หลังจากเรื่องราวของลุงมินซูกับแดฮยอนถูกเปิดประเด็นออกมา
ก็ทำเอายงกุกปวดหัวกว่าเดิม ไหนจะเรื่องของพวกที่มาเล่นงานเขาอีก
ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว
“โธ่โว๊ย! ทำไมเรื่องมันเยอะแยะวุ่นวายแบบนี้ว่ะเนี่ย?” ยงกุกที่สุดจะทนกับอารมณ์ที่พุ่งพล่านก็ต้องสบถออกมาอย่างแรงด้วยความหงุดหงิด
เจโล่ที่เห็นยงกุกเป็นแบบนั้นก็เลยต้องเข้าทำหาเพื่อทำให้ยงกุกอารมณ์ดี
“อย่าเครียดเลยนะฮ่ะพี่ยงกุก”
เจโล่จับแก้มของยงกุกเอาไว้พร้อมกับจ้องมองนัยน์ตาที่แข็งกร้าวจนเริ่มจะอ่อนโยนขึ้นเพราะรอยยิ้มของอีกคนที่ส่งมาให้
“ทำหน้าแบบนี้ค่อยหล่อขึ้นมาหน่อย
เมื่อกี้ผมนึกว่าคิงคองโมโหซะอีก!” คำพูดหยอกล้อของเจโล่บวกกับรอยยิ้มน่ารักๆ
ทำให้ยงกุกหัวเราะออกมาได้บ้าง
“เจโล่ไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหม?
พี่ขอโทษที่ปล่อยให้เจโล่อยู่ที่บ้านคนเดียวนะ” ยงกุกดึงเจโล่เข้ามากอดไว้แน่น เขารู้สึกเหนื่อยล้ากับวันนี้เต็มที
“กลับบ้านผมดีกันดีกว่า
ผมว่าผมง่วงนอนแล้วล่ะฮ่ะ” หน้าตาของเจโล่อิดโรยไม่ต่างกับยงกุกเท่าไหร่
จะต่างก็แค่ไม่มีรอยฟกช้ำที่หน้าก็เท่านั้นแหล่ะ
“ตามใจเจโล่เลยครับผม!”
ยงกุกพูดก่อนจะหอมแก้มใสหนึ่งฟอดใหญ่
ทั้งที่รถก็มีแต่ยงกุกก็บังคับให้เจโล่ขี่หลังของเขากลับบ้านแทน
ส่วนเจโล่ที่กำลังง่วงก็ไม่สามารถขัดศรัทธาของยงกุกได้
ที่ทำได้ก็มีแค่บ่นและต่อว่ายงกุก
“ทำไมต้องให้ผมขี่หลังพี่ทั้งที่มีแผลเต็มไปหมด
แบบนี้พี่ก็เจ็บสิฮ่ะ” เจโล่ในตอนนี้กำลังกอดคอและซบหน้าลงที่แผ่นหลังของยงกุกอย่างช่วยไม่ได้
“ก็พี่อยากได้ไออุ่นจากเจโล่นี่หน่า
มันรักษาพี่ได้ดีกว่าอะไรทั้งนั้นเลยรู้ไหม?” ยงกุกพูดขณะที่แบกเจโล่ไว้บนหลัง
ดูเหมือนจะไม่หนักสักกะนิดในสายตาของคนอื่น
“พี่ฮิมชานผมก็อยากขี่หลังอ่ะ”
ยองแจที่เห็นเจโล่กับยงกุกก็หันมาพูดกับฮิมชานพร้อมยิ้มหวานใส่
“ถ้าเบาเท่าเจโล่พี่จะแบกทั้งวันเลยครับ
แต่ตอนนี้ที่รักของพี่ชักจะกลมมากเกินไปแล้วนะครับ!!” ยองแจที่ได้ยินฮิมชานพูดแขวะใส่ก็เกิดอารมณ์หงุดหงิดขึ้นมาทันทีที่ได้ยิน
