กลับมาร้องไห้อีกครั้งแล้ว
“พี่มึนหัวนะ เมื่อคืนดื่มมากเกินไปหน่อยก็เลยเซเกือบจะล้มนะ ดีที่เอามือค้ำไว้ก่อนแต่ก็ดันไปโดนกระจกก็เลยโดนบาดเอานะ แฮ่ๆ” ยงกุกยิ้มแบบหน้าเสีย เพราะคำแก้ตัวที่ฟังไม่ค่อยจะขึ้นของเขา
“ล้มแบบไหนถึงมีแผลตรงนี้ล่ะฮ่ะ ถ้าพี่ยงกุกทำแบบนี้อีกผมจะโกรธพี่แล้วจริงๆ นะ!!” ดูก็รู้ว่าอีกคนชกกระจก เจโล่จึงเอาแต่บ่นและขู่ยงกุกไม่ยอมหยุด ส่วนยงกุกที่สำนึกผิดก็ต้องคอยเช็ดน้ำตาให้ตลอดเวลาที่เจโล่ทำแผลให้เขา
“งั้นลงโทษพี่ก็ได้นะ” จู่ๆ เจโล่ก็มองคนปากดีที่ดูไม่คอยจะสำนึกเท่าไหร่
“ถ้าผมลงโทษพี่จะยอมแต่โดยดีว่างั้น?” สภาพของยงกุกในตอนนี้ก็ไม่ได้เรียบร้อยนักหรอก เพราะหลังจากอาบน้ำเสร็จก็ดันชกกระจกจนตัวเองเจ็บ เสื้อผ้าก็ยังไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำนุ่งแค่ผ้าเช็ดตัว นั่นยิ่งทำให้เจโล่นึกสนุกอยากลงโทษยงกุกให้หนำใจ
“เจโล่ทำแพ้เก่งเหมือนกันนะเนี่ย!” ไม่ต้องมาปากหวานใส่ผมเลยนะ
“งั้นผมจะลงโทษพี่ยงกุกแล้วนะฮ่ะ” ว่าแล้วเจโล่ผู้น่ารักของยงกุกก็แปลงร่างเข้าสู่โหมดนางมารร้าย ก่อนจะลุกไปหยิบอะไรมาจากในห้องของยงกุก
“หลับตาสิฮ่ะ!” เจโล่บอกยงกุกพร้อมกับเอาผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่สีเข้ามาปิดตายงกุกไว้จนมิดชิด
“เจโล่จะทำอะไรพี่เนี่ย?” ด้วยสภาพของตัวเองในตอนนี้ ยงกุกไม่รู้ว่าเจโล่จะแกล้งอะไรเขาจริงๆ แถมจะสู้ก็ไม่ได้ซะด้วย
“ก็ปิดตาพี่ยงกุกไงฮ่ะ พี่ยงกุกจะได้มองผมไม่เห็นไง” แล้วพี่ไม่เห็นเจโล่มันดีตรงไหนเนี่ย
ว่าแล้วเจโล่ก็จูงมือยงกุกไปที่เตียงก่อนจะผลักให้ยงกุกนอนราบลงไป
“เจโล่อ่า ทำแบบนี้ไม่ดีนะ!” ถ้าเขาเคลิ้มล่ะก็เป็นเรื่องแน่ๆ
“แล้วก็ห้ามพี่พูดด้วย ถ้าผมไม่ถามพี่ก็ห้ามตอบหรือพูดอะไรทั้งนั้น” เจโล่ที่อย่างจะแกล้งยงกุกก็เล่นเอายงกุกคิดไปไกล
