หลังจากที่คุณน้าทั้งสามออกจากโรงพยาบาลก็รีบตรงดิ่งไปทำงานของตัวเองต่อให้เสร็จ
หลังจากที่ได้รู้อาการของเพื่อนรักและว่าที่หลายเขยก็ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงกันอีก
“จะเอายังไงกับซากของหมอนี้ดีว่ะ” ซากที่แดซองพูดถึงก็คือจองฮยอกที่ในตอนนี้ยังคงถูกเก็บตัวเอาไว้ในห้องใต้ดินของโกดังเก็บของที่อยู่อีกฟากของเมือง
“มันยังไม่ตายสักหน่อยจะเรียกว่าซากได้ไง?”
ซึงรีที่คอยแต่จะขัดแดซองอยู่ตลอดเวลาก็เถียงขึ้นมาลอยๆ
แบบขอกวนสักนิดเดียวนอนไม่หลับ
“นี่ถ้าพวกแกยังไม่หยุดพูดมากฉันจะทำให้พวกแกกลายเป็นซากตามไปด้วย!!”
ยองเบพูดออกมาอย่างใจเย็น ก่อนจะมีอีกคนอีกสองคนตามมาสมทบทีหลัง
“อยู่นี่เอง! ยังไม่ตายใช่ไหมเนี่ย??”
คนเพิ่งมาถึงถามซากที่นอนสลบอยู่อย่างสงสารปนสมเพช
ก่อนจะต้องตกใจที่ได้เจอกับใครบางคนที่น่ายังกะเมียตัวเองไม่มีผิด
“เอ่อ!!” ลุงมินซูกำลังงงตาแตกเพราะหนึ่งในสามคนที่รอเขาอยู่มีคนหนึ่งในนั้นที่หน้าเหมือนกันเมียตัวเองไม่มีผิด
“เป็นไปได้ยังไงกัน??” น้าแดซองที่เจอะกับป้าแดซองก็ยังงง
ทั้งคู่ต่างมองกันไปมาราวกับเห็นตัวเองในกระจกก็ไม่ปาน
“นายเป็นใคร? / ยายป้านี่ใคร??”
คำพูดของทั้งสองคนบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าสับสนไม่ต่างจากคนที่เหลือในที่นี้
“เมียจ๋า เมียมีแฝดด้วยหรอ??” ลุงมินซูสะบัดหน้าเล็กน้อยก่อนจะมองหน้าเมียกับเมียฉบับสำเนาไปมาอย่างบอกไม่ถูก
“นายเป็นใครย่ะ? ลูกเต้าเหล่าใคร??
ชื่ออะไร??? อายุเท่าไหร่????” ป้าแดซองกำลังงงเพราะคนตรงหน้าเหมือนเธออย่างกะฝาแฝด
อันที่จริงน่าจะเรียกว่าเหมือนกำลังส่งกระจกก็ไม่ปาน
“ฉันเป็นเพื่อนของซึงฮยอนกะเซริว
เป็นลูกใครอันนี้ฉันก็ไม่รู้ ส่วนชื่อของฉันคือคังแดซอง
อายุก็น่าจะน้อยกว่าป้านะน่ะ” น้าแดซองกำลังตอบคำถามอย่างกวนๆ
“นายบอกว่านายชื่ออะไรนะ คังแดซอง?? อย่ามาตลกนะ แดซองมันชื่อฉัน นายจะชื่อเหมือนฉันได้ยังไงกัน??” นอกจากหน้าจะเหมือนยังไม่พอ ดันมาชื่อเหมือนกันอีก
ดีนะที่ฉันแซ่จองไม่งั้นได้เหมือนทั้งชื่อทั้งแซ่แน่ๆ
ไม่ใช่แค่แดซองทั้งสองจะงงกันเป็นไก่ตาแตก
แต่คนที่เหลือก็ใบ้รับประทานไปเรียบร้อยด้วยความงงแบบไร้ขีดจำกัด
โชคดีที่ยองเบดูจะมีสติกว่าใครเพื่อน
“นี่พอเถอะ
เอาเป็นว่าเรามาจัดการกับซากที่นอนใกล้ตายนี่ดีกว่าไหม? ส่วนเรื่องของแดซองทั้งสองเอาไว้คุยกันวันหลัง”
ยองเบไม่รอคำตอบจากใครเขากำลังสาดน้ำใส่จองฮยอกให้ตื่นจากหลับใหล
“ว่าไง? แค่โดนเด็กน้อยเล่นงานก็ถึงกับไปไม่เป็นเลยรึไงว่ะ??”
