uncopy

วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

1st 16 ห้ามใจ

            เฮ้อชีวิตผม! ต้องมานอนติดแหง็กในโรงพยาบาลทั้งที่ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากมายสักหน่อย ก็แค่โดนยิงถากๆ อ่ะ ไปเฝ้าเจโล่ก็ไม่ได้ด้วย เมื่อไหร่ที่รักของผมจะเลิกเรียนสักทีนะ แต่ตอนนี้ยาที่กินเข้าไปหลังอาหารเมื่อตอนเที่ยงมันจะมาออกฤทธิ์อะไรตอนนี้ เจโล่ใกล้เลิกเรียนแล้วแท้ๆ แต่ผมคงต่อสู้กับฤทธิ์ของยาไม่ไหวแล้วล่ะ ขอสักงีบแล้วกันนะ

“พี่แดฮยอนหวัดดีฮ่ะ” ผมรีบเหาะมาจากโรงเรียนเลยแหล่ะเพราะกลัวว่าพี่ยงกุกจะเหงา แต่ที่ไหนได้พอมาถึงพี่ยงกุกดันหลับปุ๋ยซะงั้น น่าน้อยใจชะมัด!
“มันรอเจโล่จนหลับไปนะ!” รอผมหรอ?
“ก็เล่นไม่ยอมนอนทั้งวัน ขนาดหมอจับฉีดยานะเนี่ย เอาแต่บ่นคิดถึงเจโล่ทั้งวันจนพี่จะบ้าตาย” เป็นไงว่ะยงกุก เพื่อนแด้คนนี้คนดีที่สุดเลยใช่ไหมมึง?
“จริงหรอฮ่ะ?” แหมๆ ต้องชงให้เพื่อนเยอะๆหน่อยงานนี้
“ก็จริงดิ พี่จะโกหกเจโล่ไปทำไมกัน ว่าแต่.. จองอบของพี่อยู่ไหนอ่ะ??” นั่นสิครับพี่น้อง แฟนผมอยู่ไหนอ่ะคร๊าบ
“อ้อ จองอบเดินไปซื้อคิมบับอยู่นะฮ่ะ เห็นบอกว่าพี่แดฮยอนคงหิวก็เลยไปซื้อมาให้” แฟนผมน่ารักอะไรอย่างนี้เนี่ย สงสัยคืนนี้ผมคงต้องยึดตัวไว้ไม่ให้กลับบ้านซะแล้ว แต่คงต้องไปหาอะไรมาบำรุงซะก่อนนะน่ะ ไม่งั้นพรุ่งนี้ได้เดินขาลากแน่ๆ
“งั้นเจโล่อยู่ในนี้ก่อนนะ เดี๋ยวพี่ไปหาจองอบก่อน” กระผมจะไปหาที่รักแล้วล่ะ ส่วนไอ้เพื่อนเหงือกบานของผมก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจโล่แล้วกันนะคร๊าบ

“อ้าวเจโล่มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่หรอ?” หลังจากผมปลอบยองแจเสร็จก็เดินกลับมาที่ห้องเพราะสงสารไอ้แด้มันเฝ้าอยู่คนเดียวทั้งวันเลย แต่พอเดินเข้ามาในห้องก็เห็นเจโล่ทำตาแป๋วแว๋ว นั่งมองยงกุกที่นอนหลับแถมนิ้วก็จิ้มที่ปากเตื่อยเล่นสนุกใหญ่ เห็นแบบนั้นก็อดยิ้มไม่ได้แต่จะไม่ทักก็ยังไงอยู่อ่านะ ก็เลยต้องขอขัดจังหวะเจโล่นิดนึง
