uncopy

วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

1st 19 ออกเดทครั้งแรก

หลังจากทุกคนกลับไปกันหมด ก็เหลือแค่ผมกับเจโล่ที่ตอนนี้หลับไปก่อนคนเพิ่งหายเจ็บซะได้ ผมรักแม่ของเจโล่มากเลยล่ะ เพราะว่าอุตส่าจัดห้องของเจโล่ไว้เผื่อผมด้วย ในห้องของเจโล่มีตู้เสื้อผ้าเพิ่มมาอีกอัน แถมหมอนและผ้าห่มก็ถูกจัดเตรียมให้ผมเอาไว้อย่างดี แม้แต่แปรงสีฟันก็ถูกเพิ่มเข้ามาในห้องน้ำของเจโล่ แต่ที่ผมชอบที่สุดก็คงเป็นที่นอนของผมไม่ถูกเพิ่มเข้ามา เพราะผมได้รับอนุญาตให้นอนเตียงเดียวกับเจโล่ได้
ส่วนเจ้าตัวยุ่งของผมตอนนี้กำลังหลับฝันหวานอยู่ข้างกายผมนี่เอง การมองเจโล่หลับมันเป้นอะไรที่ผมไม่เคยเบื่อเลยสักครั้งเดียว แก้มขาวจะดูน่ารักขึ้นไปอีกเวลาที่เจ้าตัวเผลอเอาถูกับหมอนโดยไม่รู้ตัว เหมือนลูกแมวแสนน่ารักที่กำลังขดตัวบนบนกองไหมพรมก็ไม่ปาน

“เจโล่ครับ!” ผมลองเรียกชื่อเจโล่เบาๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปวางลงบนแก้มขาวนั่น
“ฮ่ะ..” ดูเจ้าตัวยุ่งของผมสิ ตาไม่ยอมลืมมามองผมสักนิดแถมดึงผ้าห่มขึ้นปิดหน้าตัวเองซะอย่างนั้นนะ จะขี้เซาจริงเชียว
“ไม่ไปเดทกับพี่รึไงวันนี้นะ?” ลองใช้วิธีนี้ดูเผื่อได้ผล
“ขอนอนต่ออีกนิดนึงนะฮ่ะ” ผมไม่ทันได้ตอบโต้อะไรกลับไป เพราะเจโล่เล่นขยับตัวมาซุกหน้าลงบนอกของผมแล้วแบบนี้ใครมันจะอยากไปปลุกกันล่ะ
“อีกแป๊ปเดียวนะ” แต่ยังไงวันนี้ผมก็จะไปเดทให้ได้คอยดู
“ฮ่ะ...” คงจะรู้ว่าทำแบบนี้ได้ผลก็เลยใช้กับผมตลอดเลยสินะเด็กคนนี้
แล้วยงกุกก็เผลอหลับไปด้วยคน

“พี่ยงกุกรีบเดินสิฮ่ะ เดี๋ยวก็ไปไม่ทันรอบฉายหนังหรอกนะ!!” ผมรู้ว่าผมเป็นคนขี้เซานะ แต่ผมไม่คิดว่าพี่ยงกุกจะหลับกับผมด้วยนิ กว่าจะตื่นอีกรอบก็สิบโมงเข้าไปแล้ว
“ก็แล้วสายเพราะใครล่ะเนี่ย?” ไม่ต้องมายิ้มใส่ผมแบบนั้นเลยนะ ก็พี่ยงกุกไม่ปลุกให้ดีดีเองนี่หน่า ผมไม่ผิดสักหน่อย
“แล้วทำไมถึงหลับตามผมล่ะฮ่ะ?” ผมนอนต่อแต่ทำไมพี่ต้องนอนตามด้วยอ่ะ
“ก็โดนลูกแมวที่ไหนไม่รู้มามุดอยู่ตรงอกก็เลยต้องปล่อยให้อยู่แบบนั้นไปก่อนนะ รู้อีกทีก็ตอนที่เจโล่ปลุกพี่นั่นแหล่ะ” ถ้าง่วงอยู่แล้วจะรีบตื่นมาทำไมล่ะเมื่อเช้านะ ยังไงพี่ก็เพิ่งออกจากโรงพยาบาลนะ ทำไมต้องอยากพาผมมา.. เดทด้วยอ่ะ

