uncopy

วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

1st 35 เรารักกัน

ชั่วโมงแห่งการรอคอยสิ้นสุดลง ยงกุกที่ดูเหมือนจะยังหมดสตินอนอยู่บนเตียงคนป่วยโดยมีเจโล่นั่งมองอีกคนไม่วางตา ในใจก็ได้แต่นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นได้คิดสงสัยว่าคนที่หลับใหลจะมองเขายังไงเมื่อยามที่ตื่นลืมตาขึ้นมา
เจโล่พี่ยงกุกยังไม่ฟื้นอีกงั้นหรอ?” จองอบถามขึ้นมาก่อน ในตอนนี้บรรดาคนเจ็บที่อาการไม่หนักก็พากันมาเยี่ยมคนที่ยังไม่ได้สติและอีกคนที่พวกเขาเป็นห่วงมากกว่า คนที่ตอนนี้กำลังรู้สึกแย่กับตัวเอง
พวกนายไม่กลัวฉันหรอ??” คำที่เจโล่พูดขึ้นมาทำเอาจองอบกับยองแจต้องรีบเดินเข้ามากอด
ทำไมฉันต้องกลัวนายด้วยล่ะเจโล่? นายช่วยพวกเรานะ!” ยองแจพูดพร้อมรอยยิ้ม
แต่พี่กลัวนะเจโล่!” ฮิมชานที่พูดออกมาแบบนั้นก็โดนยองแจจ้องหน้าจะกินเลือดกินเนื้อ
ขอโทษฮ่ะ!!!” เจโล่หันหน้าหลบทุกคนและมองไปที่ยงกุกอย่างเศร้าๆ
พี่กลัวแทนคนที่คิดไม่ดีกับพวกนายสองคนนะ ยงกุกก็เป็นพวกบ้าเลือด ส่วนนายก็เป็นพวกที่เก่งจนน่ากลัว สรุปว่าคนที่มาหาเรื่องพวกนายสองคนคงจะโง่มากหรือไม่ก็อยากตายเต็มทีนะ!!” ฮิมชานพูดจบก็เดินมาหาเจโล่พลางลูบหัวของเจโล่อย่างเอ็นดู

เอามือแกออกเลย ถ้าไม่อยากให้ฉันลุกขึ้นไปเตะ!!!” ยงกุกดูเหมือนจะฟื้นขึ้นมาเพราะความอึกทึกของคนในห้องนั่นแหล่ะ ถึงจะน่าหงุดหงิดที่โดนปลุกแต่เขาก็ยิ้มให้กับทุกคน
สงสัยจะโดนฟาดแรงกว่าที่คิดแฮ่ะ ยงกุกมันยิ้มอีกแล้วว่ะแดฮยอนไม่ลืมที่จะพูดกวนประสาทเพื่อนของเขา
ปวดหัวมากไหมครับ?” จองอบถามออกมาอย่างเป็นห่วง เพราะสภาพของยงกุกที่ทุกคนเห็นในตอนนั้นทำให้ทุกคนเป็นห่วงมาก
นิดหน่อยนะ ยังมึนๆ อยู่เหมือนกันพอยงกุกพูดแบบนั้นเจโล่ก็รีบเข้าไปมองหน้าใกล้ๆ
ให้ผมไปเรียกหมอไหมฮ่ะ??” ยงกุกที่เห็นเจโล่ที่แสนจะน่ารักเป็นห่วงเขาแบบนี้ก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาเพราะเด็กที่น่ากลัวคนนั้นหายไปแล้ว
ไม่ต้องหรอก แค่ให้ไอ้พวกนั้นออกไปจากห้องก็พอแล้วไอ้พวกนั้นที่ว่าก็ดูเหมือนจะรู้ตัวกันดี ก็เลยพากันเดินออกจากห้องไปโดยไม่ต้องรอให้คนมาไล่
ไปล่ะนะ ถ้าไงก็อย่าหักโหมนะเว้ยเดี๋ยวจะสลบอีกรอบไม่รู้ด้วย!!” ฮิมชานพูดประชดยงกุกก่อนจะปิดประตูพร้อมล็อกลูกบิดให้เสร็จสรรพ

หลังจากทุกคนออกไปกันหมดเจโล่ก็เงียบไป ดูเหมือนกำลังกลุ้มใจอย่างเห็นได้ชัด