“เพิ่งมาถึงไม่นานนี่เองฮ่ะ” ยิ้มสดใสของเจโล่หายไปทันทีที่ยองแจเดินเข้ามาในห้อง ก่อนจะรีบลุกมาหาเพื่อนตัวดีที่หายไปทั้งวัน แถบโทรหาก็ไม่ยอมรับสายอีกต่างหาก แต่ยังไม่ได้เอ่ยปากต่อว่าก็ต้องเปลี่ยนไปเป็นโหมดห่วงใยแทน เพราะตาสวยของยองแจตอนนี้กำลังบวมเพราะร้องไห้มา
“ยองแจเป็นอะไรไปอ่ะ ทำไมร้องไห้จนตาบวมแบบนี้ได้นี่? พี่ฮิมชานทำเพื่อนของผมร้องไห้ใช่ไหมฮ่ะ??” ผมว่ายงกุกคงถ่ายถอดเอานิสัยขี้โมโหมาให้เจโล่แน่นอน เพราะตอนนี้ผมกำลังโดนตากลมแสนแบ๊วจ้องเขม็งอย่างเอาเรื่องอยู่
“พี่ฮิมชานเขาทำให้ฉันร้องไห้นะเจโล่ แต่ตอนนี้เข้าใจกันแล้วไม่ต้องห่วงนะ” ตาบวมๆ ของยองแจกำลังส่งยิ้มให้เจโล่
“ถ้าพี่ฮิมชานทำเพื่อนผมร้องไห้อีกล่ะก็ ผมจะให้พี่ยงกุกเล่นงานพี่คอยดูสิ” นั่นไงครับพี่น้อง เจโล่แสนอ่อนโอนของผมถูกความโหดร้ายของไอ้บ้ายงกุกเข้าสิงแล้วไหมเล่า?
“แล้วทำไมวันนี้ไม่มาเรียนล่ะ?” ผมปลอดภัยแล้วคร๊าบ เพราะเจโล่หันไปหายองแจแทนแล้ว
“คือว่า...” ยองแจตอนนี้กำลังเขินหน้าแดง ส่วนผมเองก็อายจะตอบเหมือนกันนะครับ
“พี่ฮิมชานทำอะไรเพื่อนผมรึเปล่าฮ่ะ เมื่อคืนนะ?” นั่นไง กลับมาที่ผมอีกแล้ว
“พี่ก็ไปส่งยองแจที่บ้านไง” อืม ตอบแบบนี้แล้วกันตู
“แค่ไปส่งหรอฮ่ะ ไม่ได้ทำอะไรเลยใช่ไหมฮ่ะ?” เอาแล้วไงงานเข้าฮิมชานแล้วสิครับ
“พี่ก็แค่...” เอ้ย! ไอ้ยงกุกมึงตื่นมาช่วยเพื่อนมึงทีสิครับ
“อืมม... เจโล่มาแล้วหรอ?” เสียงเอะอ่ะอะไรกันว่ะคนจะนอน ถ้าไม่ติดว่ามีเจโล่ร่วมวงแม่งจะลุกไปฆ่าให้หมดเลย
“พี่ยงกุกตื่นแล้วหรอฮ่ะ? ผมเสียงดังกวนพี่ใช่ไหม??” ใจจริงอยากจะบอกว่าตื่นตั้งแต่ที่ปากเตื่อยๆ โดนจิ้มเล่นแล้วล่ะ แต่กำลังเคลิ้มเลยแกล้งหลับต่อ
“เสียงดังมากเลยแหล่ะ!” เจ้าตัวยุ่งของผมทำหน้าสำนึกผิดได้น่ารักมากเลย
“คิดถึงเจโล่จังเลย ขอพี่กอดหน่อยสิ” เจโล่ยังไม่ทันจะว่าไงก็โดนดึงเข้าไปกอดเรียบร้อย ส่วนฮิมชานกับยองแจก็ทำได้แค่มองหน้ากันเลิ่กลั่ก
“เฮ้ย! กูกับยองแจไม่ใช่อากาศนะโว๊ย!!” มึงจะมาบ่นไรไอ้เหยิน? มึงได้ทำมากกว่ากูตั้งเยอะ กูต่างหากที่ควรจะบ่น
“หิวไหมครับพี่ยงกุก? เดี๋ยวผมปอกผลไม้ให้เอาไหม” ผลไม้หรอ? กำลังอยากกินพอดีเลย
“อยากกินเชอร์รี่นะ” ฮือ?