“ใช่สิ ผมมันไม่น่ารัก
ผมขี้บ่น แล้วก็อ้วนกลมด้วย ชิ! ที่ฟันพี่ยังเหยินได้เลย
ทำไมผมจะอ้วนตุ๊บไม่ได้ล่ะ” ว่าแล้วยองแจก็เดินสะบัดก้นอวบๆ
หนีกลับบ้าน
“ถ้าไงก็คุยกันไปก่อนนะครับ
ผมขอตัวไปง้อยองแจก่อนนะครับ” ฮิมชานต้องรีบเอ่ยลากับลุงมินซูก่อนจะวิ่งตามออกไป
ตอนนี้ในบ้านก็คงจะมีแค่ลุงมินซู
แดฮยอนกับจองอบที่ยังนั่งเงียบไม่พูดไม่จาอะไร จนสุดท้ายคนที่เพิ่งจะประกาศตัวว่าเป็นพ่อก็ต้องยอมแพ้
“งั้นลุงกลับก่อนแล้วกันนะ
เอาไว้แดฮยอนสบายใจเมื่อไหร่ค่อยคุยกันอีกทีก็ได้ ลุงกลับแล้วนะจองอบ” แดฮยอนไม่สนใจจะฟังจึงต้องหันไปคุยกับจองอบแทน
“ครับ
ผมจะช่วยอีกแรงนะฮ่ะ” จองอบพูดให้กำลังใจกับว่าที่พ่อสามีพร้อมรอยยิ้มสดใสที่ช่วยให้คนแก่ใจชื่นขึ้นอีกนิด
หลังจากที่ทุกคนออกไปกันหมดก็เหลือแค่แดฮยอนกับจองอบที่นั่งอยู่ด้วยกันเพียงลำพัง
“ไม่เป็นไรนะฮ่ะพี่แดฮยอน
อย่าทำหน้าแบบนั้นสิฮ่ะ” จองอบมองแดฮยอนด้วยสายตาห่วงใยที่อีกคนก็รับรู้ถึงมันได้
ก่อนจะพูดในสิ่งที่จองอบคาดไม่ถึงออกมา
“พี่อยากกอดจองอบจังเลยตอนนี้”
เขาอยากจะได้รับความรักจากจองอบมากกว่าครั้งไหน
“แต่ว่าเราเพิ่งจะ..”
ก็จริงอย่างที่จองอบว่า
เพราะเขาสองคนเพิ่งจะกอดกันกลมก่อนจะเกิดเรื่องกับยงกุก
“แต่ตอนนี้พี่อยากนี่ครับ
จองอบให้พี่ได้ใช่ไหม?” แดฮยอนไม่รอคำตอบ เขาจับจองอบแบกขึ้นบ่าก่อนจะเดินเข้าห้องนอนไป
“พี่แดฮยอนใจเย็นสิครับ
ผมยังเจ็บอยู่เลยนะ” เขาเพิ่งจะใช้เรี่ยวแรงของตัวเองกับแดฮยอนไปจนหมดตั้งแต่ตอนกลางวันแล้ว
ส่วนตอนนี้เขาเองก็ชักจะไม่ไหวแล้วเหมือนกัน
“พี่ไม่เคยขัดใจจองอบเลยนะ
เพราะงั้นคราวนี้ห้ามขัดใจพี่เด็ดขาด” ว่าแล้วแดฮยอนก็จัดการจองอบจนร้องครางไม่เป็นภาษา
อาจจะเพราะจองอบสอนภาษารักให้เขารู้มามากเกินไป ทุกอย่างที่จองอบชอบให้เขาทำ
วันนี้เขาขนมันออกมาใช้จนหมดทุกท่วงท่าลีลาร้อน
ส่วนจองอบที่เคยหื่นกระหายตอนนี้กลับตามอารมณ์ของแดฮยอนไม่ทัน
เพราะมันร้อนแรงจนแทบจะทำให้คลั่งด้วยซ้ำ
แต่ทั้งที่มีความสุขมากขนาดนี้แดฮยอนกลับไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลยสักนิด
“อ่าๆๆ ฮือๆ..