ตอนนี้เจโล่กำลังใช้นิ้วมือของตัวเองสัมผัสลูบไล้อย่างเบามือที่ผิวของยงกุก เริ่มตั้งแต่หน้าผาก สันจมูกแล้วริมฝีปากก่อนจะก้มหน้าลงไปจูบอีกคนที่กำลังโดนปิดตาอยู่ซึ่งก็ไม่ได้ขัดขืนเลยสักนิด จากนั้นก็ไล่ริมฝีปากของตัวเองที่คอสวยของยงกุก ก่อนจะกัดเข้าให้จนยงกุกต้องร้องครางออกมา
“อ้า.. เจโล่อ่า!!” เจโล่ที่เห็นยงกุกไปเป็นตามแผนของตัวเองก็รีบกระซิบบอกที่ข้างหูยงกุก
“ห้ามลืมตาเด็ดขาดเลยนะ ผมขอถอดเสื้อผ้าก่อนแป๊ปนึง” ยงกุกที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งพูดอะไรไม่ออก เพราะตื่นเต้นไปหมดไม่คิดว่าเจโล่จะลงโทษเขาแบบนี้
“ถ้าลืมตาขึ้นมาผมโกรธจริงๆ นะ!” เจโล่ที่เห็นว่ายงกุกตายใจก็รีบเปิดประตูห้องอย่างเบามือก่อนจะรีบวิ่งออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว จนพ้นประตูรั้วถึงตะโกนเสียงดังออกมาเพื่อให้คนที่กำลังเคลิ้มได้ยิน
“ฝันไปเถอะฮ่ะว่าผมจะยอมพี่นะ พี่ยงกุกบ้า!!!
ยงกุกที่ได้ยินเสียงของเจโล่ตะโกนก็รีบดึงผ้าปิดตาออกก่อนจะล้มตัวลงนอนอีกรอบ
“มาทำให้อยากแล้วจากไปแบบนี้เนี่ยนะ ลงโทษพี่แรงไปหน่อยไหมเจโล่??”
ทั้งที่ควรจะหงุดหงิดที่อีกคนแกล้งยั่วเขาแบบนั้น แต่ก็คงโทษใครไม่ได้ก็ดันไปบอกเจโล่เองว่าให้ลงโทษเขานิ ว่าแต่วิธีแบบนี้เจโล่คิดได้ยังไงล่ะเนี่ย

แล้วหลังจากครั้งนั้นเจ้าตัวยุ่งก็ไม่เคยยอมอยู่สองต่อสองกับยงกุกอีกเลย จนกระทั่งใกล้ถึงวันสำคัญของเขา วันครบรอบของเขากับยงกุก
ตั้งแต่วันนั้นที่เจอกับเจโล่อีกครั้งก็ผ่านมาได้สี่เดือนแล้ว แต่ละวันของแต่ละคู่ก็ไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลงสักเท่าไหร่ เพราะถ้ไม่นับตอนที่มีเรื่องให้ทะเลาะผิดใจกันก็มีแต่หวานกับหวานเลี่ยนและหวานเกินเหตุเท่านั้น
และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ทุกคนรวมตัวกันที่ร้านของฮิมชาน ซึ่งในตอนนี้ได้ชื่อร้านเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยฝีมือการเลือกชื่อร้านของยองแจนั่นเอง
ณ ร้าน Love is?
