เพราะทุกคนพากันคุยสนุกกว่าจะรู้ตัวว่าควรกลับก็ปาเข้าไปสามทุ่มแล้ว
ตอนนี้พี่ยงกุกเริ่มหมดแรงเพราะฤทธิ์ยาที่ดื้อมานาน
พ่อกับแม่ของเจโล่ก็ต้องกลับเพราะพ่อเองก็มีงานในตนเช้า
และพวกผมเองก็ควรจะกลับบ้านกันได้แล้วสักที เมื่อสมควรแก่เวลาพวกเราจึงแยกย้ายกันกลับบ้าน
ซึ่งผมเองก็ต้องยอมแพ้ต่อคนดื้อแพ่งอย่างพี่ฮิมชานที่จะมาส่งที่บ้านให้ได้
และผมเองก็ไม่รู้จะขัดให้ได้อะไรขึ้นมา
“กลับกันดีๆ
นะฮ่ะ!”
เจโล่ที่ออกมาส่งทุกคนที่หน้าทางออกของโรงพยาบาลกำลังโบกมือด้วยความสดใสตามแบบฉบับของเจ้าตัว
และคนที่อยู่ข้างผมในตอนนี้ก็ดูจะมีความสุขอยู่ไม่น้อยที่ได้เห็นนั่นทำให้ผมรู้สึกเจ็บจี๊ดไม่น้อยเลย
นี่ก็ผ่านมาสองเดือนกว่าแล้วหลังจากผมสารภาพรักไปและพี่ฮิมชานก็ยอมรับแต่โดยดี
เราใช้เวลาอยู่ด้วยบ่อยพอๆ กับสองคู่ที่เหลือ ต่างกันแค่ผมไม่รู้จะหวานยังไงเพราะผมเองที่ทำร้ายตัวเอง
ทั้งที่รู้ว่าพี่ฮิมชานชอบเจโล่แต่ผมก็สารภาพรักออกไป
พี่ฮิมชานทำเหมือนผมเป็นคนรักของพี่เขาทุกอย่าง
ยกเว้นแค่ผมยังไม่อาจเชื่อได้ว่าในใจของพี่ฮิมชานมีผมแค่คนเดียว
กว่าจะมาถึงบ้านของผมก็เล่นสี่ทุ่มครึ่งเข้าไปแล้ว
วันนี้มันมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากเกินไปแล้ว ผมคงเหนื่อยล้ามากเกินไปหน่อย
นั้นทำให้ผมแทบจะไม่คุยกับพี่ฮิมชานเลยตลอดทางกลับบ้าน
“ใจคอจะไม่คุยกับพี่เลยรึไงฮ่ะยองแจ?
จะเย็นชากับแฟนตัวเองมากเกินไปแล้วนะ” เสียงของฮิมชานบ่งบอกถึงอาการน้อยใจ
“ผมแค่เหนื่อยนะ
วันนี้มีเรื่องอะไรบ้างพี่ก็น่าจะรู้นิ”
ยองแจที่ยังสะบัดความคิดออกจากหัวไม่ได้ก็เผลอตอบกลับฮิมชานด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ทำเอาฮิมชานเริ่มมีน้ำโหนิดๆ
“ทำไมไฟในบ้านปิดไว้ล่ะยองแจ?”
ฮิมชานยังคงถามยองแจด้วยความเป็นห่วง
เพราะตอนนี้ยังไม่ดึกขนาดที่พ่อกับแม่ของยองแจจะปิดไฟนอนสักหน่อย
“ไปต่างจังหวัดนะ
พ่อมีงานก็เลยพาแม่ไปเปลี่ยนบรรยากาศนิดหน่อย”
ยองแจดูเหมือนจะใจลอยไปไกลเพราะความฟุ้งซ่านที่โถมเข้ามาไม่ยอมหยุด
“พี่เหนื่อยอ่ะ
ขอน้ำเย็นๆ กินหน่อยได้ไหมยองแจ?”