จองฮยอกที่อยู่ในสภาวะเสียเลือดมากและเริ่มไม่รู้สึกที่มือข้างที่โดนเล่นงาน
กำลังทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างช้าๆ
“พวกแกจะเอาอะไรอีก ทำไมไม่ฆ่าฉันสักที??”
ลุงมินซูที่ได้ยินแบบนั้นก็รีบเดินเข้าไปหาคนเจ็บสาหัส
“ฉันจะไว้ชีวิตนาย ลูกน้องของนายทุกคน
ถ้าสาบานว่าชาตินี้จะเลิกมาตอแยกับพวกเราอีก โดยเฉพาะยงกุกกับเจโล่
นายก็เห็นแล้วว่าเวลาที่เด็กคนนั้นคลั่งมันเป็นยังไง ถึงฉันกลับมาไม่ทันได้เห็น
แต่จากสภาพของนายที่เป็นถึงหัวหน้าใหญ่แห่งแก๊งค์ชินฮวาแสดงว่าฝีมือของเจโล่ไม่ใช่เล่นๆ
โดยเฉพาะที่ฉันได้ยินมาว่าเด็กคนนั้นยิ้มทั้งๆ ที่กำลังอัดคนจนปางตาย” จองฮยอกจำได้ดีแววตาที่ไม่สามารถหยั่งถึงนั้นน่ากลัวกลัวเขาเองยังจำได้ติดตา
“แล้วถ้าฉันยอม ฉันจะได้อะไร??” จองฮยอกถามถึงข้อตกลงที่ถูกยื่นให้
“ฉันจะไม่ให้อะไรนาย ข้อเสนอนี้มีเพื่อให้นายตัดสินใจกับชีวิตของตัวเองแต่โดยดี
ถ้าไม่ยุ่งกับพวกเราอีกนายก็รอด
แต่ถ้ามาหาเรื่องอีกก็อาจจะไม่มีใครรักษาชีวิตของนายเอาไว้ในได้อีกแล้ว!!” เป็นข้อเสนอที่จองฮยอกเองก็ปฏิเสธไม่ได้
“ปล่อยลูกน้องของฉัน อย่าฆ่าพวกมัน!! แล้วฉันจะยอมจบเรื่องนี้ทั้งหมด” จองฮยอกพูดออกมาอย่างจนใจ
เขาไม่สามารถต่อกลอนกับคนพวกนี้ได้แน่
ฝีมือของแต่ละคนไม่ใช่ระดับที่เขาจะสู้ได้ด้วยซ้ำไป
ในตอนนี้เขาทำได้เพียงรักษาชีวิตเอาไว้เพื่อกลับไปหาคนรักของเขา
“พามันเข้ามา!!” ลุงมินซูสั่งลูกน้องที่รออยู่ด้านนอกให้นำตัวใครบางคนเข้ามา
“พี่จองฮยอก!!” จุนจินวิ่งเข้าหาจองฮยอกทันทีที่เห็นว่าคนที่นอนเจ็บอยู่คือใคร
“ไปหาหมอเถอะครับ ไปหาหมอกันนะ!!” จุนจินพูดพร้อมกับร้องไห้เหมือนเด็กๆ คนที่มองดูอยู่ก็ได้แต่สมเพชเวทนา
ดูก็รู้ว่ารักกันจนแทบจะตายแทนกันตาย
จนสุดท้ายคนที่ใจแข็งเป็นหินก็ยอมแพ้ให้คนรักทั้งสองที่กำลังโอบกอดกันอย่างทะนุถนอมเพราะเห็นอีกคนกำลังเจ็บหนัก
“นี่พวกนายนะ มาพาหมอนี่ส่งโรงพยาบาลที่สิ
แต่อย่าเอาไปที่เดียวกันล่ะ เดี๋ยวได้ฆ่ากันตายคาโรงพยาบาลอีกรอบ!!” ป้าแดซองออกคำสั่งกับลูกน้องของสามี
ซึ่งเธอรู้ดีว่าในที่นี่ไม่มีใครกล้าขัดใจเธอ
“นี่ป้า! จะใจดีกับคนที่สั่งคนมาทำร้ายลูกชายตัวเองเนี่ยนะ
