uncopy

วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

1st 21 ยังรักอยู่ไหม

หลังจากร้องไห้จนหลับไป เจโล่ก็ตื่นขึ้นมากลางดึกและพบว่าในห้องนอนของตัวเองมีคนที่นอนอยู่ข้าง หากแต่ไม่ใช่ยงกุกแต่เป็นจองอบ และยองแจที่นอนอยู่บนโซฟาอีกตัว
น้ำตาของเจโล่เริ่มไหลลงข้างแก้มอีกครั้ง เพราะคนที่เคยนอนอยู่ข้างเขาทุกคืนไม่ได้กลับมา พอคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก็ยิ่งทำให้เสียงสะอื้นที่พยายามซ่อนเอาไว้หลุดออกมา
“เจโล่!!” ร้องไห้อกแล้วหรอเนี่ย? ไม่เป็นไรนะเจโล่ ยังไงฉันกับจองอบก็อยู่กับนายนะ” ยองแจที่ได้ยินเสียงร้องไห้ของเจโล่รีบลุกมาพูดปลอบใจเพื่อน แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ผมเลยสักนัด เพราะตอนนี้อีกคนกำลังทำให้เสื้อหนาของเขาเปียกปอน ยิ่งเห็นที่เพื่อนเป็นแบบนี้ก็ยิ่งโมโหให้ยงกุกจนทนไม่ไหว
“จองอบตื่นเดี๋ยวนี้นะ!!” อย่างน้อยก็ต้องให้จองอบตื่นขึ้นมาอยู่เป็นเพื่อนเจโล่ก่อน
“อืมม.. เจโล่ร้องไห้อีกแล้วหรอ?” จองอบที่ยังงัวเงียก็ได้สติเพราะเห็นว่าเพื่อนของตัวเองเริ่มร้องไห้อีกครั้ง
“ฉันจะออกไปคุยกับพี่ยงกุกให้รู้เรื่อง” ยองแจกำลังเปลี่ยนชุดเพื่อจะไปจัดการยงกุกให้กับเพื่อนของเขา
“ฉันไปด้วยยองแจ ให้ฉันไปหาพี่ยงกุกนะ” เจโล่พยายามจะไปกับยองแจแต่ก็โดนห้ามเอาไว้
“ถ้าพี่ยงกุกรักนายจริงเขาต้องเป็นคนกลับมาหานายเอง และนั่นคือเรื่องที่ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมจนปานนี้ถึงยังไม่มาอีก เพราะงั้นถ้าพี่ยงกุกไม่มา นายห้ามไปหาเขาเด็ดขาด”
ยองแจรู้ว่าที่เขาพูดกับเจโล่มันเหมือนเป็นการย้ำให้เจโล่เสียใจ แต่เขาคิดแบบนั้นจริงๆ คนที่เดินออกไปคือพี่ยงกุก เพราะฉะนั้นคนที่เดินกลับมาต้องเป็นพี่ยงกุกเท่านั้น

“พี่ฮิมชานพี่อยู่ไหน? ถ้าไม่บอกเจอดี!!” ฮิมชานที่เพิ่งรับสายของยองแจก็ต้องคิดมากอีกรอบ ทำไมยองแจถึงโทรหาเขาทั้งที่ตอนนี้มันตีสองเข้าให้แล้ว
“อยู่บ้านไอ้ยงกุก เพิ่งจะลากมันกลับมาได้ไม่นนานเท่าไหร่” คงไม่ได้จะมาที่นี่ใช่ไหม
“ผมจะไปที่นั่นเดี๋ยวนี้แหล่ะ ห้ามพี่ยงกุกหลับเด็ดขาด” ถ้าซื้อหวยผมจะถูกแบบนี้ไหม
“มันดึกแล้วนะยองแจ! เดี๋ยวพี่ไปรับดีกว่า” ผมไม่อยากให้ยองแจไปไหนคนเดียวตอนกลางคืนแบบนี้หรอกนะ