ฮิมชานที่กำลังทำหน้าอ้อนวอนก็ทำให้ยองแจสงสารเล็กน้อยจนต้องยอมให้เข้าบ้านมาพักก่อนจะไล่กลับทีหลัง
“พี่หาอะไรกินเลยแล้วกัน
ผมเหนื่อยขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ” ผมไม่ได้เหนื่อยที่ต้องวิ่งวุ่นไปมา
แต่ผมเหนื่อยที่ต้องเห็นจองอบกับพี่แดฮยอน ผมเหนื่อยที่ต้องเห็นเจโล่กับพี่ยงกุก
แล้วยังจะมีพ่อกับแม่ของเจโล่มาสมทบอีกคู่ ผมเองก็อยากมีคนรักที่ดูแลผมดีแบบนั้นนะ
ตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลมา
ยองแจแทบไม่คุยกับผมเลยสักคำถ้าผมไม่เป็นฝ่ายเริ่มก่อน
ตอนนี้ก็ไม่ต่างทั้งที่อยู่ในบ้านกับผมสองคน
ถ้าเป็นคู่อื่นคงจะหวานกันจนมดเบาหวานขึ้น
แต่นี่กลับทิ้งเขาให้หาน้ำกินเองแล้วหนีไปอาบน้ำซะงั้น
จริงอยู่ที่เริ่มแรกผมเป็นคนที่สองจิตสองใจแต่ตอนนี้ไม่ใช่แบบนั้นแล้ว
แทบทุกวันที่ผมเห็นหน้ายองแจ เราใช้เวลาอยู่ด้วยกันก็มาก
แต่กลับกลายดูเหมือนว่ายิ่งผมเริ่มรักยองแจมากขึ้นเขาก็ยิ่งเย็นชาใส่ผมมากขึ้น
นั่นทำให้ผมเริ่มจะหมดความอดทนเข้าไปทุกที
“อาบน้ำเสร็จแล้วหรอยองแจจ๋า”
ว่าแล้วก็ขอหวานใส่สักหน่อยเผื่อจะยิ้มให้ผมบ้าง
“อืมม
แล้วพี่ยังไม่กลับอีกหรอเนี่ย?” นี่กะจะไล่กลับบ้านเลยรึยองแจ
“ผมอยากนอนแล้ว
พี่กลับเถอะ!” ฮิมชานคนนี้มีหัวใจนะครับยองแจ
“พี่ยังไม่อยากกลับอ่ะ
หาหนังดูดีกว่านะๆๆๆ”
ว่าแล้วผมก็อ้อนวอนแกมบังคับทั้งดึงทั้งฉุดทั้งลากยองแจขึ้นไปที่ห้อง
“ข้างล่างก็มี
จะมาดูอะไรบนห้องผมเนี่ย ก็บอกว่าง่วงไงพี่ไม่เข้าใจหรอ คิมฮิมชาน?”
ตอนนี้ผมโกรธจริงๆ แล้วนะยองแจ
ก่อนที่ยองแจจะได้โวยวายมากไปกว่าที่เป็นอยู่
ฮิมชานก็พุ่งตัวเข้าใส่แล้วผลักยองแจลงไปนอนบนเตียงได้ก่อน
มือทั้งสองข้างกดแขนของยองแจจนเจ้าตัวขยับไม่ได้ และยองแจเองก็สัมผัสได้ถึงความรุนแรงของการบีบข้อมือของฮิมชานจึงได้รู้ว่าทำให้ฮิมชานโกรธเข้าให้ซะแล้ว
“ผมขอโทษ! ผมแค่เหนื่อยและอยากจะนอนก็เท่านั้นเอง”
อาจเป็นเพราะเขาเจ็บจากการใช้กำลังของฮิมชาน รึอาจจะเป็นเพราะเหนื่อยมากจริงๆที่ทำให้ตอนนี้เริ่มมีหยดน้ำใสไหลลงที่ข้างแก้ม
แต่ฮิมชานที่กำลังโกรธกลับมองไม่เห็นมัน
“ทำไมถึงเย็นชาใส่พี่ตลอดเลยยองแจ
พี่พยายามทำดีทุกอย่างให้แต่ดูเหมือนยองแจไม่เคยชอบอะไรที่พี่ทำเลย?”