ได้ข่าวว่าหมอนั่นเป็นคนออกคำสั่งให้กระทืบลูกชายป้านะ เด็กที่ชื่ออะไรนะ? จองแดฮยอนใช่ม่ะ??” น้าแดซองยังคงกวนประสาทป้าแดซองไม่เลิก
จนตอนนี้เริ่มกลายเป็นสงครามน้ำลายระหว่างสองคนนั้นไปแล้ว
“โธ่เมียจ๋า! อย่าโกรธมากสิจ๊ะ
เดี๋ยวไม่สวยนะ!!” แค่ได้ยินคำว่าไม่สวยป้าแดซองก็ใจเย็นขึ้นได้กระทันหันจนน่าตกใจ
“ใจเย็นก็ไม่สวยอยู่ดีนั้นแหล่ะป้า!!” ซึงรีเอ่ยปากแซวพร้อมหัวเราะชอบใจใหญ่ ก่อนจะโดนแดซองเพื่อนตัวเองถีบเอา
“ถ้าแกว่าอีป้าเนี่ยไม่สวย
ก็เท่ากับฉันไม่หล่อสิว่ะ!!” อย่างน้อยก็ไม่อยากให้ใครมาว่าคนหน้าเหมือนว่าขี้เหร่หรอกนะ
ก็มันรู้สึกเหมือนตัวเองโดนว่ายังไงไม่รู้
แต่ก่อนจะมีสงครามน้ำลายอีกรอบ
ยองเบก็รีบพูดตัดบทก่อนใครจะทันได้พูดอะไร
“ไปหาพวกที่อยู่โรงพยาบาลกันดีกว่านะ
ถ้ายังจะมีใครเถียงใครอีกฉันจะฆ่าหมกไว้นี่ซะ!!!” สิ้นสุดคำพูดของยองเบทุกคนก็ยอมทำตามอย่างว่าง่าย
แม้แต่ลุงมินซูก็สัมผัสได้คนๆ นี้น่ากลัวพอๆ กับยงกุก
ในรถที่มีเพียงเพื่อนรักทั้งสามนั่งมาด้วยกัน
บทสนทนาแห่งความสงสัยก็เกิดขึ้น
“ถามจริงๆ ว่ะแดซอง
ตกลงแกรู้จักยายป้านั่นรึเปล่าว่ะ??” แดซองที่นั่งเงียบหลังจากขึ้นรถดูเหมือนจะเงียบจนเพื่อนอึดอัด
“ฉันว่าน่าจะใช้คนที่ฉันรู้จักนะ
พวกแกจะเชื่อฉันไหมว่ายายป้านั่นเป็นพี่สาวแท้ๆ ของฉัน” ยองเบที่ขับรถอยู่ก็เบรกจนล้อลากยาวเป็นทาง
ส่วนซึงรีที่นั่งอยู่เบาะหลังก็กระโดดเป็นลิงเพราะตกใจอย่างแรง
“เฮ้ย!!! เบรดทำไมว่ะ??”
ซึงรีบ่นให้ยองเบแบบปวดจิต
“พี่สาวของแกเนี่ยนะ แล้วทำไมชื่อเดียวกันว่ะ??”
ยองเบถามแดซองอย่างต้องการคำตอบ
“พ่อกับแม่ไม่รู้คิดอะไร
ดันใส่ชื่อในใบเกิดเหมือนกัน
คงหวังว่าถ้ามาเจอกันอีกครั้งจะได้แน่ใจว่าเป็นพี่น้องกันล่ะมั้ง?” แดซองตอบพร้อมรอยยิ้มเช่นที่เคยเป็น
“แต่จริงๆ แล้วยัยป้านั่นน่าจะชื่อว่าแดวอนนะ
ถ้าฉันจำที่พ่อบอกมาไม่ผิดนะ!!” ว่าแล้วก็ยักไหล่แบบขอไปทีใส่เพื่อนที่อยู่ในรถ
จนยองเบกับซึงรีขี้เกียจถามต่อก็เลยต้องออกรถไปอีกรอบ
ส่วนอีกด้านก็เป็นลุงมินซูที่ยังงงไม่หายว่าเมียตูมีฝาแฝดตั้งแต่เมื่อไหร่
“เมียจ๋า! บอกพี่ได้ไหมว่ารู้จักคนที่ชื่อแดซองนั่นรึเปล่า?”
ป้าแดซองมองหน้าลุงมินซูอย่างเอือมๆ เพราะเธอขี้เกียจจะพูดถึงมัน
“เมียจ๋า! ถ้าไม่บอกพี่จะปล้ำน้องมันกลางทางเนี่ยล่ะ!!”