จากคำตอบของยงกุกบวกกับความคิดของตัวเอง เลยได้ออกมาเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักกำลังเอาหน้าซุกแขนของอีกคนที่นับวันก็ยิ่งจะหล่อขึ้นเรื่อยๆ อย่างน้อยก็ในสายตาของเจโล่

“เอาหน้ามาซุกแบบนั้นอยากเดินควงแขนพี่รึไงฮือ?” เลิกมองผมด้วยสายตาแบบนั้นสักทีได้ไหมเนี่ยพี่ยงกุก ผมเขินกับชาวบ้านเขาเป็นเหมือนกันนะ
“งั้นพี่จับมือเจโล่นะ” ว่าแล้วนิ้วเรียวยาวของยงกุกก็รวมมือเล็กกว่าก่อนจะสอดประสานนิ้วเข้าด้วยกัน

So Goodbye Loneliness
ลาก่อนความเหงา
恋の歌口ずさんで
ขับขานตามไปกับบทเพลงรัก
あなたの瞳に映る
สะท้อนอยู่ในแววตาของเธอ
私は笑っているは
คือตัวฉันที่กำลังหัวเราะ

So Goodbye Happiness
ลาก่อนความสุข
何も知らずにはしゃいでた
เรากลับไปสู่วันเก่าๆ เหล่านั้นไม่ได้
あのころへは戻れないは
เมื่อครั้งที่เราช่างไร้เดียงสาและเต็มไปด้วยเรี่ยวแรง
それでもいいの
แต่ไม่เป็นไร
Love me
รักฉันเถอะ
[Goodbye Happiness By Utada Hikaru]

            “วันนี้เจโล่อยากทำอะไรพี่จะตามใจทุกอย่างเลย” ว่าแล้วผมควรจะเริ่มจากอะไรก่อนดีล่ะ ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งจะเดทกับเขาเป็นครั้งแรก เพราะมั่วแต่ทำตัวขวางโลกอยู่นะน่ะ แต่เท่าที่ถามยองแจมาก็น่าจะเป็นไปเล่นพวกเครื่องเล่นก่อนล่ะมั้ง?
“ผมอยากนั่งรถไฟเหาะฮ่ะพี่ยงกุก” อะไรเหาะๆ นะเจโล่

“อ๊าก!!!!! ว๊าก!!!!!” ทำไมไม่เล่นอันอื่น ยงกุกเสียภาพพจน์คร๊าบ
“อ่าฮ้า!!!!!” สวนคนข้างๆ ผมดันชอบสุดๆ ไปเลยเง้อ

หลังจากลงจากรถเหาะยงกุกก็ถึงกับขาอ่อน
“พี่ยงกุกไหวไหมฮ่ะ??” อีกคนที่ไม่ยักกะกลัวกำลังสนุกหลุดโลก
“ไหว!!” ส่วนนี่ก็คนที่ใกล้จะไม่รอด
“งั้นไปเล่นเฮอริเคนต่อนะฮ่ะ!!!” ยงกุกตอนนี้วิญญาณดูเหมือนกำลังจะออกจากร่างก็ไม่ปาน

แล้วก็ถูกลากขึ้นเครื่องเล่นไปอีกรอบ ทั้งที่อึ้งกับสภาพของคนเล่นรอบก่อนยังไม่หาย
“นะฮ่ะ” เจโล่ใช้รอยยิ้มของเขาในการจัดการกับยงกุกได้ไม่ยากเลยสักนิด
“อืมม” แต่ไม่รู้ว่าที่ตอบนะมีสติดีรึเปล่า