“พี่ยงกุกรู้ไหมฮ่ะว่าพรุ่งนี้วันอะไร?” เจโล่ที่อุตส่านับวันรอมานานก็ต้องผิดหวังในคำตอบของอีกคน
“วันเสาร์ไงเจโล่” พอได้ยินคำตอบแค่นั้นแหล่ะ เจโล่ก็ลุกพรวดออกจากร้านไปเลย ก่อนที่ยงกุกจะวิ่งตามออกไปที่หลังด้วยสีหน้างงๆ
“เจโล่อ่า!” ฉันไม่ได้ลืมวันเกิดของเจโล่สักหน่อย ยังไม่ถึงนี่หน่า
“ฮึ!!” เจโล่ที่เห็นยงกุกทำหน้างงก็ยิ่งหงุดหงิดขึ้นเป็นเท่าตัว
“ผมไม่อยากจะคุยกับพี่แล้ว ผมจะกลับบ้าน!!!” ยงกุกที่ยังไม่เข้าใจอะไรสักนิดวิ่งตามเจโล่ไปแบบช่วยไม่ได้
“เดี๋ยวก่อนสิเจโล่! นี่พี่ทำอะไรให้เจโล่โกรธหรอ?” ยงกุกทำได้แค่ตะโกนถามเพราะตอนนี้เจโล่ไม่ยอมให้เขาเดินข้างๆ เหมือนทุกครั้ง
ส่วนคนสี่คนที่อยู่ในร้านได้แต่มองหน้ากันไปมาเพราะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ยกเว้นก็แค่ยองแจที่หยิบเอาปฏิทินในร้านขึ้นมานับ
“ฉันว่ามันน่าจะใช่นะ ขอนับดูก่อน!” สามคนที่เหลือที่ยังตามไม่ทันได้แต่มองยองแจด้วยความสงสัย
97 98 99 100 ก็ไม่ใช่ครบรอบร้อยวันสักหน่อย? นับต่ออีกนิดแล้วกันนะ”
ทุกคนที่พากันลุ้นตามก็พะงกหัวหงึกๆ ตามอย่างเห็นด้วย
119 120 121 122 วันนี้ 122 งั้นพรุ่งนี้ก็ 123 วันที่สองคนนั้นเจอกันอีกครั้งสิ”
“ว้าว 123 มันเหมือนเวลาที่เราจะเริ่มทำอะไรสักอย่างแล้วก็นับ หนึ่ง สอง ซั่ม!!
“งั้นก็เพราะเรื่องนี้แน่ๆ เลย!!” ทุกคนต่างตัดสินใจว่าจะช่วยยงกุก เพราะยงกุกคงไม่บ้าพอจะมานั่งนับวันให้ได้ 123 วัน แบบที่พวกเขาทำแน่ๆ
“งั้นพรุ่งนี้เราก็จัดงานฉลองที่ร้านนี้เลยแล้วกันนะ ยังไงซะพวกเราก็ได้รู้จักกันที่นี่ งั้นก็ครบรอบของพวกเราเหมือนกันนิ” แต่มีสายตาหนึ่งกำลังมองฮิมชานอย่างเอาเรื่อง
“ยกเว้นพี่กับยองแจที่รู้จักกันมานานแล้ว จริงไหมจ๊ะที่รัก?” ยองแจที่เขินเล็กน้อยกับการกระทำบ้าบอของฮิมชานก็ต้องยกโทษให้เป็นธรรมดา
“งั้นพี่รีบโทรบอกยงกุกดีกว่านะ มันจะได้รู้ว่าควรจะทำตัวยังไง?”

ไม่นานหลังจากฮิมชานโทรมาบอก ยงกุกก็เนียนไม่รู้เรื่องต่อไป แถมพอเจโล่กลับถึงบ้านก็ไล่ยงกุกกลับทันที ซึ่งยงกุกก็ยอมทำตามแต่โดยดี เพราะวันนี้เขามีเรื่องที่ต้องรีบไปทำ ทิ้งให้เจโล่งอนหนักกว่าเดิมเพราะยงกุกไม่ง้อเขาต่อ

“ขอดูแหวนหน่อยครับ แหวนคู่รักนะครับ” ยงกุกรีบมาที่ร้านจิวเวอร์รี่ที่มีแหวนสวยๆ อยู่เต็มไปหมด
“ต้องการแหวนแบบไหนค่ะ?” พนักงานในร้านถามยงกุกเพื่อช่วยเขาตัดสินใจ
“เอาแบบเรียบๆ นะครับ หรือมีสัญลักษณ์อะไรแบบนั้น” ยงกุกตอบสิ่งที่ในใจเขาคิดอยู่
ยงกุกจำขนาดนิ้วมือของเจโล่ได้ เพราะเจโล่เคยหยิบแหวนของเขามาเล่นอยู่บ่อยๆ นิ้วนางของเจโล่เท่ากับนิ้วก้อยของเขา
“ช่วยแกะสลักชื่อให้ได้รึเปล่าครับ?” เขาอยากให้มันเป็นแหวนของเขากับเจโล่


ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น