เกือบสองอาทิตย์ที่ผ่านมาเจโล่ต้องวิ่งวุ่นไปมาระหว่างโรงพยาบาลกับโรงเรียน
และในที่สุดก็ถึงวันศุกร์สักที ตอนนี้เจโล่กำลังมีความสุขแบบสุดๆ
เพราะเขากำลังจะไปรับยงกุกกลับบ้านของเขา
มันช่วยไม่ได้ที่พ่อแม่ของเจโล่จะไม่ยอมให้ยงกุกกลับไปอยู่ที่บ้านเพียงลำพัง โดยคุณนายชเวเป็นคนยื่นคำขาดให้ยงกุกไปรักษาตัวต่อที่บ้านของเธอ
คุณนายเตรียมข้าวของเอาไว้ให้ยงกุกหลายอย่างโดยจัดให้เข้าที่เข้าทางภายในห้องของเจโล่
และนั่นคือสาเหตุหลักที่ยงกุกยอมที่จะไม่กลับบ้านของตัวเอง
“พี่ยงกุกฮ่ะ!” เจโล่ที่ปกติไม่ค่อยเร่งรีบอะไรกับใครเขาก็ถึงคราวต้องหอบเหนื่อย
เพราะความตื่นเต้นจนเผลอออกตัววิ่งตั้งแต่ที่ลงจากรถเมล์จนมาถึงห้องพักของยงกุก
ในตอนนี้ฮยองซิกแข็งแรงมากพอที่จะเดินไปไหนมาไหนได้สะดวกดีก็กำลังนั่งเล่นในห้องพักของยงกุกอยู่พอดี
“หวัดดีฮ่ะพี่ฮยองซิก”
เจ้าตัวยุ่งของผมไปทำอะไรมาเนี่ย ทำไมถึงหอบขนาดนี้ได้?
“กลับบ้านกันฮ่ะ!” รอยยิ้มและถ้อยคำที่ถูกเอ่ยออกมาจากคนเพิ่งวิ่งหน้าตั้ง
ทำเอาคนฟังอดขำไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าจะรีบขนาดนั้นไปทำไม
“รู้แล้วน่า
ไม่เห็นต้องรีบร้อนขนาดนั้นเลย” เอาอีกแล้วสิเจโล่ของผมจะยิ้มน่ารักไปถึงไหนกัน
แค่นี้ก็รักจะตายแย่อยู่แล้ว
“ผมดีใจนิ
ก็พี่ยงกุกจะไปอยู่ที่บ้านกับผมนี่ฮ่ะ” มันน่าจับกดไหมเนี่ย? พี่ยงกุกรักน้องเจโล่จะตายอยู่แล้วครับ
แม้ว่าผมจะยังคงนั่งอยู่ในห้องนี้ แต่เหมือนอีกสองคนจะมองไม่เห็นผมเลยสินะ
สายตาที่สองคนนั้นมองกัน มันเหมือนทั้งโลกมีพวกเขาแค่สองคน โลกที่ผมไม่มีทางได้เข้าไปสัมผัส
ที่ผ่านมาพี่ยงกุกดีกับผมมาตลอดแต่ในตอนนี้ผมกับคิดไม่ซื่อกับเขา จะผิดรึเปล่าถ้าหากผมอยากจะเป็นคนเลวที่ทรยศพี่ชายที่ผมเคารพ
หรือผมควรจะรักเขาต่อไปแบบนี้เพื่อที่ผมจะไม่ต้องเสียคนทั้งที่ผมรักทั้งสองคนไป
แต่ความคิดของฮยองซิกก็มึอันสะดุดเพราะมีอีกคนเดินเข้ามาในห้องที่เขาไร้ตัวตน
“ว่าไงยงกุก กลับบ้านได้แล้วสิแกนะ?” น่าเหลือเชื่อที่เสียงเดินทางเข้าห้องได้ก่อนที่ฟันล้ำหน้าจะตามเข้ามาทีหลัง
“เอ่อดิว่ะ!
จะให้อยู่นี่ทั้งชาติเลยรึไงมึง?”