“งั้นมารอผมที่หน้าร้านขายของนะ จะได้คนละครึ่งทางพอดี” อย่างน้อยยองแจก็รู้ว่าเขาเป็นห่วงแหล่ะนะ
ยองแจที่กำลังออกจากบ้านไปไม่ได้หันมามองเพื่อนที่พยายามตามเขาไปเลยสักนิด
“เจโล่!! แต่ยองแจบอกให้อยู่ที่นี่นะ” จองอบพยายามจะห้ามแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะตอนนี้เขาคนเดียวห้ามเจโล่ไม่ไหว
“ฉันอยากจะขอโทษ ฉันอยากเจอพี่ยงกุก จองอบพาฉันไปนะ” จองอบสงสารเจโล่ที่ร้องไห้ไม่ยอมหยุดจนสุดท้ายก็ใจอ่อน
“ถ้ายองแจรู้ว่าฉันยอมช่วยนาย ยองแจเล่นงานฉันตายเลยนะเจโล่”

ในตอนนี้ยองแจมาถึงบ้านของยงกุกแล้ว และที่เขาเห็นคือผู้ชายน่าสมเพชที่โง่พอจะทำร้ายคนที่เขารักด้วยความคิดโง่ๆ ของตัวเอง
“ลุกมาคุยกับผมเดี๋ยวนี้นะพี่ยงกุก มาคุยกันให้รู้เรื่อง ทำไมพี่ถึงทำแบบนั้นกับเพื่อนของผม” ยองกุกที่เมาไม่คิดจะสนใจยองแจที่โวยวายใส่เขาแม้แต่น้อย กลับหันไปหยิบกระป๋องเบียร์แทน
“พี่รู้ไหมว่าขนาดตอนนี้เจโล่ก็ยังร้องไห้อยู่!” สิ่งที่ยองแจพูดเหมือนจะสะกิดอารมณ์ของยงกุกไม่น้อยเลย เพราะยงกุกวางกระป๋องเบียร์ลงกับพื้นแรงมาก
“ไม่ต้องมาโกรธผมที่พูดใส่พี่แบบนี้ รู้ไหมตั้งแต่พี่ปิดประตูใส่เจโล่จนดังลั่นบ้าน เจโล่ร้องไห้ไม่ยอมหยุด พวกผมปลอบอยู่เป็นชั่วโมงก็หยุดจนสุดท้ายก็ร้องไห้จนเป็นลมหลับไปในที่สุด พอตื่นขึ้นมากลางดึกแล้วไม่เห็นพี่ก็ร้องไห้อีกรอบ นี่เพื่อนของผมจะต้องร้องไห้ขนาดไหนพี่ถึงจะรู้ตัวว่าทำให้เจโล่เสียใจ??” ยงกุกไม่อยากจะรับฟังอะไรทั้งนั้น เขาไม่เขาใจอะไรสักอย่าง ไม่เข้าใจความคิดของเจโล่ และที่มากกว่านั้นคือเขารู้สึกแย่จนไม่อยากคิดถึงเรื่องอะไรทั้งนั้น
“นายกลับไปซะยองแจ ฉันไม่อยากจะฟังอะไรที่นายกำลังพล่ามอยู่ ไม่ต้องมาเล่าอะไรให้ฉันฟังทั้งนั้น!!!” ยงกุกกำลังหันหลังจะเดินเข้าห้องนอนของเขาแต่ก็ถูกยองแจดึงตัวกลับมา
“ยองแจใจเย็นก่อน” ฮิมชานที่เห็นเหตุการณ์มาตลอดเข้าใจยองแจดีว่ารู้สึกยังไง เพราะเขาเองก็รู้สึกแย่ที่รู้ว่าเจโล่ร้องไห้มากขนาดไหน
“ผมไม่เย็น!” ยองแจหันไปตวาดใส่ฮิมชานก่อนจะกลับมาเล่นงานยงกุกอีกรอบ
“ผมรู้ว่าที่ผ่านมาพี่เป็นคนยังไง รู้ว่าพี่ไม่เคยรักใคร รู้ว่าพี่เกลียดโลกใบนี้แค่ไหน แต่ทำไมต้องเป็นเจโล่ด้วย” ยองแจที่อดกลั้นมานานก็ต้องหลั่งน้ำตาออกมาเพราะสุดจะทนกับความงี่เง่าของคนที่อยู่ตรงหน้า
“งั้นฉันควรเลิกกับเจโล่ดีไหม?”