พี่แดฮยอน!” จองอบที่เริ่มจะแขนขาชาไปหมดก็ต้องร้องประท้วงออกมาในที่สุด
“พอเถอะฮ่ะ ผมรักพี่นะ”
แดฮยอนที่ได้ยินถ้อยคำบอกรักแสนหวานจากคนในอ้อมกอดก็ผ่อนแรงของตัวเองงและดึงอีกคนให้อยู่ในบนตัก
ก่อนจะจูบจองอบอย่างนุ่มนวลจนทำให้จองอบเคลิ้มยอมตามใจเขาต่ออีกนิด
ก่อนจะไปถึงจุดหมายปลายทางพร้อมกัน
“พี่รักจองอบนะ
รักมายเลยด้วย” แดฮยอนบอกรักจองอบก่อนจะดึงเอาจองอบมากอดไว้
“ผมก็รักพี่แดฮยอนนะฮ่ะ”
จองอบที่ได้รับความรักมาเต็มๆ ก็หมดแรงหลับไปในอ้อมกอดนั้น
ส่วนเจโล่ที่อยู่บนหลังอุ่นของยงกุกก็หลับไม่รู้เรื่องเพราะเหนื่อยมาทั้งวัน
“เจโล่ครับถึงบ้านแล้วนะ”
ยงกุกพูดปลุกเจโล่เบาๆ เพื่อหยั่งเชิงดูก่อนว่าหลับสนิทแต่ไหน
แต่เจโล่ไม่มีท่าทีใดๆ
ตอบกลับมายงกุกจึงหยิบกุญแจออกมาเปิดประตูบ้านแล้วพาเด็กน้อยขึ้นบ้านนอน
โดยพยายามทำให้นุ่มนวลที่สุดเพราะกลัวว่าเจโล่จะตื่น แต่พอวางเจโล่ลงบนเตียงได้
ยงกุกก็ได้แต่ถอดถอนใจเพราะรอยช้ำที่มือของเจโล่มันปรากฏขึ้นมาจนเขาโมโหตัวเองที่ไม่ยอมพาเจโล่ออกไปด้วย
ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ต้องมาเจออะไรแบบนี้
ยงกุกจับมือของเจโล่มาวางไว้ข้างแก้มของตัวเองก่อนจะจูบลงเบาที่รอยแผลช้ำที่ข้อมือของเจโล่อย่างทะนุถนอม
น้ำตาของยงกุกเริ่มไหลรินออกมาเมื่อคิดถึงคนที่เขาเฝ้าถนอมต้องโดนทำร้าย
“พี่ยงกุกฮ่ะ
ร้องไห้ทำไมครับ?” เจโล่ตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกได้ว่าอีกคนร้องไห้อยู่
“พี่ขอโทษนะครับ”
ยงกุกยังคงรู้สึกผิดไม่หาย
เจโล่ที่เห็นยงกุกเป็นแบบนั้นก็ลุกขึ้นมากอดยงกุกเอาไว้ให้แน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้
“อย่าโทษตัวเองแบบนั้นสิฮ่ะ
พี่ยงกุกช่วยผมไว้ต่างหาก” เจโล่ดีใจมากที่ยงกุกกลับมาถึงบ้านได้ทัน
ทำให้เขาไม่แปดเปื้อนมากไปกว่านั้น
“พี่ยงกุกฮ่ะ
พี่บอกว่าจะทำให้ผมลืมไม่ใช่หรอฮ่ะแล้วทำไมพี่จำมันซะเองแบบนี้ล่ะ”
เจโล่พูดก่อนจะโน้มหน้าเข้าไปใกล้ยงกุกจนปลายจมูกชนกัน
“ทำให้ผมจำได้แต่พี่ยงกุกสิฮ่ะ”
ยงกุกที่ได้ยินแบบนั้นก็จูบเจโล่ทันที
ริมฝีปากอวบอิ่มกำลังกลืนกินริมฝีปากเรียวเล็กอย่างหิวโหย
ลิ้นร้อนแทรกตัวเข้าไปเพื่อลิ้มรสชาติความหวานของอีกคนอย่าตะกละ มือเรียวค่อยๆ
รื้อเสื้อของร่างบางออกก่อนจะระดมจูบเร้าร้อนใส่อีกรอบ
แล้วจึงถอดเสื้อของตัวเองออกตาม
ลิ้นอุ่นๆ
ตอนนี้กำลังลิ้มรสคอเรียวยาวของคนที่อยู่ในอ้อมกอด
แต่ก่อนริมฝีปากอวบหนาจะเลื่อนลงไปอย่างใจอยากก็โดนเจโล่ดึงขึ้นไปตัวขึ้นไป
“จูบผมอีกหน่อยสิฮ่ะ”
เจโล่ที่ตอนนี้กำลังทำหน้าเขินอายเพราะอยากได้รับจูบจากยงกุกก็อดทำให้ยงกุกอมยิ้มไม่ได้