ยงกุกเองก็กัดตอบเล็กน้อยตามประสาเหงือกกะฟันอ่านะ
“กูก็แค่มั่นไส้
พ่อแม่เจโล่ใจดีเป็นบ้าที่เอาแกไปอยู่ที่บ้านด้วย
แบบนี้ก็ได้เจอเจโล่ตลอดไม่ใช่รึไงมึง??” ฮิมสุดหล่ออิจฉามันมากๆ เลยครับ
ก็พ่อแม่ของแก้มป่องดันกลับมาแล้วสิครับผมเลยอดไปค้างกะยองแจเลย
ว่าแล้วก็อยากกอดยองแจให้หายคิดถึงจัง
“อิจฉาอะไรนักหนาว่ะ คนที่ควรจะอิจฉาพวกเรานะยงกุกต่างหากล่ะเว้ย!” กระผมแดแด้สงสารเพื่อนยงกุกมากๆ เลยล่ะครับพี่น้อง
“ก็แหม..
ถ้าไปอยู่ที่บ้านจะทำอะไรก็ไม่สะดวกนิ จะกอดก็ไม่ได้ จะจูบก็ไม่ได้
อยู่โรงพยาบาลต่อยังจะดีกว่าอีก” ผมไม่ควรจะชี้โพรงให้กระรอกเลยใช่ไหมครับเนี่ย
หลังจากยงกุกได้ยินที่แดฮยอนพูดก็เหมือนจะรู้ตัวว่าคิดผิดไปนิด
คิดได้อย่างนั้นก็รีบไปคว้าคอเสื้อของฮิมชานอย่างแรง ก่อนจะกระซิบบอกเพื่อนเบาๆ
เพราะกลัวเจโล่ได้ยิน
“มึงต่อยก็ที
ต่อยให้ล้มไปโดนอะไรหัวแตกก็ได้” เอ่อเพื่อนเหงือกของเหยินครับ
ต้องลงทุนทำขนาดนั้นเลยหรอว่ะ
พอมองหน้าของเพื่อนที่เริ่มจะสิ้นคิดไม่ต่างกัน
ฮิมชานก็ง้างหมัดพร้อมจะสัดใส่ยงกุก
“อย่านะฮ่ะพี่ฮิมชาน?”
แก้มป่องของผมมาจากไหนอ่ะ เมื่อกี้ยังไม่อยู่เลยนิ ฮิมตกใจนะครับ!!
“ปล่อยพี่ยงกุกนะฮ่ะ เดี๋ยวนี้!!” กูอยากช่วยมึงนะเว้ยเหงือก แต่เหยินต้องเชื่อฟังเมียนะ
ยองแจไม่พูดเฉยเพราะกำลังเดินมาดึงฮิมชานออกไปจากห้องเพื่อเอาไปจัดการข้างนอก
แต่ก็ต้องหัวเราะทันทีที่ฮิมชานอธิบายให้ฟัง
ก็ใครมันจะไปคิดว่าพี่ชายที่น่ากลัวอย่างยงกุกจะสิ้นคิดขนาดนั้นเล่า
“อุว่ะฮ่าๆๆๆๆ”
พี่รู้ว่าขำนะครับแก้มป่องแต่ฮิมอายคนนะครับ คนมองใหญ่แล้วอ่ะ
“พี่ยงกุกทำไมไม่ถามให้ดีก่อนฮ่ะ?”
นั่นไงหัวเราะจนน้ำตาไหลเลยแฟนผม
“พ่อกับแม่ของเจโล่ไม่อยู่บ้าน!
เห็นบอกว่าต้องไปคุยงานที่ญี่ปุ่นก็เลยต้องเอาพี่ยงกุกไปไว้ที่บ้านเจโล่จะได้มีเพื่อนต่างหากล่ะฮ่ะ”
เอ่อ... อย่าว่าแต่เหงือกไม่รู้ครับ ฮิมก็ไม่รู้เหมือนกันนิ
“ยองแจอ่า.. ยองแจรู้ได้ไง?”
โถ่พี่ฮิมชานของผม อย่าทำหน้างงขนาดนั้นสิฮ่ะ มันขำนะ!