ว่าแล้วก็ปิดกระจกกั้นระหว่างคนขับกับเบาะหลังก่อนจะทำหน้าหื่นใส่เมียตัวเอง
“ก็ได้ๆ พูดแล้ว ตาบ้ามินซูจอมหื่นกามหยุดเดี๋ยวนี้นะ!!!”
ทันทีที่ได้ยินมินซูก็หยุดแล้วก็ยอมฟังแต่โดยดี
“จ๊ะเมียจ๋า!!” ว่าแล้วก็ส่งจุ๊บไปให้เมียสองสามที
“ชื่อจริงๆ ของฉันชื่อแดวอน
แม่เคยบอกว่าฉันมีน้องชายชื่อแดซอง สงสัยตอนไปแจ้งเกิดคงจะเมาล่ะมั้ง
ถึงได้ใส่ชื่อว่าแดซองทั้งคู่นะ ดีแต่ว่าคนละนามสกุล ชิ!!” แดซองพูดอย่างเซ็งๆ
ก็ใครมันจะไปคิดว่าแก่ใกล้ตายแล้วจะมาเจอน้องชายแบบนี้กันล่ะ
“บอกแล้วที่นี้เลิกถามอะไรฉันอีกเด็ดขาด
ขี้เกียจจะตอบย่ะ!!!” ว่าแล้วก็หยิบพัดขึ้นมาพัดให้ใจเย็นทั้งที่แอร์ก็เปิดแท้ๆ
หลังจากค่ำคืนเร้าร้อนที่ชวนในโรงพยาบาลระเบิด
คู่รักที่กำลังสำลักความหวานหยดย้อยก็นอนกอดกันกลม
ไม่ได้สนใจคุณหมอคุณพยาบาลที่กำลังวุ่นวายกับการรักษาคนไข้อาการสาหัสที่ถูกทะยอยส่งมาที่โรงพยาบาลไม่ได้ว่างเว้น
ไม่ได้รู้ตัวกันสักนิดว่าตอนนี้กำลังมีคนจะมาเยี่ยม โดยเฉพาะแดฮยอนกับจองอบที่ยังอยู่ในสภาพล่อนจ้อนทั้งคู่
เล่นเอาคนเปิดประตูเข้ามากรี๊ดโรงพยาบาลแทบแตก ก็แหมๆๆ
คุณนายแดซองแกไม่รู้ว่าลูกชายได้เมียแล้วนี่เน๊าะ
“จองแดฮยอน!!!” เสียงคุณนายแผดดังก้องห้องพักคนไข้
เล่นเอาห้องข้างเริ่มจะรู้ตัวกันรีบตื่นมาจัดแจงสภาพตัวเองให้เนียนเข้าไว้
“ลุงมินซู ป้าแดซอง!!” จองอบที่กำลังโดนแดฮยอนกอดไว้แน่นกำลังพยายามจะหาคำแก้ตัว
“ผมนอนกกเมียมันผิดตรงไหนเนี่ย? รู้แล้วก็ดี! ไปขอจองอบให้ผมเลยด้วยนะแม่!”
แดฮยอนไม่ได้แคร์คนเป็นแม่สักเท่าไหร่
ยังไงซะพ่อของเขาก้รู้มานานแล้วอ่านะ
“เมียจ๋า ใจเย็นก่อนนะจ๊ะ!!” ลุงมินซูพยายามจะลากเมียตัวเองออกจากห้อง
เพราะรู้สึกสงสารว่าที่ลูกสะใภ้นิดๆ
“อย่าบอกนะว่าคุณก็รู้เห็นเป็นใจนะ??” แดซองกำลังตบตีสามีตัวเองเพื่อระบายความโมโห
“ก็เด็กมันรักกันจะไปห้ามทำไม? อีกอย่างจองอบก็เป็นเด็กน่ารัก พูดจาไพเราะ กิริยามารยาทก็เหมาะจะเป็นแม่ศรีเรือนนะเมียจ๋า!!”
ว่าแล้วลุงมินซูจะชงให้ลูกชายตัวดีเสร็จสรรพ
“ฉันไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น
แต่นี่ดันมาทำแบบนี้ตอนยังไม่หายดีเนี่ยนะ?” แดซองได้แต่เดินสะบัดสะบิ้งแบบหัวเสียสุดฤทธิ์
“พี่แดฮยอน แม่พี่จะชอบผมไหมฮ่ะ??” จองอบกลุ้มใจที่เจอว่าที่แม่สามีในสภาพแบบนั้น
“แม่ชอบรึเปล่าไม่รู้
รู้แต่พี่รักของพี่ก็แล้วกัน!!”
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น