“แต่ผมไม่ได้ซื้อมานะฮ่ะ” แต่คนที่กำลังหิวไม่ได้สนหน้าอินทร์หน้าพรหม ยงกุกจัดการจูบเจโล่ต่อหน้าคนที่เหลือเป็นที่เรียบร้อย ส่วนเจโล่เองก็จนปัญญาจะต้านแรงของยงกุกที่กอดเขาไว้แน่นจะกระดุกกระดิกไม่ได้ ส่วนยงกุกที่ได้ริมรสหวานของเชอร์รี่ลูกโปรดก็ค่อยๆ ถอนริมฝีปากอวบของตัวเองออก เจโล่ที่กำลังอายก็ได้โอกาสต่อว่ายงกุก
“ทำไมทำแบบนี้ฮ่ะ ผมอายนะ!!” สายตาของยงกุกไม่ได้รู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย แต่ฉายแววเจ้าเล่ห์มากกว่า
“จะอายทำไมพี่แค่จูบเจโล่เองนะ สองคนนั้นนะได้เสียกันแล้วด้วยซ้ำยังไม่เห็นจะอายเลย!!!” มันเอาระเบิดปาใส่หลังคาบ้านผมเลยครับครั้งนี้ ไอ้เพื่อนเลวยงกุกมึงจะเล่าให้เจโล่ฟังเพื่อ?
“ถ้างั้นที่ยองแจไม่มาโรงเรียนก็..” เจโล่ที่กำลังช็อคเอาแต่ชี้ไปที่สองคนนั้นไปมา เห็นแบบนี้ผมล่ะสะใจจริงๆ อยากเข้ามาขัดจังหวะตอนเจโล่ทำเขาเคลิ้มเองช่วยไม่ได้
“ผมกลับแล้วฮ่ะพี่ยงกุก เจโล่ฉันไปนะ บาย!” ยองแจกลับผมจะอยู่ทำไม? กลับด้วยสิครับ สองคนนี้น่ากลัวเกินไปแล้วนะ ผมกับยองแจรับมือสองคนนี้ไม่ไหวหรอกขอถอยไปตั้งหลักก่อนแล้วกัน
หลังจากสองคนนั้นออกไปเจโล่ก็ต้องหันมาถามยงกุกแทน
“พี่ยงกุกรู้ได้ยังไงฮ่ะ?” ผมสงสัยจริงๆ นะ
“ถ้าไอ้ฮิมมันค้างที่บ้านยองแจก็แสดงว่าใช่แล้วล่ะ” แค่นอนค้างที่บ้านเองนะฮ่ะ?