เจโล่เองก็คงต้องการเขาเหมือนกันในตอนนี้
ทั้งที่ริมฝีปากกำลังแลกเปลี่ยนความหวานให้แก่กัน
มือเรียวก็เลื่อนไปปลดกางเกงของร่างบางออกก่อนจะค่อยๆ
ประโลมรักให้อีกคนอย่างอ่อนหวาน
ทุกสัมผัสล้วนเต็มไปด้วยความรักที่ทะนุถนอมของอีกคน
เจโล่ไม่ยอมปล่อยมือจากรอบคอของยงกุกเลย
ส่วนยงกุกเองก็โอดรัดรอบกายเจโล่ไม่วางเช่นกัน
“อ้า!! พี่ยงกุกฮ่ะ” เจโล่ที่ตอนนี้เริ่มจะทนไม่ไหวก็เผลอกัดเข้าที่ไหล่ของยงกุกเพราะความเจ็บปวด
ไม่ต่างจากยงกุกที่กำลังกอดรัดเจโล่แน่นกว่าเดิม
“พี่รักเจโล่นะครับ”
ยงกุกบอกรักอีกครั้งก่อนจะมอบจูบเร้าร้อนให้กับเจโล่
นิ้วมือเล็กๆ
วางไว้บนไหล่ของยงกุกก่อนจะดึงยงกุกมาจูบอีกครั้ง
“ผมก็รักพี่ยงกุกฮ่ะ”
ยงกุกมองเจโล่ด้วยสายตาอ่อนหวานหยาดเหยิ้ม
ก่อนจะเริ่มปรนเปรอความรักให้กับเจโล่อย่างเผ็ดร้อน
จนผ้าปูที่นอนหลุดลุยเพราะแรงดึงของเจโล่
“พี่ยงกุกฮ่ะ.. อือๆๆๆ”
เล็บของเจโล่จิกลงเบาๆ
ที่ไหล่ของยงกุกพอให้ได้รู้ว่าเริ่มรุนแรงเกินไป จนยงกุกต้องผ่อนแรงเพื่อเอาใจร่างบางที่ตัวสั่นเทิ้มก่อนจะดึงขึ้นมากอดเอาไว้แน่นเพื่อปลอบอีกคนแทน
สัมผัสรักอ่อนโยนไม่มีใครเหมือน
ยงกุกไม่ตามใจตัวเองเขาจะคอยมองดูเสมอว่าว่าเขาทำรุนแรงกับเจโล่เกินไปรึเปล่า
จนเจโล่เริ่มปรับตัวให้คล้อยตามยงกุกได้เต็มที่เขาจึงลงมือบรรเลงเพลงรักอย่างที่เขาต้องการ
ซึ่งเจโล่ก็มีความสุขเช่นเดียวกับเขา
“พี่พาเจโล่ไปอาบน้ำดีกว่านะ
ดูสิเหงื่อท่วมตัวเลยเนี่ย” ยงกุกพูดก่อนจะอุ้มเจโล่ไปที่ห้องน้ำเพื่อจัดการล้างตัวให้สะอาด
ส่วนเจโล่ก็เอาแต่ก้มหน้าหงุดๆ เพราะทั้งคู่ยังคงเปลือยเปล่าไม่ต่างจากตอนที่ร่วมรักสักเท่าไหร่
จนยงกุกต้อเอ่ยปากแซวเพราะอดไม่ได้
“เขินแบบนั้น
อยากให้พี่ทำแบบเมื่อกี้อีกรึไงเจโล่?” แต่เจโล่ไม่ตอบ
เขาเลือกที่จะดึงยงกุกเข้ามาจูบแทน
“ตกลงว่าใช่ ใช่ไหมครับ?”
ว่าแล้วก็ไม่ต้องอาบมันแล้วน้ำ ต่ออีกรอบเลยแล้วกัน
“กอดผมแน่นๆ นะฮ่ะ!”
เจโล่พูดพร้อมส่งสายตาให้ยงกุก
“ครับ
พี่จะกอดเจโล่แน่นๆ แล้วก็จะอ่อนโยนที่สุดเลยนะ” เขามีความสุขที่ได้สัมผัสเจโล่แบบนี้
เขาชอบที่เจโล่ต้องการเขา
เพราะแม้แต่ในกิจกรรมรักเจโล่ก็มักจะขอให้เขากอดเอาไว้ตลอด ไม่รู้ว่าทำไม
แต่เขามีความสุขที่ได้ทำมันทั้งที่ยังกอดเจโล่เอาไว้แน่น
“เราคงต้องเอาผ้าปูที่นอนไปซักแล้วล่ะฮ่ะ
ถ้าให้แม่ซักให้แม่ต้องรู้เรื่องแน่ๆ อ่ะ” เจโล่บอกยงกุกที่กำลังจัดการเปลี่ยนผ้าปูที่นอนที่ถูกทำเละออก
“นอนก่อนดีกว่านะครับ
พรุ่งนี้พี่จะซักให้เองนะ” ยงกุกดึงเจโล่ลงมานอนกอดอีกครั้ง
ก่อนจะหลับฝันหวานด้วยกันทั้งคู่
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น