พี่รักเจโล่นะ จำได้รึเปล่าครับ??” ยงกุกพูดกับเจโล่อย่างนุ่มนวล
ทั้งที่ผมไม่ต่างจาก... นักฆ่าผู้เลือดเย็นงั้นหรอครับ?” เจโล่พูดออกมาจนได้
เจโล่ของพี่ไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อยว่าแล้วยงกุกก็พยุงตัวเองขึ้นจากเตียงคนไข้ ก่อนจะยืนกอดเจโล่ที่หันหลังให้เขา แผ่นหลังนั้นดูเศร้ากว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก แขนของยงกุกโอบกอดเจโล่ไว้แน่น ท่อนแขนสัมผัสได้ถึงหยดน้ำที่ล่วงหล่นลงมา
แต่ผมเคยฆ่าคน เมื่อคืนผมก็เกือบจะฆ่าคนด้วย แถมวิธีที่ผมใช้มันก็น่ากลัวขนาดนั้นอีก ผมกลัวตัวเองนะฮ่ะพี่ยงกุก!!!” น้ำเสียงที่สั่นเครือทำเอายงกุกเจ็บปวดในหัวใจ ถ้าไม่ใช่ว่าเขาประมาทเกินไปก็คงไม่โดนทำร้ายง่ายๆ แบบนั้น เจโล่ก็คงไม่ต้องกลายคนบ้ากระหายเลือด
พี่ขอโทษทั้งที่สัญญาไว้แล้วว่าจะไม่ให้ตัวเองเจ็บตัวแต่พี่ก็ทำไม่ได้!!” เขารู้ดีกว่าใคร คนที่ทำให้จิโร่ตื่นขึ้นมาคือตัวเขาเอง คงเพราะเจโล่รักเขามากเกินไปห่วงเขามากเกินไปเรื่องแบบนั้นถึงได้เกิดขึ้นมา
แต่ว่าผม!!” ยงกุกใช้มือของตัวเองโน้มหน้าของเจโล่ให้เอียงหันกลับมาหาตนก่อนจะบรรจงจูบแสนหวานมอบให้อย่างอ่อนโยน
พี่จะกอดเจโล่เอาไว้เองพี่จะไม่ยอมให้เจโล่กลายเป็นคนที่เจโล่เกลียดกลัวหรอกนะ!!!” แววตาที่ห่วงหาอาทรนั้นบรรเทาความรู้สึกที่บอบช้ำได้เป็นอย่างดี
พี่ยงกุกจะหยุดผมใช่ไหม? พี่ยงกุกต้องอยู่กับผมตลอดไปนะฮ่ะ!!” เจโล่หันกลับมาจูบยงกุกอย่างโหยหาอ้อมกอดของคนตรงหน้า เขากลัวว่ายงกุกจะไม่รักเขาที่เป็นแบบนั้น

ชั่วโมงต้องมนตร์ของทั้งคู่ทำให้ความเจ็บปวดที่มีค่อยๆ จางหายไป ยงกุกที่เพิ่งจะฟื้นกำลังอุ้มเจโล่ไปวางลงบนเตียงคนไข้ของตัวเอง ก่อนจะเริ่มโลมไล้ความสุขให้คนเสียขวัญอย่างนุ่มนวล นิ้วเรียวยาวกำลังสัมผัสผิวนุ่มเนียนของร่างบาง ริมฝีปากหนากำลังดื่มกินความหวานจากริมฝีปากเรียวสวย ลิ้นยาวกำลังล่วงล้ำเพื่อลิ้มรสความอร่อยของอีกคนอย่างตะกละ
เสื้อของเจโล่ถูกรื้อขึ้นจนถึงลำคอเรียวยาว มือเล็กๆ ได้เพียงเกาะกุมไว้ที่ไหล่ของคนที่กำลังกลืนกินเขาอยู่ สัมผัสของยงกุกทำให้เจโล่แทบทนไม่ไหวจนเผลอข่วนไหล่งามของอีกคนจนเลือดซิบ ร่างบางที่เริ่มจะปล่อยอารมณ์ไปตามแรงปลุกเร้าของร่างหนากำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ
พี่ยงกุกฮ่ะ อ้า!!” ยงกุกถอยริมฝีปากหนาออกจากอกสวยของอีกคนที่ตอนนี้กำลังหน้าแดงเพราะฝีมือของตัวเอง