ผมสงสัยมาตลอด ทั้งที่ยองแจเป็นคนสารภาพรัก
แต่ทำไมเขาถึงเย็นชาใส่ผมไม่เว้นแต่ละวัน
“ผมแค่ไม่รู้จะทำยังไง
ผมไม่รู้ว่าพี่รู้สึกยังไงกับผมกันแน่ แค่เล่นไปวันๆ หรือว่ารู้สึก..”
ที่แก้มของยองแจมีหยดน้ำตาเปื้อนอยู่หากแต่ไม่ใช่ของเขาเอง
“พี่รู้สึกยังไงนายไม่รู้หรอ
ที่ทำขนาดนี้ยังไม่เข้าใจอีกรึไงยองแจ?” น้ำเสียงของฮิมชานสั่นเครือจนยองแจที่เอาแต่ใช้ความรู้สึกของตัวเองเป็นใหญ่เริ่มรู้สึกผิดต่อคนที่กำลังคร่อมร่างของเขาอยู่
แต่ยังไม่ได้เอ่ยปากขอโทษฮิมชานก็เป็นฝ่ายปล่อยมือออกก่อนจะลุกเดินไปที่ประตูห้อง
“ผมขอโทษ”
ยองแจที่เห็นฮิมชานกำลังจะเดินออกจากห้องก็ต้องรีบวิ่งไปกอดฮิมชานเอาไว้
แขนทั้งสองข้างของยองแจสวมกอดร่างของฮิมชานจากทางด้านหลัง
น้ำตาไหลออกมาไม่ยอมหยุดจนเปียกเสื้อของฮิมชาน น้ำตาอุ่นๆ
ของยองแจทำให้เขาเข้าใจว่าที่ผ่านมายองแจยังรักเขาเหมือนเดิม
แต่นั่นยิ่งทำให้ไม่เข้าใจมากกว่าเดิม
“ถ้าไม่อยากให้พี่ไปขนาดนั้น
ทำไมถึงไล่พี่กลับล่ะ?”
“พี่รักแค่ผมใช่ไหม
มีแค่ผมที่พี่ชอบใช่ไหม?” ฮิมชานกุมมือของยองแจก่อนจะดึงให้คลอบออกจากกัน
เพื่อที่เขาจะหันหน้ามามองอีกคนได้ชัดเจน
“พี่อาจจะเคยมีคนอื่นในหัวรกๆ
ของพี่ แต่ตอนนี้พี่ไม่รู้ว่าตั้งแต่ตอนไหนที่พี่มีแค่นายนะยองแจ” ยองแจไม่เคยได้รู้เลย
เพราะเขาเอาแต่ก่อกำแพงบางกั้นระหว่างเขากับฮิมชานเอาไว้
จนกระทั่งวันนี้ที่ฮิมชานเป็นคนทำลายกำแพงนั้นลง
ยองแจถึงได้รู้ว่าคนที่เขารักมาตลอดก็ได้มอบความรักคืนตอบเขาแล้วเช่นกัน
“พี่รักนายนะยองแจ
รักมากด้วย!” ริมฝีปากที่เขาโหยหามาตลอด ตอนนี้ฮิมชานกำลังมอบมันให้กับเขา
“ยองแจเป็นของพี่นะ”
ฮิมชานบรรจงจูบรสหวานของเขาให้กับยองแจอย่างเร้าร้อน
สัมผัสอุ่นที่สอดแทรกเข้าไปในริมฝีปากสวยของยองแจกำลังดื่มกินรสรักอย่างตะกละ
จนยองแจส่งเสียงประท้วงเพราะหายใจขาดช่วงไปนาน
“อื้ม..”