“เจโล่ก็เพิ่งจะบอกผมนี่แหล่ะฮ่ะ
ส่วนเจ้าตัวก็เพิ่งรู้เมื่อเช้านี้” น่าสงสารพี่ยงกุกชะมัด
อะไรจะซื่อได้โล่ขนาดนั้นเนี่ย
ทั้งที่ออกจะเก่งแต่พอเป็นเรื่องของเจโล่ก็โง่ขึ้นมาเอาดื้อๆ เลย
หลังจากยองแจลากฮิมชานออกไปอธิบายให้ฟัง
ที่ในห้องตอนนี้กำลังมีอีกคนที่จับได้ไล่ทันก็ต้องทรุดนั่งกับเตียงอย่างว่าง่าย
“พี่ยงกุกจะหาเรื่องพี่ฮิมชานทำไมฮ่ะ?”
เจโล่ถามยงกุกเสียงกร้าวเพราะเขาไม่ชอบที่ยงกุกหาเรื่องเพื่อนของตัวเอง
“พี่แค่...” ส่วนไอ้คนสิ้นคิดก็พูดไม่ออก
ไม่รู้จะบอกว่ายังไง
“พี่ว่า พี่ยงกุกคงอยากรู้โรงพยาบาลต่ออีกหน่อยนะเจโล่!” นั่นไง ใครเอาความคิดของผมออกไปพูดว่ะ
“พี่ฮยองซิกหมายความว่าไงฮ่ะ?
ทำไมต้องอยากอยู่ที่นี้ต่อด้วย?? ไม่อยากกลับบ้านกับผมหรอฮ่ะ!!” ยงกุกที่เห็นว่าเจโล่กำลังงอนก็ยอมสารภาพแต่โดยดี
“ก็ไอ้แด้มันบอกว่าอยู่บ้านกับพ่อกะแม่ แล้วมันทำอะไรไม่สะดวกนี่หน่า”
คำสารภาพของยงกุกเล่นเอาเจโล่หน้าขึ้นสีเพราะดันไปจินตนาการตามคำพูดเข้าให้
“พ่อกับแม่ไม่อยู่บ้านฮ่ะ ไปญี่ปุ่น!” ฮือ? ไปไหนนะ? ยงกุกได้ยินไม่ผิดใช่ไหมครับพี่น้อง
“ไม่อยู่บ้านจริงง่ะ?
อย่างนี้เจโล่กับพี่ยงกุกก็อยู่กันสองต่อสองในบ้านหลังงาม ภายในห้องนอนสวยๆ
ของเจโล่สิเนี่ย!!”
จองอบที่รู้เรื่องนี้อยู่ก่อนแล้ว
กำลังแหย่สองคนเล่นแล้วก็อดยิ้มภาพของทั้งสองที่พากันเขินตามคำพูดของเขา
ถึงผมจะไม่ค่อยพูดอะไรก็เถอะนะ แต่ผมรู้จักโลกใบนี้ดีกว่าพี่ยงกุกกับเจโล่เป็นไหนๆ
ต้องแกล้งสองคนนี้สักหน่อยเพราะขนาดยองแจกับพี่ฮิมชานยังไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
เหลือแค่สองคนนี้ที่ยังไม่หือไม่อือสักที วันๆ
เอาแต่มองตากันไปมาว่างไม่ได้ก็ต้องกอดแล้วก็ไปจบที่อย่างมากสุดก็แค่จูบเบาๆ
ผมเห็นแล้ก็อยากจะจัดอย่าโด๊ปให้สองคนนี้จริงเชียว
ไม่ใช่ว่าผมไม่เห็นดีเห็นงามที่เจโล่กับพี่ยงกุกเป็นแบบนี้นะ ก็ไหนๆ
ผมก็เป็นของพี่แดฮยอนแล้ว ยองแจเองก็ตกเป็นของพี่ฮิมชาน
ผมก็เลยอยากให้เจโล่เป็นของพี่ยงกุกบ้างอ่ะ
ตอนนี้แดฮยอนเริ่มสักเกตุเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ถูกส่งงมาจากตาตี่ๆ
ของจองอบเลยอดคิดไม่ได้ว่าแฟนของเขากำลังวางแผนอะไรอยู่รึเปล่า
คงไม่ใช่จะยุให้สองคนนั้นได้เสียหรอกนะใช่ไหม?