พี่จะไม่หยุดแค่นี้แล้วนะครับ!” ยงกุกพูดก่อนจะปลดกระดุมเสื้อคนไข้ของตัวเองออก และจัดการคร่อมอีกร่างเอาไว้ ตามด้วยการประโลมรักหวาบหวามให้คนที่เริ่มจะกอดเขาแน่นขึ้น
ก๊อกๆๆ ก๊อกๆๆ
สองร่างที่กำลังจะรวมกันเป็นหนึ่งได้แต่ทอดถอนหายใจทิ้ง เพราะถูกขัดจังหวะอีกครั้งแล้ว
เฮ้อ!! ทำไมถึงมีแต่คนชอบขัดจังหวะเราจังนะยงกุกต้องสงบสติตัวเองเล็กน้อยไม่ให้โมโห ต่างจากอีกคนที่กำลังหน้าแดงก่ำ ริมฝีปากเรียวเล็กที่ออกสีเรื่อจากรสจูบของอีกคน อย่างน้อยๆ ก็ยังโชคดีที่ทั้งคู่ยังไม่ได้ปลุกเร้าจุดสำคัญให้ตื่นขึ้นมา ไม่งั้นคงมีปัญหาแน่ๆ
ครับ!!” ยงกุกเลือกที่จะเดินไปเปิดประตูซะเอง เพราะเจโล่ยังคงข่มอารมณ์เขินอายของตัวเองได้ไม่หมด
ยงกุกฟื้นแล้วหรอ??” ยองเบที่เดินเข้ามาก่อนพูดทักอย่างรู้ทัน
หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยเพื่อนอีกสองคน แดซองและซึงรีที่เอ็นดูและรักเจโล่ไม่มากไม่น้อยกว่ายองเบเลยก็เดินเข้ามานั่งที่โซฟารับแขกภายในห้อง ก่อนจะไล่ให้ยงกุกกลับขึ้นไปนอนบนเตียงคนไข้ตามเดิม แต่ทั้งสามก็ต้องหงุดหงิดเพราะเจโล่ดันเดินตามไปนั่งลงข้างๆ ยงกุกที่เตียง
น้าจะไม่อ้อมค้อมนะเจโล่!! เจโล่กับยงกุกเป็นอะไรกัน??” ยองเบถามออกมาทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้ว
ผมกับเจโล่เรารักกัน!!” ยงกุกรู้ดีว่าคำถามนั้นถามเขาไม่ใช่เจโล่
รักแบบไหน?” ซึงรีโพลงถามขึ้นมาอย่างสงสัยใคร่รู้
รักแบบคนรัก!!” เจโล่ทำตัวไม่ถูกจึงกลายเป็นนั่งบิดไปบิดมาเพราะทำอะไรไม่ถูก แม้แต่กับพ่อกับแม่เขาสองคนก็ยังไม่เคยออกปากยอมรับแบบนี้ เจโล่ตอนนี้เริ่มจะกัดเล็บซะแล้วสิ
ไม่ต้องกลัวขนาดนั้นก็ได้มั้งเจโล่!!” แดซองยิ้มให้เจโล่อย่างใจดี
นายจะแต่งงานกับเจโล่รึเปล่า??” ซึงรีดูเหมือนจะเป็นคนที่กวนประสาทคนได้เก่งไม่แพ้แดฮยอน เพราะแต่ละคำถามของเขามันทำให้คนฟังปวดหัวไม่ใช่เล่น
แต่งสิครับ!! สิบแปดเมื่อไหร่ผมจะพาเจโล่เข้าโบสถ์เลย!!!” เจโล่ที่ได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับตาโต
พี่ยงกุกจะแต่งงานกับผมหรอฮ่ะ?” เจโล่ถามยงกุกแบบเขินๆ จริงๆ เขาก็อยากจะแต่งเหมือนกัน เพราะรูปถ่ายวันแต่งงานของพ่อกับแม่ทำให้เจโล่ฝันถึงวันแต่งงานมาตลอด แต่จะต่างกันก็ตรงที่เขาเป็นผู้ชายนี่แหล่ะ
แต่เจโล่ต้องใส่ชุดเจ้าสาวนะครับ!!” คำพูดของยงกุกทำเอาคุณน้าทั้งสามหัวเราะลั่นห้อง