“เย้อ!!!!! อ้า!!!!!” เสียงจากคนหน้าโหดลอยออกมาอีกรอบ
สภาพของยงกุกที่เพิ่งลงจากเฮอริเคนมา ตอนนี้เอาแต่จับไหล่ของเจโล่ด้วยมือทั้งสองก่อนจะซบลงที่หลังอย่าหมดแรงจะเดิน
“ไหวแน่นะครับพี่ยงกุก?” ส่วนเจโล่ก็ดูจะมีความสุขไม่น้อยเลย เพราะเล่นยิ้มแฉ่งใส่ยงกุกไม่ยอมหยุด
“พี่ว่าพี่เริ่มไม่ไหวหน่อยๆ แล้วอ่ะ เจโล่ไม่เล่นพวกม้าหมุนอะไรเงี่ยบ้างหรอ” หน้าที่เริ่มซีดกลั้นใจเอ่ยถามอีกคนแบบหมดสภาพ
“อยากจะหวานก็ไม่บอก ผมก็นึกว่าพี่ยงกุกอยากสนุกซะอีก” เจโล่ที่มองยงกุกกำลังอมยิ้มเจ้าเล่ห์นิดๆ อยู่อย่างพอใจ
“พี่เพิ่งออกจากโรงพยาบาลนะเจโล่ แล้วยังจะพาพี่มาโดนเหวี่ยงในเครื่องเล่นเมื่อกี้อีกง่ะ พี่ชักจะเจ็บแผลนิดๆ แล้วอ่ะ” ยงกุกไม่ได้โกหก เพราะแผลที่ยังไม่หายสนิท ดูเหมือนจะมีเลือดซึมออกมาเล็กน้อยแล้วในตอนนี้
“พี่ยงกุก!! ผมลืมเรื่องแผลของพี่ไป ขอโทษนะฮ่ะ” ส่วนคนกำลังสนุกก็กลายเป็นซึมแทน เพราะดันเล่นเพลินจนลืมว่าคนที่มาด้วยยังไม่หายดี
“ไปหาที่นั่งดีกว่าฮ่ะ เดี๋ยวผมทำแผลให้นะ!!” เอาแล้วไงล่ะ จากยิ้มตอนนี้เริ่มจะมีน้ำตาคลอด้วยสำนึกผิด ยงกุกที่เห็นแบบนั้นก็ต้องรีบห้ามน้ำตาเอาไว้ก่อน
“พี่เองก็อยากเล่นเหมือนกัน เจโล่ไม่ผิดหรอกรู้ไหม?” มือของยงกุกใช้ห้ามน้ำตาเจโล่ได้เป็นอย่างดี เพราะตอนนี้ดูเหมือนเจโล่จะสบายใจขึ้นนิดหน่อยแม้จะยังห่วงเรื่องแผลก็ตามที

อาจเป็นภาพที่น่าดูชมสำหรับสาวๆ ที่เดินผ่านไปมา เพราะตอนนี้เจโล่กำลังทำแผลให้ยงกุกที่ดันถอดเสื้อนอกออกครึ่งตัว เผยให้เห็นลำตัวซีกซ้ายเปลื่อยเปล่า ยงกุกเป็นผู้ชายที่รูปร่างดี กล้ามเนื้อของเขาเองก็เรียกเลือดจากบรรดาคนแอบมองได้ไม่หยอก ซึ่งก็เริ่มจะทำให้เจโล่มีน้ำโห