เพราะทุกคนมั่วแต่สนใจยองแจที่กำลังอาละวาดใส่ยงกุกอยู่ จึงไม่มีใครสังเกตุเห็นว่ามีคนอีกสองคนเดินเข้ามาในบ้าน
พลุ่บ!! เด็กน้อยที่เข้ามาทันได้ยินคำทำร้ายจิตใจเข้าพอดี ทั้งที่ร้องไห้ไม่ยอมหยุด ทั้งที่วิ่งจนแทบใจจะขาดเพื่อมาหาอีกคนแต่สิ่งที่ได้ยินคือคำว่าเลิก ร่างกายที่อ่อนล้าก็สุดจะฝืนทนยืนได้
“เจโล่!!” เสียงร้องตะโกนของจองอบที่ดังขึ้นมา ทำให้ทุกคนรู้ตัวว่ามีอีกคนที่ไม่ควรอยู่ที่นี่ตอนนี้
“โกรธผมขนาดนั้นเลยรึไง? ทั้งที่ผมรักพี่มากขนาดนี้แต่ก็อยากจะเลิกกับผมหรอฮ่ะ???” ทั้งที่หมดแรงจะยืนแต่เจโล่ก็พยายามจะพยุงตัวเองลุก
“ทั้งที่ผมแคร์ความรู้สึกพี่มากขนาดนี้ก็ยังอยากจะเลิกกับผมงั้นหรอ???” เจโล่เอ่ยถามอีกคนด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ สองมือต้องกำเอาไว้แน่นเพราะกลัวจะพูดต่อไปไม่ไหว
“พี่แน่ใจจริงๆ ใช่ไหมว่าพี่รักผม?” น้ำตาที่อาบสองแก้ม ตาคู่สวยที่แดงก่ำเพราะร้องไห้ไม่หยุด น้ำเสียงที่สั่นจนพูดแทบไม่รู้เรื่องของเจโล่ เป็นการลงโทษที่เลวร้ายที่สุดสำหรับยงกุก แต่ก่อนที่จะได้ก้าวขาไปหาเจโล่ก็แทบจะทรุดลงกับพื้นซะเอง
“ผมจะไม่สนใจพี่อีกแล้วเพราะพี่ไม่แคร์ผมสักนิด!
ผมจะไม่ยิ้มให้พี่อีกเพราะพี่ทำให้ผมร้องไห้!!
และผมจะไม่รักพี่อีกเพราะดูเหมือนพี่จะไม่ได้รักผมอย่างที่ผมคิด!!!
ยงกุกที่เพิ่งจะรู้ตัวว่าทำบ้าอะไรลงไป ก็รีบวิ่งไปกอดเจโล่เอาไว้แน่น
“ปล่อยผม!” ยงกุกไม่พูดอะไรเอาแต่กอดเจโล่ไว้ไม่ยอมปล่อย แม้เจโล่จะร้องประท้วงเขาก็ไม่คิดจะปล่อย
“จะตีพี่ก็ได้ ตีพี่จนกว่าเจโล่จะหายโกรธ ตีให้ตายเลยก็ได้แต่อย่าเลิกกับพี่นะ”
คำพูดของยงกุกทำให้เจโล่เริ่มตีเขาอย่างแรงเพื่อให้ยงกุกปล่อยมือ ส่วนยงกุกก็เอาแต่กอดเจโล่ไว้และน้ำตาก็เริ่มไหลออกมาไม่ต่างจากอีกคน
“พี่ยงกุกปล่อยเจโล่เดี๋ยวนี้นะ” จองอบเริ่มประท้วงเพราะเป็นห่วงเจโล่ แต่ก็ถูกแดฮยอนแบกขึ้นบ่าเดินออกจากบ้านไป
“พี่แดฮยอนปล่อยผมนะ ผมจะไปช่วยเจโล่” สายตาของแดฮยอนว่างเปล่า เขาเบื่อกับเหตุการณ์ตรงหน้า
“จองอบ! ไอ้ดำแกจะพาเพื่อนฉันไปไหน?” ยองแจที่เริ่มด่าแดฮยอนก็ถูกฮิมชานลากออกจากบ้านตามไปอีกคน
“ถ้าแกทำให้เจโล่ยกโทษให้ไม่ได้ ฉันจะไม่ให้โอกาสแกอีกเป็นครั้งที่สอง” ฮิมชานตะโกนบอกยงกุกก่อนออกไป