ฉันละยอมแพ้นายเลยยงกุก เอาเป็นว่าฉันยอมรับนายในฐานะคนรักของเจโล่ก็ได้ แล้วก็อีกอย่างนึง นี่มันโรงพยาบาลนะถ้ายังไงรอกลับถึงบ้านก่อนค่อยทำอะไรตามใจอยากนะรู้ไหม?? อย่าให้มันเหมือนซึงฮยอนกับเซริวให้มากขนาดนี้ก็ได้นะเหมือนหรอ? เหมือนที่ว่านี่คืออะไรกันนะ
พ่อฟื้นแล้วหรอฮ่ะ?” เจโล่ที่ได้ยินว่าพ่อได้สติก็รีบจะวิ่งไปหา แต่ก็โดนคุณน้าทั้งสามขวางทางเอาไว้ก่อน
หลีกทางสิฮ่ะ ผมจะไปหาพ่อนะ!” เจโล่บ่นออกมาเพราะไม่เข้าใจว่าจะมาขวางเขาไว้ทำไม
ก็นะ.. สองคนนั้นก็กำลังทำอะไรแบบเดียวกับที่เจโล่กับยงกุกกำลังจะทำนั่นแหล่ะน่าแดซองพูดออกมาทั้งๆ ที่ยิ้มกว้าง
งั้นพวกน้าไปดีกว่า ส่วนพวกนายจะต่อจากเมื่อกี้ก็ได้นะ ฉันจะไม่ไปฟ้องซึงฮยอนกับเซริวหรอกนะ!!” ซึงรีพูดแซวทั้งคู่ก่อนจะเดินออกไป ทิ้งให้เจโล่ที่โดนจับได้ไล่ทันเขินม้วนต้วนอยู่คนเดียว ส่วนยงกุกนะหรอจะอายเขาไม่เคยสนอะไรอยู่แล้ว ก็เขารักของเขาใครจะทำไม?


ที่ห้องคนไข้ที่ไม่ห่างกันนัก กำลังมีคู่รักอีกคู่กำลังงอนง้อกันไปมาอย่างน่ารัก
ยองแจอ่ะ พี่ขอนอนเตียงเดียวกับยองแจไม่ได้หรอครับ?” ฮิมชานพยายามลากสังขารของตัวเองขึ้นเตียงของยองแจตั้งแต่ที่กลับมาในห้องแล้ว
ในห้องนี่มีตั้งสองเตียงแล้วทำไมต้องมาแย่งผมนอนด้วยเล่า!” ยองแจรู้ดี ว่าถ้าเขายอมให้คนอย่างฮิมชานนอนเตียงเดียวกันคงลงเอยแบบเดิมๆ คือเขาคงถูกฮิมชานกินทั้งตัวอีกแน่
ไม่รักพี่เลยรึไงนะยองแจเนี่ย? พี่เจ็บขนาดนี้ยังจะใจร้ายเหมือนเดิมไม่มีผิดฮิมชานที่เริ่มจะน้อยใจนิดๆ ก็กลับไปนอนเตียงตัวเองก่อนจะหยิบผ้าห่มขึ้นมาคุมโปงและนอนหันหลังให้อีกคน
ยองแจที่เห็นแบบนั้นก็เริ่มรู้สึกผิดขึ้นมาหน่อยๆ ไม่ใช่ว่าเขาจะอยากใจร้ายใส่ฮิมชานสักหน่อยก็อีกคนเพิ่งจะโดนกระทบมาเมื่อวาน แล้วถ้าวันนี้เขาปล่อยให้ทำอะไรต่อมิอะไรมีหวังไม่ได้หายกันสักทีอ่ะงานนี้
พี่ฮิมชาน!” ยองแจอยากจะง้อนะ แต่เขาไม่ใช่คนปากหวานหรือขี้อ้อนแบบเจโล่กับจองอบ น้ำเสียงที่เอ่ยเลยกลายเป็นดุกลายๆ ยิ่งทำให้ฮิมชานงอนไปกันใหญ่
พี่ก็นอนของพี่แล้วไง จะมาบ่นอะไรอีกเล่า?” ฮิมชานตะโกนออกมาจากในผ้าห่ม ทำเอายองแจยิ่งทำอะไรไม่ถูก
พี่เนี่ยนะถ้าไม่ได้ออกจากโรงพยาบาลสักทีไม่ต้องมาโทษผมเลยนะ!!” ว่าแล้วยองแจก็เดินไปล็อคประตู ก่อนจะปีนขึ้นไปบนเตียงของฮิมชานแทน ว่าแล้วก็จับฮิมชานให้นอนหงายก่อนจะเริ่มปลดกระดุมของคนที่กำลังอึ้งรับประทาน