ทำไมต้องถอดเสื้อออกครึ่งตัวแบบนี้ด้วยก็ไม่รู้ แค่ปลดกระดุมไม่กี่เม็ดก็ทำแผลได้นี่หน่า อยากจะโชว์สาวๆ พวกนั้นรึไงกันนะพี่ยงกุก
“อ้า!! เจ็บนะครับเจโล่” ไม่ต้องมาร้องเลย ใครใช่ให้พี่หว่านเสน่ห์กันเล่า
“หึงรึไง??” ทำหน้าแบบนั้นใส่ผมหมายความว่าไงเนี่ย
“ไม่ได้หึงสักหน่อย!!!” ใครจะไปหึงพี่กันเล่า..
แต่ยงกุกมีรึจะไม่รู้ทัน เขาดึงเจโล่เข้ามาแล้วจูบอย่างอ่อนโยนต่อหน้าทุกคน ก่อนจะปล่อยให้เจโล่เป็นอิสระแล้วยิ้มโชว์เหงือกใส่
ว๊ายยย จูบกันด้วยอ่ะ
ฉันอิจฉาเด็กคนนั้นจังเลยแก
“ทำอะไรของพี่ฮ่ะเนี่ย??”  เจโล่อายจนหน้าแดงแต่ก็ทำอะไรไม่ถูก เอามือมาลูบแก้มทั้งสองข้างแบบเขินๆ
“ไปหาอะไรกินเถอะฮ่ะ แล้วก็ใส่เสื้อให้เรียบร้อยเดี๋ยวนี้เลย!!” ต่างจากเจโล่สิ้นเชิง เพราะยงกุกเล่นยิ้มหวานไม่สนใจว่าใครจะมองยังไง ก็แล้วทำไมเขาต้องสนใจคนพวกนั้นด้วยล่ะ

เจโล่ลากยงกุกไปที่ร้านอาหารก่อน ต่อด้วยการซื้อไอศกรีมเพื่อเพิ่มความหวานอีกสักนิด แต่ดูเหมือนจะยิ่งทำให้คู่เดทคู่อื่นอิจฉากันใหญ่ เพราะยงกุกกำลังแกล้งเจโล่ด้วยการกินไอศครีมของเจโล่ทั้งที่เจโล่เองก็กำลังอยู่ คนที่มองอยู่ไกลๆ เลยเห็นเป็นสองคนนั้นกำลังจูบกันแทน ทั้งที่ยงกุกแค่กินจากอีกด้านเท่านั้นเอง ส่วนเจโล่ที่โดนเล่นงานไม่รู้ตัวก็เกือบจะเผลอปล่อยไอศครีมตกพื้นดีที่ยงกุกจับมือไว้ได้ทันเพราะไม่ยังงั้นคงอดอ่านะ

“ทำไมไม่กินของตัวเองไปล่ะฮ่ะ มาแย่งผมทำไมเนี่ย?” ผมไม่กินเจโล่เข้าไปด้วยกูบุญเท่าไหร่แล้วเนี่ย คนบ้าอะไรยิ่งโมโหใส่ผมเท่าไหร่ผมก็ยิ่งมองว่าน่ารักเท่านั้น ก็ไม่เคยมีใครกล้าโมโหใส่ผมนี่นะช่วยไม่ได้นะเจโล่ นายนั่นแหล่ะผิดเองที่ทำให้ฉันรัก
“นั่งชิงช้าสวรรค์หน่อยไหม? พี่อยากนั่งชมวิวสักหน่อยนะ” นี่คือสิ่งหนึ่งที่ยองแจแนะนำผมมา เขาบอกว่าผมต้องพาเจโล่ขึ้นไปให้ได้ ไม่งั้นคงไม่เรียกว่าออกเดท และผมว่ามันก็เป็นคำแนะนำที่ดีเหมือนกัน
“ก็ได้ครับ ตอนนี้กำลังร้อนเลยด้วย ขึ้นไปนั่งพักชมวิวก็ดีเหมือนกันฮ่ะ” เจโล่ยอมขึ้นตามที่ผมขอด้วยอ่ะ แล้วทีนี้ก็เหลือแค่