“จองอบครับ!
ไม่ได้วางแผนอะไรอยู่ใช่ไหมฮือ?” เพื่อความแน่ใจ
กระผมต้องสอบถามให้รู้แน่ชัดว่ามีแผนการร้ายซ่อนอยู่หรือไม่
“ก็แค่พูดให้สองคนนั้นคิดนิดนึง”
รอยยิ้มสดใสของจองอบเริ่มจะถูกทาด้วยสีดำซะแล้วสิ
ผมไม่ควรให้เด็กคนนี้ได้ริมรสของความสุขอันเย้ายวนใจนั่นเลย
เพราะจองอบของผมเปลี่ยนไปอ่ะเน้อ ช่วงนี้ผมชักจะไม่ไหวแล้วสิฮ่ะ
ถ้าจัดหนักสามครั้งหลังอาหารได้จองอบของผมคงทำไปแล้ว
ในระหว่างที่ยงกุกและเจโล่เขินกันไปมาเพราะคิดเรื่องที่ต้องอยู่บ้านกันสองคน
ก็ยังมีอีกคู่ที่ดูจะรักกันมากไม่ต่างจะคู่แรก ในห้องก็เหลือเพียงฮยองซิกที่ทำได้เพียงมองเจโล่กำลังเขิน
ยิ่งคิดเรื่องของยงกุกที่จะไปค้างกับเจโล่สองต่อสองก็ยิ่งทำให้เขาเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก
ได้โปรดเถอะนะเจโล่ มองมาที่ฉันบ้างสักนิดก็ยังดี!
หลังจากนั่นไม่นานทุกคนก็พากันออกจากโรงพยาบาล
มีเพียงฮยองซิกที่ยังคงต้องรักษาตัวต่อไปอีกระยะหนึ่ง ส่วนรถตู้โฟล์คสีดำของยงกุกก็รอทุกคนอยู่ที่ลานจอดรถด้านนอกแล้ว
เพราะฮิมชานคิดว่าคงดีกว่าไปนั่งรถเมล์หรือแท็กซี่นิดหน่อย อย่างน้อยก็ขนกันไปได้หมด
รถที่เต็มไปด้วยเด็กหนุ่มกำลังมุ่งหน้าไปยังบ้านสกุลชเวสถานที่พักรักษาตัวของยงกุก
ดีที่ไปถึงกันก่อนพระอาทิตย์ตกดินเพราะทุกคนอย่างจะฉลองตอนรับยงกุก
พอถึงบ้านต่างก็พากันแจกแจงหน้าที่ของแต่ละ
ยงกุก มึงนั่งอยู่เฉยๆ
เจโล่ แค่เฝ้าให้มันไม่ลุกไปไหน
ไอ้แด้ มึงไปซื้อของเครื่องดื่ม
อบบี้ ไปกับไอ้แด้นะ
ที่รัก อยู่ทำกับข้าวกับเขานะจ๊ะ
ทุกคนไม่ต้องวางเผยอะไรให้มาก เพราะฮิมชานเล่นเจ้ากี้เจ้าเอาเองเสร็จสรรพ!
หลังจากเตรียมนั่นเตรียมนี่ได้สักพัก
เจโล่ก็เบื่อที่ต้องเฝ้าอย่างเดียวเลยต้องออกไปหาอะไรทำเอาเอง
ว่าแล้วก็จัดการเตรียมโต๊ะอาหารเพื่อช่วยคนอื่น
ส่วนยงกุกก็ไม่ได้ขัดอะไรเพราะเขาสามารถย้ายไปนั่งรอที่โต๊ะได้ แถมเจ้าตัวก็ยอมอยู่นิ่งๆ
แต่โดยดี
ไอ้บ้ายงกุกมันจะมองเจโล่ทุกอิริยาบถเลยรึไงว่ะครับเนี่ย
แล้วดูมันมองเข้า!