“ผมก็เคยนอนค้างที่บ้านพี่นี่ฮ่ะ” ผมก็ไม่ได้มีอะไรกับพี่สักหน่อยนะ
“พี่กับไอ้ฮิมไม่เหมือนกันนะ!” ไม่เหมือนยังไง? ก็เพื่อนกันนิ
“ถ้าไอ้ฮิมเข้าห้องได้เมื่อไหร่ จบข่าว!” ตกลงว่าเจโล่จะให้ผมอธิบายละเอียดขนาดไหนเนี่ย
“แต่...” ผมขี้เกียจตอบคำถาม เลยหยุดเจโล่ด้วยการจูบอีกรอบ
“อื้มมม” เป็นเชอร์รี่ที่อร่อยที่สุดโลกเลย ผมชอบเสียงครางเบาๆ นี้จัง ชักอยากจะได้ยินมากกว่านี้ซะแล้วสิ
“พี่ยงกุกหยุดนะฮ่ะ อือออ...” ตอนนี้ผมไม่อยากหยุดนี่หน่า
จากที่เคยจูบแบบอ่อนหวานละมุนละไมก็เปลี่ยนจูบเร้าร้อนเข้ามาแทนที่ ริมฝีปากหนากำลังกลืนกินลูกเชอร์รี่อยู่อย่างหิวโหย ลิ้นร้อนกำลังมอบสัมผัสวาบวามให้อีกคนไม่ยอมหยุด ก่อนจะเลื่อนนิ้วเรียวยาวของตัวเองลอดใต้เสื้อของอีกคนเพื่อสัมผัสกับผิวนุ่ม แต่ก็ต้องหยุดเพราะมือของอีกคนจับมือของเอาไว้บอกสัญญาณกำลังทำเกินเลยและเจ้าตัวไม่ต้องการ ยงกุกผู้น่าสงสารจึงต้องหยุดตัวเองลงอีกครั้ง
“ขอโทษฮ่ะ!” เจโล่เบือนหน้าหนียงกุกไปอีกทาง เพราะเขายังไม่อยากจะมองยงกุกในตอนนี้ การมองหน้าของอีกคนอาจทำให้เขาหยุดตัวเองไม่ได้เช่นกัน เขาอยากจะให้มันเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่พิเศษจริงๆ เขาอยากให้มันเป็นความทรงจำที่ดีที่สุดของทั้งสองคนและยังไม่ใช่ตอนนี้
“พี่ขอโทษที่...” ทั้งที่ผมสัญญากับเจโล่ไว้แล้ว แต่ก็ดันเคลิ้มเกินเหตุจนลืมตัว

ก๊อกๆๆ!!!
“ตื่นแล้วหรอยงกุก?” อืมม กระผมควรจะถามมันไหมว่าเกิดอะไรขึ้น
“มาแล้วหรอฮ่ะพี่แดฮยอน?” เจโล่ก็ดูแปลกๆ นะผมว่า
“นี่ฉันไม่ได้เข้ามาขัดจังหวะใช่ไหม?” ถึงสองคนนั้นไม่ตอบแต่แดฮยอนสุดหล่อรู้ทันนะคร๊าบ
“เปล่าฮ่ะ!” ใช่เลยถ้าตอบแบบนี้ กระผมไม่ได้ตั้งใจนะ
“แกเข้ามานะดีแล้ว!” ฮือ? กูมาขัดจังหวะมึงนี่ดีหรอครับคุณเพื่อน
“แล้วจองอบล่ะครับพี่แดฮยอน?” เขินเขาอ่ะดิ! ไม่ต้องมาถามหาคนอื่นเลยเน้อ
“อยู่ไหนอ่ะ?” ก็เดินมากับกระผมนี่ฮ่ะ? แฟนผมหายไปไหนครับพี่น้อง!!!
“เอาเข้าไปมึงไอ้แด้ มาด้วยกันแต่เสือกไม่รู้ว่าอยู่ไหนซะงั้น” แฟนของแด้อยู่หน่าย?
“รอนานไหมครับพี่แดฮยอน?” ตาตี่ๆ นี่แฟนผมนิ
จองอบงงตาแตกอยู่ดีไม่ว่าดี อีพี่แดฮยอนก็เข้ามากอดซะอย่างนั้น
“กอดผมทำไมฮ่ะ” พี่แดฮยอนจะกอดผมทำไมฮ่ะ เดี๋ยวคืนนี้ผมก็กินพี่ทั้งตัวเลยนิ
“เมื่อกี้จองอบหายไปไหนมาครับ?” อย่าทำหน้าแบบนั้นสิครับพี่แดฮยอนของผม เห็นแบบนั้นแล้วมันน่าฟัดนะครับ งั้นคืนนี้ผมจัดเมนคอร์สให้เลยแล้วกันนะ
“ผมได้ยินคุณพยาบาลคุยกันพอดีฮ่ะ ก็เลยหยุดฟังนิดหน่อย” จองอบของผมยิ้มน่ารักได้อีกเน้อ แต่ว่ารอยยิ้มแบบนี้ผมกลัวนะ สงสัยว่าคืนนี้ผมคงไม่ได้นอนแล้วล่ะ
“เห็นบอกว่าคนที่ชื่อ ฮยองซิก ฟื้นแล้วนะฮ่ะ”
“ฟื้นแล้วหรอ?” ปลอดภัยแล้วสินะไอ้ฮยองซิกลูกน้องคนสนิทของผม
“เจโล่ไปกับพี่นะ จะได้รู้จักกันไว้ด้วย” คงไม่ได้โกรธที่ผมทำอะไรเกินเลยมากไปหน่อยใช่ไหม
“ฮ่ะ!” ยิ้มแล้ว เจโล่ของผมยิ้มแล้ว!!!