ไม่ต้องมาจ้องผมเลย ถ้าทำขนาดนี้แล้วยังไม่เลิกงอนผมจะไม่ง้อแล้วนะ!!” ว่าแล้วยองแจก็ค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อตัวเองออกให้พอหลุดจากไหลก่อนจะปล่อยให้ล่วงไปข้างหลัง
ยองแจอ่า!” ฮิมชานที่เห็นแบบนั้นก็ต้องรีบลุกพรวดขึ้นมากอดยองแจเอาไว้แน่น
ที่นี้จะมาหาว่าผมไม่รักไม่ได้นะยองแจดูเหมือนจะถูกฮิมชานกดดันมากเกินไปหน่อยก้เริ่มร้องไห้ออกมา ก่อนจะโน้มตัวไปซบไหล่ของฮิมชาน อกอุ่นๆ ของฮิมชานทำให้ยองแจยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม
ผมแค่เป็นห่วงพี่นะ ผมกลัวว่าพี่จะไม่หายนี่หน่า เมื่อวานก็โดนกระทืบซะขนาดนั้นยองแจพูดต่อว่าต่อขานให้ฮิมชานที่ไม่ยอมเข้าใจอะไรเลย
ก็พี่เจ็บนี่ครับ พี่ก็เลยอยากให้ยองแจปลอบพี่อ่ะ!” ฮิมชานพูดก่อนจะจับคนร้องไห้ไม่หยุดมาจูบอย่างใจเย็น มือที่วางไว้ที่สะโพกดูเหมือนจะรู้งานเป็นอย่างดี เพราะตอนนี้มันกำลังเลื่อนไปปลดกางเกงของอีกคนออกอย่างคุ้นเคย เล่นเอาคนกำลังร้องไห้ถึงกับร้องไม่ออก
พี่ฮิมชานนะ!” ยองแจรู้สึกเขินเล็กน้อย เพราะฮิมชานกำลังมองเขาด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
วันนี้ยองแจขย่มเองนะครับ พี่ไม่มีแรงอ่ะ!” จริงๆ เขาแค่อยากจะกอดยองแจนอนเท่านั้น แต่เจ้าตัวดีก็ดันมายั่วให้มีอารมณ์ แต่จะออกแรงเองก็ยังไม่ได้ซะด้วยเพราะยังปวดไปทั้งตัวหลังจากโดนกระทืบมามาวาน
คิมฮิมชาน!!” ยองแจรู้ว่าฮิมชานหมายถึงอะไร
พี่โดนกระทืบจนขยับตัวไม่ไหวนี่หน่า แต่ยองแจมายั่วเขาเองนะว่าแล้วฮิมชานก็จับยองแจให้อยู่ในท่าที่เหมาะสมก่อนจะเริ่มเกมส์ให้ก่อนเล็กน้อยเพื่ออีกคนจะได้สานต่อได้สะดวก
อ่า!! พี่ฮิมชานนี่ยองแจรู้สึกเขินเล็กน้อยที่วันนี้เขาต้องเป็นฝ่ายลงแรงเสียเอง แต่ก็จนปัญญาจะต้านสัมผัสของอีกคนอีกพยายามยัดเยียดให้เขา
อย่างนั้นแหล่ะครับยองแจ แบบนั้นแหล่ะฮิมชานที่ได้รับสัมผัสตอบกลับจากยองแจก็เริ่มจะส่งเสียงออกมาอย่างพอใจให้ผลงานของคนขี้อาย
จูบผมหน่อยสิฮ่ะยองแจพูดออกมาเบาๆ ที่ข้างหูของฮิมชานในขณะที่กำลังสวมกอดอีกคนอยู่
ทั้งที่เขินอาย ทั้งที่ไม่เคยจะลงแรงเองสักครั้ง แต่ยองแจก็ทำให้ฮิมชานพอใจในลีลาร้อนได้ไม่น้อยเลย
วันหลังทำแบบนี้อีกนะครับ ยองแจของผม!” ฮิมชานพูดก่อนจะเริ่มลงมือช่วยยองแจอีกแรง เพื่อให้พวกเขาซึมซับความสุขนี้ได้มากที่สุด
หลังจากลีลารักครั้งแรกของยองแจทั้งคู่ก็หมดแรงจนต้องนอนกอดกันกลมบนเตียงคนไข้ก่อนจะหลับไปด้วยกันทั้งคู่



ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น