นี่ขนาดฮิมสุดหล่อคนนี้เป็นเพื่อนมันยังเคลิ้มเลยนิ
มันกะจะจ้องจนเจโล่ท้องได้เลยรึไงว่ะเนี่ย ผมเป็นคนแอบมองแท้ๆ
ยังเขินแทนเจโล่ไม่อยากจะคิดว่าน้องมันจะเขินขนาดไหน
“เครื่องดื่มมาแล้วครับผม!!” อย่างน้อยก็มีคนมาช่วยทำลายบรรยากาศหวานเลี่ยนให้ฮิมแล้ว
ดีใจที่สุดที่มึงกลับมาเลยนะไอ้แด้คร๊าบ
“มึงซื้ออะไรมาบ้างว่ะเนี่ย?”
ผมเพิ่งจะออกจากโรงพยาบาลแต่พวกมันกลับซื้อเบียร์กับโซจูมาล่อตาล่อใจผมเนี่ยนะ
ไม่ได้สงสารกันสักนิดเลยนะมึงไอ้ดำ
“มีเบียร์กับโซจูของฉันกับไอ้ฮิมมัน
แล้วก็มีพวกโคล่าให้น้องๆ ส่วนของมึงนมเปรี้ยว!”
ระยำสุดๆ เลยเพื่อนผม มันจะให้ผมซดนมเปรี้ยวชนแก้วว่างั้น
“กูไม่ผิดนะ เจโล่เป็นคนบอกให้กูซื้อมานิ”
มึงไม่ต้องตามใจเจโล่ของกูขนาดนี้ก็ได้เว้ย
หลังจากสงครามเล็กๆ
เรื่องเครื่องดื่มของยงกุก ยองแจกับฮิมชานก็เตรียมอาหารเสร็จเรียบร้อย
ตอนนี้โต๊ะอาหารเต็มไปด้วย ซุปกิมจิ เนื้อสันในผัดพริกหวาน ผักโขมผัดน้ำมันงา
หมูสามชั้นย่าง ปลาทอด และอื่นๆ อีกมากมายที่เป็นกับแก้มมากกว่ากับข้าว
ทั้งหกคนต่างพูดคุยกันสนุกสนาน
แล้วก็มีสงครามเครื่องดื่มโผล่มาเป็นครั้งคราว ก่อนที่ทุกคนจะอิ่มหมีพลีมันจนหมดปัญญาจะยัดอาหารลงคอ
ก็เลยพากันพักยกด้วยการเล่นเกมส์ซึ่งมวยคู่เอกยังคงเป็นยองแจปะทะแดฮยอนเหมือนทุกครั้ง
แต่พอถึงสามทุ่มสี่คนที่เหลือที่แอบนัดแนะกันมาอย่างดีก็ขอตัวกลับบ้านใครบ้านมัน
จริงๆ ก็บ้านคู่ใครคู่มันมากกว่าอ่านะ ทิ้งให้ยงกุกกับเจโล่อยู่กันแค่สองคน
“แล้วพรุ่งนี้เย็นๆ
พี่จะพาจองอบมาเล่นด้วยนะเจโล่” ผมกับพี่แดฮยอนกำลังจะกลับแล้วล่ะฮ่ะ
“ไม่ต้องมาหรอก!” ทำไมพูดแบบนั้นล่ะฮ่ะพี่ยงกุก?
“ทำไมว่ะ กูมาไม่ได้รึไง?” ใช่ๆ
พี่แดฮยอนเถียงเลย จองอบเห็นด้วยแบบสุดๆ ฮ่ะ
“พรุ่งนี้ฉันจะพาเจโล่ไปเดท!!!” ไปเดทกันหรอฮ่ะ พี่ยงกุกจะพาเพื่อนของผมไปเดทอ่ะ
จองอบดีใจที่สุดในสามโลกเลยครับผม
“เดทอะไรฮ่ะพี่ยงกุก
ผมไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย?” จะไปขัดพี่ยงกุกทำไมอ่ะเจโล่?
“ไม่อยากไปรึไงฮ่ะเรา?”
นั่นไงสายตาหยาดเหยิ้มของพี่ยงกุกกำลังละลายเจโล่อยู่ล่ะฮ่ะ
“ก็ต้องไปอยู่แล้วล่ะฮ่ะ ถามได้!!” เพื่อนผมละลายเรียบร้อยแล้วคร๊าบบบ
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น