ว่าแล้วคนป่วยที่แข็งแรงเป็นม้าก็เดินนำคนไม่ป่วยไปที่ห้องของคนเพิ่งฟื้น
“ว่าไงฮยองซิก เป็นยังไงบ้างแก?” คนที่พี่ยงกุกทักดูจะอายุมากกว่าผมนิดหน่อย ผิวขาว และดูจากที่ขาเลยปลายเตียงแบบนั้นน่าจะสูงกว่าพี่ยงกุกนะฮ่ะ ส่วนหน้าตาก็ถือว่าหล่อนะ แต่พี่ยงกุกของผมหล่อกว่าเป็นไหนๆ แถมยังเท่ห์ที่สุดเลยด้วยนี่ไม่ได้เข้าข้างเลยนะฮ่ะ
“พี่ยงกุกปลอดภัยดีใช่ไหมครับ?” ดูเหมือนจะห่วงพี่ยงกุกของผมมากเลยนะเนี่ย
“ไม่ต้องมาห่วงฉันหรอก ดูสภาพตัวเองก่อนเถอะแกนะ!” ก็จริงที่พี่ยงกุกพูดนะฮ่ะ
“แล้วนั่นใครหรอครับ ใช่คนที่คนอื่นเขาพูดถึงกันรึเปล่าครับ?” ใครพูดถึงใครฮ่ะ?
เจโล่ที่รู้สึกสงสัยก็ดึงชายเสื้อของยงกุกเล็กน้อยเพราะอยากรู้เรื่อง และเหมือนยงกุกจะเข้าใจโดยที่ไม่ต้องพูดอะไรมากมาย ทำให้คนที่นอนเจ็บและอีกสองคนที่เดินตามหลังมาอิจฉากับสายสัมพันธ์ของสองคนนี้ไม่น้อยเลย
“นี่เจโล่! คนที่ฉันรักมากที่สุด!! และเป็นคนที่แกต้องช่วยฉันปกป้อง” เด็กที่ชื่อเจโล่ที่พี่ยงกุกพามาผมพอจะรู้ว่าเขาเป็นใคร แต่พอได้เจอตัวเป็นๆ ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าทำไมพี่ยงกุกที่ผมคอยติดตามถึงได้รักเด็กคนนี้นัก ดวงตาที่ใสบริสุทธิ์นั่นใช่ไหมครับที่ทำให้พี่กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งนะพี่ยงกุก
“ผมชื่อชเวจุนฮง แต่ผมชอบให้เรียกผมว่าเจโล่มากกว่านะฮ่ะ” เด็กคนนั้นแนะนำตัวกับผมพร้อมรอยยิ้มสดใส ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าพี่ยงกุกรู้สึกยังไง เพราะผมเองก็กำลังรู้สึกแบบนั้นเช่นกัน รอยยิ้มนั้นสดใสจนผมอยากจะยึดเอามาเป็นของตัวเอง
“ฉันชื่อฮยองซิก ปาร์คฮยองซิก ยินดีที่ได้รู้จักนะเจโล่” ผมดีใจที่ได้รู้จักเขาจริงๆ นะ
“อืม ส่วนสองคนนี้ชื่อแดฮยอนกับจองอบ แดฮยอนเป็นเพื่อนพี่เองแหล่ะ ส่วนจองอบเป็นเพื่อนของเจโล่แล้วก็เป็นแฟนของแดฮยอนมัน” เอ่อคุณเพื่อนครับ มึงต้องแนะนำกูกับแฟนขนาดนั้นเลยรึไง ฮยองซิกมันอยากรู้รึเปล่าทำไมไม่ถามมันก่อนสักนิดว่ะ
“พี่ยงกุกกินข้าวที่นี่ไหมครับ พี่จะได้คุยกับฮยองซิกไงฮ่ะ” เจโล่ของผมจะน่ารักแสนดีไปไหนเนี่ย?