ฮิมชานที่รู้ว่ายองแจต้องการอากาศก็ผละริมฝีปากออกช้าๆ
ก่อนจะเลื่อนสัมผัสร้อนไปไว้ที่ซอกคอแทน
สัมผัสอ่อนนุ่มจากปลายลิ้นกำลังวาดรอยรักลงบนคอของยองแจอย่างนุ่มนวลจนคนรับสัมผัสเผลอครางไม่รู้ตัว
“อา... อื้ออ
พี่ฮิมชาน”
มือทั้งสองข้างนั้นกำลังโอบรัดรอบตัวของฮิมชานก่อนจะเลื้อนไปวางบนเส้นผมนุ่มสลวยของคนตะกละ
“ผมรักพี่นะ”
ฮิมชานถอมริมฝีปากออก ก่อนจะเงยหน้ามองอีกคนที่เพิ่งบอกรักให้ได้ยิน
“พี่ไม่หยุดแค่นี้แล้วนะยองแจ”
ว่าแล้วก็โน้มตัวไปกระซิบที่ข้างหูและขบเบาๆ เพื่อยั่วอีกคนเล่น
ก่อนจะอุ้มยองแจไปที่เตียงเพื่อปฏิบัติการรักหวานชื่นดั่งตั้งใจ
เวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้วนะที่ผมถูกผู้ชายคนนี้กอดเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
ผมกำลังมองดูใบหน้าหล่อที่ทำให้ผมตกหลุมรักใกล้กว่าที่เคยฝันถึง
รู้สึกได้ถึงสัมผัสที่วาบวามแต่อบอุ่น
ความรู้สึกเร้าร้อนเหมือนร่างกายจะแตกเป็นเสี่ยงๆ
แต่ผมกลับมีความสุขจนบรรยายไม่ถูก ผมต้องการเขาและเขาก็ต้องการ
เราต่างเป็นของกันและกันต่างคนต่างมอบสัมผัสรักไม่ยอมหยุด
จนตอนนี้ผมเริ่มจะหมดแรงแล้วสิ
“พี่ฮิมชานอ่ะ
ผมไม่ไหวแล้วนะ”
เล็บที่จิกเข้าที่แผ่นหลังขาวสวยเป็นหลักฐานได้ดีว่ายองแจไม่ไหวกับการปรนเปรอเกินพิกัดของฮิมชานอีกแล้ว
ผมคงทำอะไรมากเกินไปสินะ
เด็กน้อยของผมถึงกับสลบไปทั้งอย่างนี้นะ
“พี่ขอโทษนะยองแจ
ที่พี่ต้องการยองแจมากเกินไปหน่อยนะ”
ว่าจบก็จูบลงบนแก้มป่องก่อนจะจับร่างหมดสติของยองแจให้นอนในท่าที่สบายแล้วก็ทิ้งตัวลงนอนข้างๆ
กัน
“สงสัยจะมากเกินไปจริงๆ
อ่านะ ยองแจถึงกับหลับเลยหรอเนี่ย” แม้แต่ตอนหลับยังน่ารักเลย
ยังงี้จะไม่ให้ผมทำเกินกว่าเหตุได้ยังไงกัน
“ยังไม่ตื่นอีกหรอครับที่รัก”
ตอนนี้น่าจะสายแล้วสิ ผมจะโดนยองแจโกรธรึเปล่าที่ไม่ยอมปลุกนะ
“ฮื้อ..
กี่โมงแล้วฮ่ะ” เหมือนจะตื่นแล้วสินะ
“เลยเที่ยงแล้วอ่ะ”
“อะไรนะ
ทำไมพี่ไม่ปลุกผมล่ะ?” ว่าแล้วก็รีบลุกพรวดพราดเพราะโมโหที่อีกคนไม่ยอมปลุกให้ไปโรงเรียน
แต่ก็ต้องสะดุดกึ๊กเพราะเจ็บแปลบที่ช่วงล่าง
ก่อนจะหันไปมองตัวต้นเหตุที่กำลังทำหน้าสบายอารมณ์เกินหน้าเกินตา
“ผมลุกไม่ไหวเลยเนี่ยเห็นไหม?”