เจโล่ดูเหมือนเด็กที่กำลังมีความสุขกับของเล่นชิ้นใหม่ ไม่ได้สนใจยงกุกที่ตอนนี้ดูประหม่าเล็กน้อย และยงกุกก็เริ่มมีอาการนี้ตั้งแต่ที่ขึ้นกระเช้าแล้ว
“เจโล่อ่า!” ผมคงต้องรีบสักหน่อยแล้ว ก่อนที่ผมจะไม่กล้าพูดมันออกไป
“ครับพี่ยงกุก” ผมกำลังจ้องมองเจโล่ที่น่ารักของผม ก่อนจะพูดออกไปว่า
“พี่จะไม่เป็นพี่ชายของนายอีกต่อไปแล้ว เป็นแฟนกันนะ” ในที่สุดก็พูดออกไปจนได้สิน่า ทั้งที่เขานอนกอดเจโล่อยู่หลายคืน จูบเช้าจูบเย็นมาโดยตลอด แต่สิ่งหนึ่งที่เขาไม่เคยทำให้มันชัดเจนกับเจโล่เลยสักครั้งคือขอคบกับเจโล่
ส่วนเจโล่เองก็มองยงกุกแบบงงๆ ก่อนจะเบะปากใส่
“ผมนึกว่าเราเป็นแฟนกันแล้วซะอีก?” ที่ทำหน้าแบบนั้นเพราะผมเพิ่งขอเป็นแฟนหรอกหรอ
“ก็เป็นมานานแล้วล่ะ แต่พี่อยากพูดออกมานี่หน่า” ว่าแล้วผมก็ดึงเจโล่เข้ามากอดไว้แน่น
“ผมรักพี่ยงกุกนะฮ่ะ พี่ยงกุกก็รักผมใช่ไหมฮ่ะ?” ผมต้องตอบด้วยหรอคำถามนี้
“รักสิครับ พี่รักเจโล่มากที่สุด และจะรักแค่เจโล่คนเดียวเท่านั้น พี่สัญญา”

ริมฝีปากหนาตอนนี้กำลังดื่มด่ำรสหวานจากริมฝีปากเรียวเล็ก ทั้งสองต่างมอบสัมผัสอ่อนโยนให้แก่กันและดูดกลืนความรักของอีกคนจนเหนื่อยหอบ ก่อนจะถอนริมฝีปากออกจากกันอย่างช้าแล้วมองตากันอย่างเข้าใจความรู้สึกของอีกคน
เจโล่ที่รับรู้ความรู้สึกรักละมุนของยงกุกก็โน้มตัวซบลงบนไหล่ข้างที่ไม่เจ็บของยงกุก ส่วนยงกุกก็โอบกอดรอบกายของเจโล่ไว้อย่างอ่อนโยน ทำไมชิงช้าตัวนี้มันไม่ค้างอยู่อย่างนี้อีกสักหน่อยนะ ทั้งคู่ต่างคิดในสิ่งเดียวกัน

หลังจากการสารภาพแสนหวานของสองคน ยงกุกยังคงรักษาสัญญาของเขาไว้ได้เป็นอย่างดีไม่ต่างจากเดิม แต่ความสุขนั้นมักจะอยู่ได้ไม่นานเพราะในตอนนี้
“ว่าไงจ๊ะเด็กๆ คิดถึงพ่อกับแม่รึเปล่าจ๊ะ???” หลังจากที่ไปญี่ปุ่นมาสองสัปดาห์เต็มๆ ก็กลับมาพร้อมของฝากมากมาย และแน่นอนว่าไม่ได้มีแค่ฝากเจโล่กับยงกุกหรอกนะ เพราะทันทีที่กลับมาพ่อกับแม่ของเจโล่ก็บังคับทุกคนให้มารวมตัวกันที่บ้านด้วยเหตุผลที่ว่าอยากจะฉลองสักหน่อย และแล้วบ้านสกุลชเวก็เต็มไปด้วยผู้คนมากมายอีกครั้ง ซึ่งในครั้งนี้รวมถึงฮยองซิกด้วย


ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น