“ฮยองซิกฉันรบกวนนายรึเปล่า? กินด้วยกันหลายๆ คนจะได้สนุก” เพื่อนยงกุกครับ กระผมได้ข่าวว่าน้องเขาเพิ่งฟื้นไม่ใช่รึไงครับ
“ก็ดีสิครับ? ผมก็อยู่คนเดียวเหงาจะแย่อยู่แล้วครับ” ถ้าพี่ยงกุกกินข้าวกับผมเจโล่เองก็คงจะอยู่ที่นี่ด้วยใช่ไหมครับพี่
“งั้นผมกับจองอบไปซื้อข้าวมานะฮ่ะ แต่ของพี่ฮยองซิกคงต้องเป็นอาหารที่หมอจัดให้ใช่มั้ยครับ” ถ้าเจโล่จะน่ารักขนาดนี้ พี่จะโกรธผมไหมครับพี่ยงกุก หากผมจะตกหลุมรักเจโล่ของพี่?
“อืมม งั้นผมไปกับเจโล่นะพี่แดฮยอน” ผมจะซื้อของมาบำรุงพี่แดฮยอนเยอะๆ เลย

ระหว่างรอทั้งสามคนก็คุยกันตามภาษา ยงกุกเองก็ถามเกี่ยวกับเรื่องก่อนที่เขาจะไปถึงกับฮยองซิกอีกรอบเพราะมีหลายอย่างที่เขาไม่เข้าใจ ส่วนแดฮยอนที่ฟังอยู่ก็เพิ่งรู้สึกตัวว่าเพื่อนของเขาคนนี้ไม่ใช่แค่มาเฟียธรรมดา แต่เป็นถึงระดับหัวหน้ามีลูกน้องที่รับคำสั่งจากยงกุกมากกว่าร้อยคนด้วยซ้ำ แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นยงกุกก็มีฮยองซิกที่คอยจัดการเรื่องต่างๆ ให้ เพราะมั่วแต่มาใช้เวลาอยู่กับเจโล่งานที่ฮยองซิกต้องสะสางจึงมากตามไปด้วย
ทั้งสามคนคุยกันได้สักพักอาหารของฮยองซิกก็มาถึงจะเหลือก็แค่ของคนอื่นที่เหลือ แล้วไม่นานเจโล่กับจองอบก็กลับมาพร้อมอาหารและเสบียงสำหรับคืนนี้เต็มสองมือ จากนั้นทุกคนก็เริ่มทานอาหารและคุยกันอย่างสนุกจะเวลาผ่านไปได้ทุ่มครึ่ง แดฮยอนก็ต้องขอตัวกลับเพราะต้องไปส่งจองอบที่บ้าน แต่ที่จริงแล้วจองอบจะค้างที่บ้านของเขาในคืนนี้ ส่วนเจโล่กับยงกุกก็ขอตัวกลับห้องพักของตัวเองเพราะยงกุกห่วงเจโล่ที่ยังไม่ได้ทำการบ้านเลยสักข้อ
หลังจากทุกคนออกจากห้องไปก็เหลือเพียงฮยองซิกที่กำลังฟุ้งซ่านกับความรู้สึกของตัวเองอยู่เพียงลำพัง
“ผมไม่ผิดใช่ไหมครับที่รักคนรักของพี่นะ พี่ยงกุก!

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น