ก็เจ็บจริงๆ นี่หน่า อย่างกับสะโพกจะหลุดงั้นแหล่ะ คนบ้านี่ไม่รู้ไปตายอดตายอยากมาจากไหน
แต่พอคิดถึงเรื่องเมื่อคืนก็ต้องหมุดเข้าผ้าห่มแทน
“จะหลบทำไมอ่ะที่รัก”
คนบ้าตัณหากลับจอมตะกละกำลังกอดรัดอีกคนที่หมดแรงสู้จนลุกไม่ขึ้น ทำได้แค่ดิ้นเบาๆ
อยู่ใต้ผ้าห่ม
“ถ้ารู้ว่าพี่จะเป็นแบบนี้ผมไม่ยอมพี่หรอก”
แก้มป่องๆ โผล่ออกมาจากผ้าห่มเล็กน้อยพร้อมเสียงประท้วง
“ก็พี่รักยองแจนี่ครับ
รักมากก็เลยจัดหนักอ่ะ” เล่นเอาผมแทบตายแต่ทำไมยังสบายดีมีสุขอยู่ได้ล่ะเนี่ย
“พี่ไม่เป็นอะไรเลยรึไงเนี่ย?
ไม่คิดจะหมดแรงสักนิดเลยรึไงกัน??”
คำถามของยองแจเล่นเอาฮิมชานยิ้มหวานใส่พร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ปรากฏตามมาติดๆ
“ให้ต่ออีกรอบพี่ก็ไหวนะจ๊ะที่รัก!” แต่คำตอบของฮิมชานนี่สิ เหมือนจะเป็นการฆ่าตัวตายทางอ้อมซะมากกว่า
เพราะคนหมดแรงลุกไม่ไหวกำลังทุบตีเขาด้วยมือทั้งสองข้างแบบไม่ยั้ง
ก่อนจะถูกรวบข้อมือทั้งสองข้างเอาไว้ได้ก่อน
“ถ้ามีแรงตีพี่ขนาดนี้แสดงว่ายังไหวใช่ไหมเอ่ย?”
พูดจบฮิมชานก็โน้มหน้าเข้าไปใกล้ๆ
“ผมไม่ตีแล้ว แต่อย่าทำอะไรผมนะ”
ผมเข็ดแล้วจริงๆ นะ ผมไม่กล้าเผลอตัวให้พี่ฮิมชานทำอะไรตามใจอีกแน่ๆ
คนบ้าอะไรคึกยังกะม้า
“งั้นต่อไปนี้ยองแจต้องทำตัวดีกับพี่นะครับ
ตกลงไหม?” ตอนนี้ฮิมชานผู้นี้ถือแต้มเป็นต่อแล้วครับพี่น้อง
“ก็ได้!
ผมจะทำตัวดีๆ ฮ่ะ เพราะงั้นปล่อยผมนะ”
ทั้งโกรธทั้งอายแต่จะขัดใจคนที่พร้อมจะขย้ำเขาทุกเมื่อก็ไม่ได้
ก็เลยต้องยอมแต่โดยดีทั้งที่ไม่อยากสักนิด
“เจโล่!
นี่เลยเที่ยงแล้วนะยองแจยังไม่มาโรงเรียนอีกนะ”
จองอบที่กำลังเป็นห่วงเพื่อนได้แต่บ่นทั้งวัน เพราะโทรไปก็ไม่รับสายสักที
“แต่พี่แดฮยอนบอกแล้วนี่ว่าเมื่อวานพี่ฮิมชานไปส่งถึงบ้านเลยนะ”
แล้วก็คิดได้
“หรือว่า??”
ทั้งเจโล่กับจองอบต่างก็คิดได้พร้อมกัน
“สงสัยว่าจะอยู่กับพี่ฮิมชานตั้งแต่เมื่อคืนแน่ๆ
เลย” จองอบผู้มากประสบการณ์พูดออกมาอย่างมั่นใจ ก็แหม.. เขาเองก็เคยอยู่กับพี่แดฮยอนทั้งคืนเหมือนกันนี่นะ
ต่างกับเจโล่ที่อยู่เฝ้ายงกุกทั้งคืน
และคงอีกหลายคืนที่เขาต้องอยู่เฝ้ายงกุกที่โรงพยาบาล
ยิ่งคิดถึงเรื่องของยองแจเขาก็ยิ่งเป็นห่วงเอกราชของตัวเองขึ้นมา
ก่อนจะเผลอเอื้อมมือขึ้นมาไขว่ไว้ที่อกของตัวเอง
“ฉันคงไม่ใช่รายต่อไปใช่ไหมเนี่ย?”
พูดจบก็จินตนาการบรรเจิดอยู่คนเดียว
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น