 ส่วนคนที่อยู่ในอ้อมกอดเขาตอนนี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตีเขาแม้แต่นิดเดียว
“ผมบอกให้ปล่อยไงเล่า!” เจโล่เริ่มไม่มีแรงจะทุบตีคนตรงหน้าอีกแล้ว
“พี่ผิดไปแล้ว ขอโทษที่พี่ทำให้เจโล่ร้องไห้ แต่อย่าเลิกกับพี่นะ” ยงกุกปล่อยแขนของตัวเองออก แต่เจโล่ที่กำลังเสียใจก็เผลอตบหน้ายงกุกเข้าอย่างจังทันทีที่ยงกุกปล่อยมือออก
“แล้วทำไมเมื่อกี้ถึงพูดว่าจะเลิกกับผม??” เจโล่ที่ทรมานกับสิ่งที่ยงกุกเคยเอ่ยออกมาก็ร้องไห้ออกมาอีกชุดใหญ่ ก่อนที่ยงกุกจะทรุดตัวลงคุกเข่าและโอบกอดเอวของเจโล่ไว้อย่างไร้เรี่ยวแรงและร้องไห้ออกมาไม่ต่างจากอีกคน
“ไม่จริงใช่ไหมที่เจโล่บอกว่าจะไม่รักพี่แล้ว มันไม่จริงใช่ไหม??”  เจโล่ที่เห็นยงกุกเป็นแบบนั้นก็ต้องใจอ่อนเพราะยงกุกตอนนี้น่าสงสารเกินไป ทั้งที่เขาร้องไห้มากกว่าเป็นไหนๆ แต่ทำไมคนตรงหน้าถึงได้ดูเหมือนคนที่เจ็บปางตายขนาดนี้นะ จากที่เคยกอดเอาไว้แน่น ทำไมตอนนี้ดูเหมือนว่าอ้อมแขนนี้ไม่มีเรี่ยวแรงใดๆ เหลืออยู่เลย มันยิ่งทำให้เจโล่กลัวว่าคนที่โอบกอดเขาไว้ในตอนนี้จะหลุดลอยหายไปจากเขา
“ผมเคยรักคนแค่คนเดียว พี่ชายที่ผมเจอที่สวนสาธารณะ พี่ชายที่นั่งอยู่ตรงม้านั่งตัวนั้นคนที่กำลังร้องไห้อยู่คนเดียวและผมยังคงรักเขาอยู่”
เจโล่ดึงมือยงกุกให้คลายออกจากเอวของตัวเอง ก่อนจะนั่งลงตรงหน้ายงกุกและมอบจูบให้เพื่อปลอบโยนยงกุกให้หายเศร้า
“ถึงผมจะร้องไห้เพราะพี่ ถึงพี่จะโกรธผมแค่ไหนก็ตาม อย่าพูดว่าจะเลิกกับผมอีกนะฮ่ะพี่ยงกุก” ยงกุกรู้สึกผิดกับความบ้าบอของตัวเอง เขาแค่ไม่เข้าใจอะไรเท่าไหร่แต่ต่อไปนี้เขาจะเชื่อใจเจโล่ให้มากกว่านี้
“พี่ไม่ชอบที่เจโล่ปกป้องคนอื่น พี่กลัวว่าเจโล่จะรักคนอื่นมากกว่าพี่”
“ผมขอโทษฮ่ะ!!
นั่นคงเป็นถ้อยคำสุดท้ายของยงกุกกับเจโล่ที่พูดออกมา เพราะตอนนี้ร่างกายของเจโล่ทนรับความเครียดและเหนื่อยต่อไปไม่ไหวแล้ว ยงกุกที่มองเจโล่ในอ้อนแขนของตัวเองก็ได้เห็นว่าเจโล่ร้องไห้มามากขนาดไหน
ยงกุกค่อยๆ อุ้มเจโล่ขึ้นอย่างเบามือที่สุด ก่อนจะวางลงบนที่นอนอุ่นๆ ของเขาจากนั้นยงกุกจึงล้มตัวลงนอนข้างเจโล่โดยกอดเจโล่เอาไว้ไม่ยอมปล่อยจนถึงเช้า


ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น